เอพี / รอยเตอร์ - ศาลแดนมังกรพิพากษาจำคุกอดีตเจ้าที่ระดับสูงและครอบครัวของผู้มีอิทธิพลทางการเมืองไปถึง 3 คน ในชั่วเวลาไม่ถึง 1 เดือน ซึ่งเป็นสิ่งยืนยันว่า การกวาดล้างการทุจริตคอร์รัปชั่นภายในพรรคคอมมิวนิสต์จีน ตามประกาศิตของประธานาธิบดี สิ จิ้นผิง ยังดำเนินไปอย่างเข้มข้น
เมื่อวันจันทร์ ( 4 ก.ค. 2559) ศาลในเมืองท่าเทียนจิน ทางภาคเหนือ ตัดสินจำคุกตลอดชีวิตนาย หลิ่ง จี้ฮว่า มือขวาของอดีตประธานาธิบดี หู จิ่นเทา โทษฐานรับสินบน ล้วงความลับของชาติ และใช้อำนาจในทางมิชอบปิดบังข้อมูลการเสียชีวิตของบุตรชายตนเอง
สำนักข่าวซินหวารายงานว่า การพิจารณาคดีหลิ่งจี้ ฮว่า มีขึ้นในวันที่ 7 มิ.ย. ที่ศาลประชาชนชั้นกลาง เทศบาลนครเทียนจิน โดยไม่เปิดให้สาธารณชนเข้าฟัง เนื่องจากคดีมีความเกี่ยวข้องกับความลับของชาติ และนาย หลิ่งกล่าวต่อศาลว่า เขาจะไม่ขออุทธรณ์คำตัดสิน
ในรายงานการสอบปากคำพยาน ระบุว่า หลิ่งได้ทำสัญญาผิดกฎหมายกับนักธุรกิจชื่อดัง และอดีตนายใหญ่หน่วยความมั่นคงจีน นาย โจว หย่งคัง ซึ่งถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในความผิดคอรัปชั่น
นาย หลิ่งเคยเป็นหัวหน้าสำนักงานบริหารกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ภายใต้การสั่งการของอดีตประธานาธิบดีหู ตำแหน่งนี้เทียบได้กับหัวหน้าคณะทำงานของประธานาธิบดีสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม เขาตกกระป๋องในปี 2555 ก่อนหน้าพรรคคอมมิวนิสต์จะมีการถ่ายโอนอำนาจ ซึ่งมีขึ้นในทุก 10 ปี ได้ไม่นาน เมื่อถูกกล่าวหาว่า ปิดบังคดีบุตรชายซิ่งรถเฟอร์รารี มีหญิงสาว เปลือยอก 2 คนนั่งมา พลิกคว่ำ โดยในเดือนก.ย. ปีนั้นเอง ก่อนที่นาย สี จิ้นผิง จะรับตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์สืบต่อจากนายหู ไม่นาน นายหลิ่งก็ถูกย้ายไปประจำที่ฝ่ายการแนวร่วมกลางพรรคคอมมิวนิสต์ ( United Front Work) ซึ่งมองกันว่า เป็นการย้ายเข้ากรุ
ต่อมา นายหลิ่งก็สูญเสียตำแหน่งระดับสูงอื่น ๆ ในพรรคไปจนเกลี้ยง กระทั่งในปี 2556 มีการแต่งตั้งให้เขาเป็นรองประธานคณะที่ปรึกษาสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ ซึ่งไม่มีอำนาจอะไร
อย่างไรก็ตาม จากรายงานของสำนักข่าวซินหวา ระหว่างทำงานที่ฝ่ายการแนวร่วมกลาง และคณะที่ปรึกษาดังกล่าวนั้น นายหลิ่งได้ข้อมูลความลับของชาติมาเป็นจำนวนมาก โดยอาศัยที่เขามีการติดต่อและรู้จักผู้คนในสำนักงานบริหารกลางของพรรค การกระทำนี้เป็นการละเมิดกฎของพรรคอย่างร้ายแรง
แต่การพิพากษาครั้งนี้ศาลมิได้เอ่ยถึงนายหลิ่ง หวันเฉิง ผู้เป็นน้องชาย ซึ่งเชื่อว่า เผ่นหนีไปสหรัฐฯ พร้อมกับความลับที่เกี่ยวกับผู้นำประเทศ และหากนายหลิ่งผู้น้องเกิดแปรพักตร์ ก็อาจนำมาแพร่งพรายได้
ด้านหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานว่า รัฐบาลประธานาธิบดี บารัก โอบาม่า ได้ปฏิเสธคำขอของปักกิ่ง ที่ให้ส่งตัวนายหลิ่ง หวันเฉิง กลับจีนในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน พร้อมกับเตือนจีนอย่าส่งสายลับเข้ามาพลิกแผ่นดินหาในสหรัฐฯ
นาย หลิ่ง จี้ฮว่า ถูกสั่งสอบสวนเมื่อปลายปี 2557 และถูกจับกุมอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนก.ค. 2558 โดยเขาถูกตัดสินว่า รับสินบนจำนวน 11 ล้าน 5 แสน 7 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นการรับโดยตรง หรือผ่านทางภรรยาและบุตรชาย นอกจากนั้น ยังพบว่า เขาได้ใช้อำนาจในตำแหน่ง เอื้อประโยชน์แก่พวกพ้อง ทั้งเรื่องงาน การเลื่อนตำแหน่ง และโครงการจัดซื้อจัดจ้างต่าง ๆ
ก่อนหน้าการตัดสินคดีมือขวาอดีตผู้นำไม่นาน เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา ศาลยังได้พิพากษาจำคุกนาง จย่า เซี่ยวเย่ อดีตผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ของทางการจีน และนาย โจว ปิน ภรรยาและบุตรชายของนายโจว หย่งคัง อดีตหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงของจีน โทษฐานทุจริตรับสินบน
นายโจว ปิน ซึ่งมีผลประโยชน์ในภาคพลังงานของประเทศ ถูกตัดสินจำคุก 18 ปี ส่วนนางจย่า 9 ปี
ส่วนนายโจว หย่งคัง ซึ่งเคยมีอำนาจล้นฟ้ามากที่สุดคนหนึ่งในเมืองจีน ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตเมื่อหนึ่งปีก่อน หลังจากเป็นตัวการใหญ่ในขบวนการโกงกินอย่างอิ่มหมีพีมันในรัฐวิสาหกิจของชาติ รวมทั้งในภาคพลังงาน ซึ่งเป็นคดีคอร์รัปชั่นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 60 ปีของประเทศ
จุดจบของตระกูลดังรายนี้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจ ที่มีให้เห็นอีกตัวอย่างหนึ่งในช่วงไม่กี่ปึที่ผ่านมาบนแดนมังกร เกี่ยวกับครอบครัวนักการเมือง ซึ่งใช้ตำแหน่งหน้าที่สร้างความมั่งคั่งร่ำรวย แต่ครั้นหมดอำนาจบารมี ก็ล้มตึงได้อย่างแทบไม่น่าเชื่อ ราวกับเรื่องในหนังสือนิยาย