กลุ่มสื่อจีนรายงาน (18 ก.ค.) - ประธานาธิบดีจีน สีจิ้นผิง สั่งการให้มีมาตรการป้องกันและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่รุนแรงขึ้นในวันศุกร์ (17ก.ค.) และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินของผู้คน
สี จิ้นผิง ซึ่งเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำคณะกรรมการกลาง กล่าวในขณะที่เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกลางของสำนักการเมือง คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน เน้นว่าการป้องกันน้ำท่วมและงานกู้ภัยมีความสำคัญต่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินของผู้คน ความมั่นคงด้านอาหาร ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ความมั่นคงทางสังคมและความมั่นคงของรัฐ โดยให้คณะกรรมการพรรคท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง หน่วยงานของรัฐบาลกองทัพปลดปล่อยประชาชน ร่วมประสานงานความพยายามในการบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย นับตั้งแต่เกิดอุทกภัยในภาคใต้ของจีนเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
กระทรวงการจัดการเหตุฉุกเฉินกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ตั้งแต่เดือนมิถุนายนฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง พื้นที่ส่วนใหญ่ทางภาคใต้ของจีนและน้ำของแม่น้ำหลายสาย ใน 24 พื้นที่ระดับมณฑลทั่วประเทศจีน ได้ทวีสูงเกินระดับปลอดภัย มีประชาชนราว 20.27 ล้านคนได้รับผลกระทบ
มณฑลเจียงซี มณฑลอานฮุยและหูเป่ย มีผู้เสียชีวิต 23 ราย และต้องอพยพย้ายถิ่นฐานผู้คน ประมาณ 1.76 ล้านคนในเดือนนี้ นอกจากนี้ในเดือนกรกฎาคมยังมีบ้านเรือนอีก 89,000 หลัง เสียหาย ขณะที่ความเสียหายทางเศรษฐกิจโดยตรงอยู่ที่ 4.918 หมื่นล้านหยวน (7.03 พันล้านดอลลาร์)
อู่ฮั่น เมืองใหญ่ภาคกลางของจีน และมณฑลต่าง ๆ คือ อานฮุย เจียงซี และเจ้อเจียง ได้ประกาศเตือนภัยระดับสีแดง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา( 17 ก.ค.) ขณะที่ฝนตกหนักทำให้ทะเลสาบและแม่น้ำหลายสายเอ่อล้น ทั่วพื้นที่เมือง ชนบท และเขตการค้าพาณิชย์
นครอู่ฮั่น ริมแม่น้ำแยงซี ซึ่งเผชิญกับโรคระบาดให้เมื่อปลายปีที่แล้วข้ามมาจนปีนี้ ได้เตือนผู้อาศัยให้เฝ้าระวังเนื่องจากระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึงขีดสุดของระดับความปลอดภัย
เขื่อนยักษ์สามโตรก ขณะนี้ได้กักน้ำมหาศาลเพื่อชะลอความเสียหายและความเสี่ยงอื่น ๆ จากน้ำท่วม โดยมีระดับน้ำสูงกว่าขีดเตือนภัยไปแล้ว 10 เมตร ขณะที่ยังคงมีน้ำบ่าในปริมาณมหาศาลมากกว่า 50,000 ลูกบาศก์เมตร/วินาที
ฝนฤดูร้อนมักก่อให้เกิดอุทกภัยในจีนทุกปี เศรษฐกิจ การผลิตและการค้าพาณิชย์ ตลอดจนการขนส่งสินค้าต่าง ๆ ของจีน ต้องหยุดตัวเกือบทุกครั้ง ปีนี้ก็เช่นกัน ทว่าปีนี้จะหนักกว่า ตรงที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจในหลายส่วนของจีน เพิ่งจะได้เริ่มขยับขึ้นมาครั้งแรกหลังจากเปิดเมืองเมื่อเดือนเมษายน ไตรมาสสอง ที่ผ่านพ้นวิกฤตโรคระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (17 ก.ค.) มอร์แกน สแตนลีย์ ได้ส่งรายงานยังลูกค้าและนักลงทุนว่า "เราคาดการณ์ว่า อุทกภัยในภูมิภาคแม่น้ำแยงซีจะฉุดชะลอการเติบโตเศรษฐกิจลงไปในไตรมาสสาม ราว 0.4-0.8 เปอร์เซนต์ของการเติบโตจีดีพี"
รายงานข่าวกล่าวว่า ฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง ยังส่งผลกระทบให้แม่น้ำชิงเจียง ในพื้นที่ของแคว้นปกครองตนเองเอินซือ กลุ่มชาติพันธุ์ถู่เจียและเหมียว มณฑลหูเป่ย ทางตอนกลางของจีน มีปริมาณน้ำล้นเขื่อน พื้นที่ส่วนใหญ่ในเขตเมืองถูกน้ำท่วมมิด ถนนบางช่วงมีปริมาณน้ำสะสมลึกหลายเมตร
แม่น้ำชิงเจียงเป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำแยงซี เมื่อเวลา 17:30 น. ของวันศุกร์ (17 ก.ค.) ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านสถานีระดับน้ำเอินซือเกิน 3,670 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำสูงเกิน 418.5 เมตร
ขณะที่หมู่บ้านเติ้งเจี่ย ในเขตผั่วหยาง มณฑลเจียงซี ทางตะวันออกของจีน สำนักงานอุทกศาสตร์เจียงซี แจ้งเตือนภัยสีแดงในวันศุกร์ เนื่องจากระดับน้ำในพื้นที่ทะเลสาบฯ ยังคงสูงกว่าระดับการแจ้งเตือน
หน่วยงานทรัพยากรน้ำเมืองเอินซือตัดสินใจที่จะยกระดับแผนตอบสนองเหตุฉุกเฉินรับมือน้ำท่วมในเมืองเอินซือจากระดับ 4 เป็นระดับ 3 เมื่อเวลา 12:00 น. และเลื่อนเป็นระดับ 2 เมื่อเวลา 13:30 น. จนกระทั่งเลื่อนถึงระดับ 1 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด เมื่อเวลา 16:30 น.
(ภาพสถานการณ์น้ำท่วม มณฑลต่าง ๆ อาทิ หมู่บ้านเติ้งเจี่ย ในเขตผั่วหยาง มณฑลเจียงซี อู่ฮั่น และแคว้นปกครองตนเองเอินซือ กลุ่มชาติพันธุ์ถู่เจียและเหมียว มณฑลหูเป่ย)
