ไชน่าเดลี่ - การโดดซื้อกิจการเคเอฟซีในจีนของเจ้าพ่ออาณาจักรอาลีบาบา ซึ่งเป็นข่าวฮือฮาเมื่อไม่กี่วันก่อน และชาวเน็ตแซวกันว่า แจ๊ก หม่าล้างแค้น ที่สมัยยังหนุ่ม ถูกร้านไก่ทอดเคเอฟซี ปฏิเสธรับเข้าทำงาน
ในความเห็นของนาย เจสัน อี้ว์ ผู้จัดการทั่วไปของบริษัทวิจัยการตลาด กันตาร์ เวิลด์พาเนล ไชน่า มองการซื้อกิจการเครือร้านอาหารฟ้าสต์ฟู้ดครั้งนี้ว่า เป็นการลงทุนด้านยุทธศาสตร์โดยแท้ เพื่อหวังให้ลูกค้าใช้บริการชำระเงินทางโทรศัพท์มือถือของอาลีบาบากันมากขึ้น เมื่อเข้าไปรับประทานอาหารที่ร้าน ซึ่งมีทั้งหมด 7,200 สาขาทั่วประเทศจีน ทั้ง เคเอฟซี, พิตซ่าฮัต และทาโก้เบลล์
เมื่อวันศุกร์ ที่ 2 ก.ย. ยัม ! แบรนด์ส ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ได้ตกลงขายหุ้นกิจการเคเอฟซีในจีนรวมมูลค่า 460 ล้านดอลลาร์ ให้แก่พรีมาเวรา แคปปิตอล กรุ๊ป (Primavera Capital Group) และ แอนต์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิเซส กรุ๊ป (Ant Financial Services Group) ผู้ให้บริการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ อาลีเพย์ ซึ่งเป็นบริษัทลูกของอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง ยักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซ ของจีน หลังจากการทำข้อตกลงนี้ กิจการเคเอฟซีในจีนจะมีการแยกบริษัทออกมาในเดือนหน้า โดยพรีมาเวรา ซึ่งเป็นบริษัทไพรเวต อีควิตี้ จะลงทุนจำนวน 410 ล้านดอลลาร์ และแอนต์ ไฟแนนเชียลจะลงทุน 50 ล้านดอลลาร์ ในการแยกบริษัท โดยนาย เฟรด หู อดีตประธานโกลด์แมน แซคส์ ไชน่า จะนั่งเป็นประธานของบริษัทใหม่ ซึ่งมีชือว่า ยัม ไชน่า (Yum China) โดยขั้นตอนการแยกบริษัทจะเสร็จสิ้นในวันที่ 31 ต.ค. และบริษัทใหม่จะเริ่มเทรดในตลาดหุ้นนิวยอร์กภายใต้ ticker YUMC ในวันที่ 1 พ.ย.
นอกจากนั้น แอนต์ ไฟแนนเชียล จะช่วยติดตั้งระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ในร้านสาขาทั่วประเทศ จากการเปิดเผยของมิกกี้ แพนต์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารของยัม ไชน่า
ทั้งนี้ แม้เคเอฟซีในจีนเคยเกิดข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับความปลอดภัยของอาหาร จนส่งผลกระทบหนักต่อกิจการในจีนเมื่อปีที่แล้ว แต่ธุรกิจก็กระเตื้องดีขึ้นเมื่อไม่นาน โดยผลกำไรไตรมาส 2 ของบริษัท ยัม ! แบรนด์ส ดีกว่าที่คาดการณ์ ซึ่งผลประกอบการ ที่ดีเกินคาดในจีน มีส่วนช่วยอย่างมาก กระนั้นก็ดี รายได้ของยัม! แบรนด์สในจีนยังคงลดลงร้อยละ 3 เป็น 1,600 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นรายได้ร้อยละ 53 ของรายได้ทั้งหมดของบริษัท
อย่างไรก็ตาม ผู้ชนะตัวจริงของข้อตกลงซื้อกิจการเคเอฟซีในจีนครั้งนี้ก็คืออาลีบาบาอย่างไม่ต้องสงสัย
“ ข้อตกลงนี้จะกระตุ้นให้เกิดการใช้บริการอาลีเพย์ รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดการรวมการตลาดดิจิตอลเข้ากับระบบนิเวศ ( ecosystem) ของอาลีบาบาอีคอมเมิร์ซอย่างแน่นอน ” นายอี้ว์ระบุ