กลุ่มสื่อจีนรายงาน วันพฤหัสบดี (3 พ.ย.) เวลา 20.43 น. จีนได้ส่งจรวด “ฉางเจิง 5” (长征五号) หรือที่รู้จักกันในชื่อสากล “ลองมาร์ช 5” ขึ้นสู่อวกาศ จากแท่นส่งดาวเทียมในเมืองเหวินชาง มณฑลไห่หนัน (ไหหลำ) เป็นผลสำเร็จ
รายงานระบุว่า ฉางเจิง 5 เป็นจรวดขนส่งขนาดใหญ่ที่สุดและมีพลังขับเคลื่อนมากที่สุดเท่าที่จีนเคยมีมา โดยสามารถบรรทุกน้ำหนักได้ถึง 25 ตันขึ้นสู่วงโคจรระดับต่ำ (Low Earth Orbit) และ 14 ตันสำหรับวงโคจรค้างฟ้า (geostationary orbit) เป็นการยกระดับความสามารถด้านอวกาศของประเทศขึ้นไปอีกระดับ เสมอกับสุดยอดจรวด “เดลต้า 4 เฮฟวี่” (Delta IV Heavy) ของสหรัฐฯ
ดร. มอร์ริส โจนส์ (Morris Jones) ผู้เชี่ยวชาญด้านอวกาศของออสเตรเลียระบุว่า ความสำเร็จดังกล่าวของจีนจะนำไปสู่การพัฒนาขั้นต่อๆไป เนื่องจากเทคโนโลยีทางจรวดเป็นฐานรากของกิจกรรมอื่นๆ เช่นการสร้างสถานีอวกาศ การดำเนินภารกิจทางอวกาศด้วยหุ่นยนต์ขนาดใหญ่บนดาวอังคารหรือดวงจันทร์
ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์พีเพิ่ล เดลี่ ของจีน ระบุว่า จรวดฉางเจิง 5 จะถูกนำไปใช้ในปฎิบัติการสำรวจพื้นที่ดวงจันทร์และดาวอังคาร ภายใต้โครงการ “ดวงดาวสีแดง” (Red Planet) ซึ่งอาจเริ่มต้นภายในระยะเวลา 4 ปี
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนชัดถึงความทะเยอทะยานของจีน ในการเข้ามามีบทบาทใหญ่มากขึ้นในโลกอวกาศระหว่าง 30 ปี ถึง 50 ปีข้างหน้า และบรรลุความปรารถนาในการเข้าแข่งขันในตลาดขนส่งดาวเทียมสื่อสารของโลก
กลุ่มนักวิเคราะห์ด้านอวกาศหลายคนชี้ ว่าการแจ้งเกิดของ ฉางเจิง 5 จะช่วยลดช่องว่างการพัฒนาด้านอวกาศที่จีนล้าหลังสหรัฐฯอยู่นับสิบๆปี เหลือเพียงไม่กี่ปีแล้ว จากนี้เป็นต้นไปเกมในโลกอวกาศได้เปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้ง