สื่อจีน ไชน่า เดลี่ รายงานเมื่อวันพุธ(22 มิ.ย.) จีนมีแผนเปิดบริการเดินเรือพลเรือนแบบประจำทางไปยังแดนพิพาท หมู่เกาะสแปรตลีย์ในทะเลจีนใต้ ในปี 2563
นับเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่อาจสร้างความไม่พอใจแก่เพื่อนบ้านเอเชีย ที่อ้างกรรมสิทธิเหนือหมู่เกาะสแปรตลีย์ โดยก่อนหน้าจีนได้เคลื่อนไหวกิจกรรมต่างๆที่ก่อความตึงเครียดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ การผุดสิ่งก่อสร้างต่างๆ ทั้งเกาะเทียม สนามบิน และสิ่งอำนวยความสะดวกทางทหาร โดยอ้างว่าการก่อสร้างทั้งหมดเพื่อประโยชน์ใช้สอยทางพลเรือน
สำหรับโครงการใหม่ล่าสุดนี้ มณฑลไห่หนัน จะจัดบริการเรือประจำทางไปยังหมู่เกาะสแปรตลีย์ ทีจีนเรียกว่าหมู่เกาะหนันชา เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น
“ทางมณฑลวางแผนเปิดเส้นทางเดินเรือในทะเลจีนใต้ และธุรกิจการเดินเรือในประเทศต่างๆที่อยู่บนเส้นทางสายไหมทางทะเล” ไชน่า เดลี่ ระบุ
สำหรับเส้นทางสายไหมทางทะเลนี้ เป็นความริเริ่มของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง โดยมีจุดประสงค์เชื่อมโยงการค้าและการลงทุน
แผนการเดินเรือนี้ จะเริ่มก่อนปี 2563
ขณะเดียวกัน กลุ่มนักสังเกตการณ์คาดว่าแผนฯนี้จะสร้างความไม่พอใจแก่สหรัฐอเมริกา และกลุ่มพันธมิตรในอาณาบริเวณ ที่เคยแสดงความวิตกต่อความเคลื่อนไหวของจีนในน่านน้ำที่การจราจรคับคั่งนี้ ขณะที่กลุ่มประเทศที่อ้างกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะสแปรตลีย์ต่างก็ได้เคลื่อนไหวกิจกรรมทางพลเรือนแดนพิพาทนี้เช่นกัน
ทั้งนี้ จีนได้อ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนในหมู่เกาะสแปรตลีย์ 90 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ทั้งหมด ขณะที่บรูไน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไต้หวัน ต่างก็อ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนย่านนี้ ซึ่งมีเรือสินค้าแล่นผ่าน โดยมีมูลค่าการค้าในแต่ละปี เท่ากับ 5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
จีนได้จัดบริการเดินเรือไปยังหมู่เกาะพาราเซลส์ ตั้งแต่ปี 2546 ทั้งนี้พญามังกรได้ควบคุมดินแดนหมู่เกาะพาราเซลส์ซึ่งอยู่ใกล้ชายฝั่งจีนมากกว่าหมู่เกาะสแปรตลีย์ ตั้งแต่ทศวรรษที่ 1970
บริษัทเดินเรือจีน COSCO Shipping Corp ก็มีแผนส่งเรือไปยังพาราเซลส์ในเดือนหน้า
นอกจากนี้ จีนยังคุยว่าจะสร้างรีสอร์ท แบบมัลดีฟส์ ในทะเลจีนใต้อีกด้วย