เซินเจิ้นนิวส์ รายงาน (18 ต.ค.) ว่าพบชายจีนคนหนึ่งในมณฑลกวางตุ้ง เสียชีวิตหลังเชื้ออะมีบากัดกินเนื้อเยื่อสมอง
รายงานข่าวกล่าวว่า ชายคนดังกล่าวได้ไปว่ายน้ำในบ่อแห่งหนึ่งในเซินเจิ้น เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม และ 5 วันต่อมา เขามีอาการปวดศีรษะ เริ่มเป็นไข้ และไอ แต่ก็ยังสามารถเดินทางต่อไปยังมณฑลเจ้อเจียงได้
อย่างไรก็ตาม สุขภาพของเขาทรุดลงอย่างรวดเร็ว จนถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลท้องถิ่นในเมืองหังโจว เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม และเข้ารับการรักษาในแผนกประสาทวิทยาฯ
วันที่ 30 สิงหาคม แพทย์พบอาการที่แสดงให้เห็นว่าสมองกำลังถูกทำลาย จึงรีบส่งตัวเขาไปรับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลเซินเจิ้น 3 จนกระทั่งเสียชีวิตในวันที่ 3 กันยายน
ตามข้อมูลของโรงพยาบาลเซินเจิ้น 3 ระบุว่าได้ตรวจพบว่าสมองของชายผู้ป่วยติดเชื้ออะมิบารุนแรง เป็นเหตุให้สมองถูกทำลายเฉียบพลัน และเสียชีวิต
ทั้งนี้ อะมีบากินสมอง หรือ "โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากอะมีบา" เกิดจากเชื้ออะมีบา ซึ่งอาศัยอยู่ในธรรมชาติ ตามแหล่งน้ำจืดที่มีอุณหภูมิค่อนข้างสูง หรือแหล่งน้ำขังปนเปื้อนในเขตอุตสาหกรรม แม้จะเป็นเชื้อที่ชอบอยู่อิสระมากกว่าอยู่ในร่างกายคนหรือสัตว์ แต่หากเข้าไปในคนหรือสัตว์จะเริ่มทำให้เกิดอาการไอ เป็นไข้ และอาเจียน จากนั้นภายในเวลาไม่กี่วัน เยื่อหุ้มสมองจะอักเสบรุนแรงและเฉียบพลัน