กลุ่มสื่อต่างประเทศรายงาน (23 ธ.ค.) สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯขึ้นบัญชีดำ "เถาเป่า" หลังกลุ่มผู้ประกอบการนานาชาติร้องเรียนปัญหาสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์
วันพุธ (21 ธ.ค.) สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (United States Trade Representative) ประกาศขึ้นบัญชีดำเว็บไซต์ "เถาเป่า" ตลาดสินค้าออนไลน์ภายใต้อาณาจักรอาลีบาบา (Alibaba) ยักษ์ใหญ่ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ (e-commerce) หรือการซื้อขายสินค้าบนโลกออนไลน์ของแดนมังกรของ "แจ็ค หม่า" โดยจัดให้เป็น “ตลาดขายสินค้าอื้อฉาว” หลังกลุ่มผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าหรูหราพากันร้องเรียนว่า เถาเป่าตอบสนองการร้องเรียนเรื่องสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ไม่เต็มที่เท่าที่ควร
สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯระบุว่า แม้ว่าอาลีบาบาจะพยายามกำจัดสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์บนเว็บไซต์อย่างแข็งขัน ทว่า สถานการณ์สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์บนเว็บไซต์เถาเป่ายังเลวร้ายในระดับที่ยอมรับไม่ได้ โดยบริษัทยานยนต์แห่งหนึ่งร้องเรียนว่า สินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าของตนบนเว็บไซต์เถาเป่าอย่างน้อย 95% เป็นสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ นอกจากนี้ สถานการณ์ดังกล่าวยังเป็นภัยต่อเศรษฐกิจและอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนได้ในบางกรณี
แม้การขึ้นบัญชีดำจะไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการประกอบการของเว็บไซต์เถาเป่า แต่เป็นการทำลายความพยายามสร้างภาพลักษณ์ในการเป็นตลาดปลอดสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการขยายตลาดไปสู่ระดับโลก และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันกับคู่แข่งสำคัญอย่าง “อีเบย์” และ “อเมซอน” ของสหรัฐ
“ไมเคิล อีแวนส์” (Michael Evans) ประธานบริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป แถลงว่า อาลีบาบารู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่งต่อการขึ้นบัญชีดำฯ เนื่องจากอาลีบาบาได้ยกระดับการปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ได้เข้มแข็งกว่าเมื่อ 4 ปีที่แล้ว โดยได้ปราบปรามสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์มากขึ้นเป็น 2 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2558 ซึ่งเขาได้ตั้งคำถามว่าการตัดสินใจของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ มีนัยทางการเมืองแอบแฝงหรือไม่
ทั้งนี้ เว็บไซต์เถาเป่าเคยถูกขึ้นบัญชีดำมาแล้วในปี 2554 ก่อนจะถูกถอดออกจากบัญชีดำในปี 2555 หลังอาลีบาบาได้พยายามกำจัดสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์บนเว็บไซต์