เอเจนซีส์--นับจากฝนตกหนักซัดกระหน่ำแดนมังกรติดต่อทุกวันนานหนึ่งสัปดาห์ ระดับน้ำในทะเลสาบโผหยังซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่สุดในจีนสูงทะลุขีดแดงแล้ว ขณะที่อู่ฮั่นเมืองเอกของมณฑลหูเป่ยประสบน้ำท่วมใหญ่ในรอบ 89 ปี ด้านเขื่อนสามโตรก (The Three Gorges Dam) ซึ่งมีขนาดใหญ่สุดในโลก มีระดับน้ำสูงเกินระดับเตือนภัยไป 5.50 เมตรแล้ว
ฝนตกหนักติดต่อกันเป็นสัปดาห์ทำให้น้ำท่วมล้นมหานทีแยงซีเกียงซึ่งมีความยาว 6,300 กิโลเมตร จากทะเลสาบต้งถิงในมณฑลหูเป่ยทอดยาวไปถึงปากทางออกสู่ทะเลที่เซี่ยงไฮ้ ระดับน้ำในหลายพื้นที่สูงเกินเกณฑ์เตือนภัย
กลุ่มสื่อจีนรายงาน(12 ก.ค.) พื้นที่ประสบน้ำท่วมใหญ่อย่างสาหัสที่สุดคือ มณฑลเจียงซีทางภาคตะวันออกจีนโดยระดับน้ำที่ทะเลสาบโผหยังซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดใหญ่ที่สุดของประเทศจีน สูงเป็นประวัติการณ์ในรอบ 22 ปี
สำนักทรัพยากรน้ำมณฑลเจียงซีเผยว่าเมื่อเวลาราว 00.00 น. ของวันอาทิตย์ (12 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น สถานีอุทกวิทยาซิงจื่อซึ่งดูแลทะเลสาบโผหยัง บันทึกระดับน้ำได้ที่ 22.53 เมตร ซึ่งสูงกว่าระดับที่เคยบันทึกไว้ในปีค.ศ. 1998 ราว 0.01 เมตร และยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ระดับน้ำของแม่น้ำในเจียงซีสูงเกินเกณฑ์เตือนภัยมาตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่กระแสน้ำในสถานีอุทกวิทยาท้องถิ่นสูงเกินเกณฑ์เตือนภัยแล้ว 34 แห่ง ในคืนวันที่ 9 ก.ค. เขื่อนป้องกันน้ำท่วมแห่งหนึ่งในอำเภอโผหยังได้แตกพังทลาย น้ำไหลบ่าท่วม 15 หมู่บ้านรอบบริเวณเขื่อน
อุทกภัยครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในเจียงซีมากกว่า 5 ล้านคนแล้ว โดยมีประชาชนถูกอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ว 432,000 คน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน 167,000 คน
ขณะเดียวกันพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายมากกว่า 2.7 ล้านไร่ และสร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจโดยตรงสูงถึง 6.49 พันล้านหยวน (ราว 2.9 หมื่นล้านบาท) ขณะที่เมื่อวันเสาร์ (11 ก.ค.) ประชาชนท้องถิ่นอีกมากกว่า 53,300 คน กำลังเผชิญหน้ากับเหตุอุทกภัย โดยได้รับความช่วยเหลือเป็นอุปกรณ์เครื่องกล จำนวน 1,545 ชุด
ระดับน้ำที่อู่ฮั่นทำสถิติสูงสุดในรอบ 89 ปี
ขณะนี้ระดับน้ำแยงซีเกียงช่วงเมืองอู่ฮั่นสูง 28.33 เมตร เกินเกณฑ์เตือนภัยไป 1.03 เมตร ถือเป็นสถิติระดับน้ำสูงที่สุดนับจากปี 1931 หรือ 89 ปีที่แล้ว ขณะนี้ระดับน้ำฯยังสูงขึ้นๆทุกวัน
เก๋งจีนชมวิวแม่น้ำในเขตหนันชางจมน้ำเห็นแต่หลังคา ศูนย์บัญชาการป้องกันน้ำท่วมประกาศปิดหาดในฮั่นโข่ว อู่ชาง และฮั่นหยัง
ระบายน้ำจากเขื่อนสามโตรก
ผู้เชี่ยวชาญเผยมวลน้ำจากแยงซีเกียงตอนบนได้ไหลบ่าเข้าสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนสามโตรกจนกระทั่งคืนวันที่ 11 ก.ค. ระดับน้ำสูง 150.50 เมตร ซึ่งเกินเกณฑ์เตือนภัยไป5.50 เมตร
ก่อนหน้านี้ วันที่ 29 มิ.ย. ระดับน้ำในเขื่อนสามโตรกสูงขึ้นจนใกล้แตะระดับ 147 เมตรซึ่งเกินขีดเตือนภัยไป 2 เมตร เจ้าหน้าจึงเปิดประตูเขื่อนระบายน้ำออกวันละเฉลี่ยกว่า 35,000 ลูกบาศก์เมตร/วินาที และจากวันที่ 11 ก.ค.เป็นต้นมา เจ้าหน้าที่ได้ชะลอการระบายน้ำออกจากเขื่อนเป็นวันละ 25,000 ลูกบาศก์เมตร- 22,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเพื่อลดความกดดันในบริเวณตอนล่างของลำน้ำ
หลายสัปดาห์มานี้ รัฐบาลทุ่มเททรัพยากรมหาศาลไปกับการควบคุมโรคระบาดจากเชื้อโควิด-19 และไม่ค่อยตระหนักถึงการป้องกันภัยพิบัติน้ำท่วม กลุ่มสื่อของรัฐเขียนรายงานเกี่ยวกับภัยพิบัติฝนตกหนักเพียงคร่าวๆ ขณะที่เจ้าหน้าที่ในหน่วยเซนเซอร์ข่าวติดตามลบภาพน้ำท่วมที่น่าตกใจที่ชาวเน็ตจีนโพสต์ในโซเชียลมีเดีย จนกระทั่งในวันที่ 8 ก.ค. นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง เดินทางไปตรวจการพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม จากนั้นหน่วยรัฐจึงหันมาทุ่มเทมาตรการป้องกันน้ำท่วมกันเต็มสูบ
หม่า จวิน ผู้ก่อตั้งศูนย์วิจัยสาธารณะและสิ่งแวดล้อม ชี้ถึงความรุนแรงของอุทกภัยในบริเวณลุ่มน้ำแยงซีเกียงครั้งนี้ ไม่เพียงแค่ปริมาณฝนที่ตกลงมา วิกฤตฝนตกหนักในแต่ละพื้นที่ยังเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากมาก
หม่าไม่ปฏิเสธเรื่องสภาพอากาศที่ผิดปกติมีส่วนทำให้เกิดภัยพิบัติธรรมชาติครั้งนี้ แต่สาเหตุใหญ่ที่ส่งผลกระทบมากที่สุดคือการพัฒนาเมือง และการสร้างเขตอุตสาหกรรม
คลิประดับน้ำในทะเลสาบโผหยังยังสูงขึ้นเรื่อยๆ
ศูนย์บัญชาการป้องกันน้ำท่วมจีนเผยข้อมูลนับถึงวันที่ 12 ก.ค. อุทกภัยในปีนี้ได้สร้างความเสียหายแก่ มณฑลต่างๆ ได้แก่ เจียงซี อันฮุย หูเป่ย หูหนัน กว่างตง กว่างซี ฉงชิ่ง เสฉวน และอื่นๆรวม 27 มณฑลและเขตการปกครอง ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 37.89 ล้านคน มีผู้เสียชีวิตและสูญหาย 141 คน