เอเจนซีส์--รองนายกรัฐมนตรีและผู้ดูแลกิจการภายในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง และมาเก๊า นายหาน เจิ้ง ยืนยันจีนแน่วแน่ในการผลักดันกฎหมายความมั่นคงแห่งฮ่องกง ซึ่งมีเป้าหมายจัดการกลุ่มเคลื่อนไหวอิสรภาพดินแดน และ “อำนาจมืด” ที่คอยหนุนหลังกลุ่มประท้วงฯ
สืบเนื่องจากการเสนอร่างกฎหมายความมั่นคงฮ่องกงในการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งจีน (เอ็นพีซี) หรือสภานิติบัญญัติที่เปิดประชุมในวันศุกร์(22 พ.ค.) กลุ่มผู้สนับสนุนประชาธิปไตยฮ่องกงได้ออกมาเดินขบวนประท้วงบนท้องถนนในสุดสัปดาห์เพื่อต่อต้านกฎหมายความมั่นคงฮ่องกงซึ่งพวกเขามองว่าจะทำให้ฮ่องกงตกอยู่ภายใต้อำนาจครอบงำของรัฐบาลในปักกิ่งโดยไม่เหลืออำนาจปกครองตัวเอง พร้อมกับลิดรอนสิทธิเสรีภาพชาวฮ่องกง
ในวานนี้(24 พ.ค.) ตำรวจปราบจลาจลได้ระดมยิงแก็สน้ำตาและปืนฉีดน้ำแรงดันสูงสลายกลุ่มประท้วง ระเบิดศึกวุ่นวายในดินแดนระลอกใหม่ อีกทั้งมีการทำลายและปล้นร้านค้า ระหว่างศึกตะลุมบอนในคืนวานนี้ตำรวจได้จับกลุ่มผู้ประท้วงไปอย่างน้อย 180 คน อีกทั้งมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง ขณะเดียวกันผู้นำจีน นายหาน เจิ้ง ซึ่งเป็นมือขวาดูแลกิจการฮ่องกงกล่าวกับผู้แทนจากฮ่องกง
เมื่อวานนี้(24 พ.ค.) ในการประชุมนอกรอบระหว่างการประชุมเต็มคณะสภาผู้แทนประชาชนแห่งจีน ชี้ถึงความขัดแย้งทางการเมืองในฮ่องกง ว่ากลุ่มเคลื่อนไหวอิสรภาพฮ่องกง และ “อำนาจมืด” กำลังทำลายการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของดินแดน และได้ทำลายระบอบ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” อย่างถึงที่สุดแล้ว
“อย่าได้ประเมินต่ำต่อความมุ่งมั่นของจีน เมื่อเรา(สภา) ได้ตัดสินใจ เราก็จะผลักดันมันอย่างเต็มที่” หาน เจิ้ง
สถานีโทรทัศน์กลางแห่งจีน หรือซีซีทีวีรายงานคำกล่าวของหาน เจิ้ง ว่า เป้าหมายของกฎหมายความมั่นคงมุ่งจัดการฝักฝ่ายกลุ่มเล็กๆที่ต้องการเคลื่อนไหวอิสรภาพฮ่องกง และ “อำนาจมืด” ที่อยู่เบื้องหลังฯ ทั้งนี้ ผู้นำจีนมักอ้างถึงอำนาจต่างชาติที่คอยสนับสนุนกลุ่มประท้วงต่อต้านรัฐบาลเป็น “อำนาจมืด”
แหล่งข่าวในการประชุมนอกรอบฯเผยว่ากลุ่มเป้าหมายที่กฎหมายความมั่นคงต้องการจัดการ ได้แก่ กลุ่มเคลื่อนไหวอิสรภาพดินแดน กลุ่มหัวรุนแรง และกลุ่มประท้วงที่ต้องการทำลายเศรษฐกิจฮ่องกงด้วยคำยุแหย่ว่า “หากพวกเราถูกเผา คุณก็ต้องมอดไหม้ไปด้วย”
สื่อในฮ่องกง เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ ระบุว่ากฎหมายความมั่นคงฉบับนี้จะเปิดทางให้จีนส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปในฮ่องกง และรัฐบาลท้องถิ่นก็สามารถจัดตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมารักษาความมั่นคงดินแดน
รองนายกฯหานยังเสนอช่องทางในการประกันระบอบการปกครองภายใต้สูตร “หนึ่งประเทศ สองระบบ” สำหรับรักษาความสัมพันธ์ระหว่างฮ่องกง และรัฐบาลกลาง พร้อมยืนยันหลักการ “ชาวฮ่องกงปกครองฮ่องกง” โดยให้อำนาจปกครองตัวเองระดับสูง
เป็นที่คาดว่าจะผ่านสภานิติบัญญัติจีนจะรับรองกฎหมายความมั่นคงในวันพฤหัสฯที่ 28 พ.ค.นี้
ในวันเดียวกัน ระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน รัฐมนตรีต่างประเทศแห่งจีน นาย หวัง อี้ ตอบคำถามประเด็นสหรัฐฯขู่จะคว่ำบาตรจีนตอบโต้การผ่านกฎหมายความมั่นคงฮ่องกง “สถานการณ์ฮ่องกงเป็นกิจการภายในประเทศจีน...การปกป้องความมั่นคงดินแดนเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลกลางทุกประเทศ นอกจากนี้การตัดสินใจใดๆของสภาผู้แทนประชาชนจะไม่กระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของผู้อาศัยในฮ่องกงรวมทั้งผลประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ
ก่อนหน้านี้รัฐสภาและกลุ่มนักกำหนดนโยบายในประเทศต่างๆกว่า 23 แห่ง ได้ประกาศแถลงการณ์ร่วมประณามการตัดสินใจของจีนโดยชี้ว่า “บูรณาการในระบอบหนึ่งประเทศ สองระบบ แขวนอยู่บนเส้นด้าย”
อนึ่ง ในปี 2003 รัฐบาลฮ่องกงถูกบีบให้ต้องแขวนกฎหมายความมั่นคงหลังจากที่ชาวฮ่องกงราวครึ่งล้านคนออกมาเดินขบวนประท้วงต่อต้านกฎหมายฯด้วยความวิตกกลัวว่ากฎหมายฯฉบับนี้จะหั่นสิทธิและเสรีภาพของดินแดน
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่าในวานนี้(24 พ.ค.) ที่ปรึกษาความมั่นของทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน นายโรเบิร์ต โอไบรอัน ออกโรงขู่ผ่านรายงาน “พบสื่อ” (Meet the Press) ของค่ายสื่อ NBC ว่าการผ่านกฎหมายความมั่นคงฮ่องกงอาจทำให้สหรัฐฯต้องออกมาตรการคว่ำบาตรจีนและจะส่งผลกระต่อสถานภาพศูนย์กลางการเงินของฮ่องกง เนื่องจากการผ่านกฎหมายความมั่นคงนี้เป็นการยึดครองฮ่องกงโดยพื้นฐานและยุติการปกครองตัวเองของดินแดน
ด้านไต้หวัน ประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน กล่าวถึงการประท้วงในฮ่องกงเพื่อต่อต้านกฎหมายความมั่นคง ว่า “ไต้หวันจะให้ความช่วยเหลือเท่าที่จำเป็นแก่ชาวฮ่องกง”
ไช่แสดงความเห็นผ่านบัญชีเฟสบุ๊คของตนว่า กฎหมายความมั่นคงฮ่องกงจะคุกคามต่อเสรีภาพและความอิสระของศาลยุติธรรมฮ่องกงอย่างมาก
อนึ่ง ไต้หวันกลายเป็นที่หลบภัยการเมืองแห่งหนึ่งของกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตยฮ่องกงนับจากปีที่แล้วที่การประท้วงในฮ่องกงระเบิดรุนแรงที่สุด อย่างไรก็ตาม ไต้หวันไม่มีกฎหมายว่าด้วยผู้อพยพที่จะรับรองฐานของผู้ประท้วงฮ่องกงซึ่งขอลี้ภัยบนเกาะ