เอเจนซี - หอการค้า สหภาพยุโรป แถลงเมื่อวันจันทร์ที่ 22 ก.พ. ว่า การผลิตซึ่งล้นเกินในอุตสาหกรรมหนักต่างๆ ของจีน กำลังทำลายเศรษฐกิจโลก ด้านนายกรัฐมนตรีจีน หลี่ เค่อเฉียง กังวลใจโรงงานจีนไม่สามารถผลิตส่วนสำคัญที่สุดของปากกาลูกลื่น
รายงานฯ ระบุว่า การผลิตเหล็กของยักษ์ใหญ่เอเชียนี้ มีกำลังผลิตมากกว่าศักยภาพรวมกันของบรรดาผู้ผลิตทั้ง 4 ชาติรายใหญ่โลก ได้แก่ ญี่ปุ่น อินเดีย สหรัฐฯ และรัสเซีย โดยยังเตือนว่า อุตสาหกรรมอลูมิเนียมของจีน มากกว่าร้อยละ 60 มีภาวะกระแสเงินสดเชิงลบ ด้านอุตสาหกรรมการผลิตปูนซีเมนต์นั้น อีกภายใน 2ปี ก็จะท่วมโรงงานฯ ด้วยปริมาณการผลิตที่เทียบได้กับจำนวนที่ผลิตทั้งหมดของสหรัฐฯ ในช่วงศตวรรษที่ 20
เจอร์ก วุทเค่ ประธานหอการค้าสหภาพยุโรป กล่าวว่า จีนไม่ได้ให้ความสำคัญกับปัญหากำลังผลิตล้นเกิน ซึ่งทางสหภาพยุโรปได้ออกมาตรการต่อต้านการทุ่มตลาด จากโลหะนำเข้าจากจีน ขณะที่ผู้ผลิตทั่วไปของยุโรปและเอเชีย ต่างก็ได้รับความเดือดร้อนจากราคาตลาด ซึ่งร่วงตกลงสืบเนื่องมาจากกำลังผลิตที่ล้นเกินดังกล่าว
รายงานหอการค้ากล่าวว่า "การผลิตล้นเกินนี้ ส่งผลต่อภูมิทัศน์อุตสาหกรรมของจีนมานานหลายปี และในขณะนี้ส่งผลกระทบยังอีกหลายๆ อุตสาหกรรม ความเสียหายยังไกลไปถึงเศรษฐกิจโลกโดยทั่วไป และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน"
ประเด็นการผลิตส่วนเกินนี้ยังสร้างความตึงเครียดระหว่างจีนกับบรรดากลุ่มประเทศพัฒนาแล้วซึ่งกล่าวหาจีนว่า "ทุ่มตลาด"
อุตสาหกรรมการผลิตโลหะของจีน มีสัดส่วนเทียบได้เป็นครึ่งหนึ่งของกำลังผลิตทั้งโลก แต่ความต้องการภายในนั้นกลับชะลอตัวอย่างรวดเร็ว พร้อมกับการเติบโตของเศรษฐกิจ ดังนั้นจีนจึงต้องพยายามหาตลาดต่างประเทศ ที่จะมารับส่งถ่ายความล้นเกินนี้ออกไป โดยข้อมูลจากศุลกากรจีนระบุว่า การส่งออกของจีนในปีที่แล้ว เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 20
ในเดือนนี้ สหภาพยุโรปยังได้สอบสวนการนำเข้าโลหะจากจีน โดยกรรมาธิการการค้า สหภาพยุโรป ซิซีเลีย แมล์มสตอร์ม เตือนว่า ไม่สามารถปล่อยให้เกิดการค้าอันไม่เป็นธรรมจากการนำเข้าสินค้าราคาถูกเกินความเป็นจริง ที่จะเข้ามาทำลายอุตสาหกรรมฯ
ในเดือนนี้ อาร์เซลอร์ มิททาล (Arcelor Mittal) ผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ยังได้กล่าวหาจีนว่า ทำให้บริษัทฯ เสียหายถึง 8,000 ล้านดอลลาร์ เมื่อปีที่ผ่านมา และส่งผลให้คนงานหลายพันตำแหน่งงานต้องถูกออกจากงาน จากการที่จีนผลิตเหล็กมากเกินความต้องการในปี 2558 ซึ่งมีการผลิตเหล็กออกมาเกินความต้องการถึง 340 ล้านตัน ส่งผลให้ราคาเหล็กมีราคาต่ำกว่าความเป็นจริง แม้การนี้ บริษัทจีนหลายแห่งก็เสียหายเช่นกัน จนทำให้รัฐบาลจีนต้องประกาศแผนฯ ที่จะลดกำลังการผลิตโลหะมากถึง 150 ล้านตัน ในอีก 5 ปี นับจากนี้
สหภาพยุโรปรายงานว่า ปัจจุบันบทบาทของรัฐบาลจีนในระบบเศรษฐกิจเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา และเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง รัฐบาลจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง
วุทเค่ กล่าวว่า ตอนนี้เราอยู่ในจุดที่เลวร้ายยิ่งกว่าที่เราเคยอยู่มาก่อน และจีนก็กำลังประสบปัญหาเช่นเดียวกัน
รายงานข่าวกล่าวว่า จีนมีความหวังที่จะถ่ายกำลังการผลิตที่ล้นเกินเข้าสู่ตลาดเอเชียกลางและตะวันออกกลาง ภายใต้นโยบายการค้าที่ขนานนามว่าเป็นการฟื้นตัวของเส้นทางสายไหมโบราณ แต่ตลาดเหล่านั้นยังไม่ใหญ่พอ วุทเค่ กล่าวว่า เป็นการเข้าคู่ที่ไม่ได้สัดส่วนกันเลย เมื่อเทียบกับกำลังผลิตมหาศาลของจีน
ในด้านหนึ่งที่จีนกำลังประสบปัญหาการผลิตสินค้าล้นเกิน อีกด้านหนึ่งจีนก็กำลังเผชิญกับปัญหาที่ไม่สามารถยกระดับการผลิตไปสู่ความเป็นมือหนึ่งของวงการฯ ได้ โดยเมื่อไม่นานมานี้ นายกรัฐมนตรีจีน หลี่ เค่อเฉียง ต้องพบกับความประหลาดใจที่ว่า จีนซึ่งเป็นโรงงานผลิตสินค้าไฮเทคทุกอย่างในโลก แต่กลับไม่สามารถผลิตหัวปากกาลูกลื่นได้ ต้องนำเข้าส่วนประกอบส่วนหัวปากกาจากประเทศญี่ปุ่น สวิตเซอร์แลนด์ และเยอรมนี
อีเจ อินไซท์ (EJ Insight) สื่อจีนรายงานเมื่อวันที่ 22 ม.ค. ว่า ในแต่ละปีจีนผลิตปากกาลูกลื่น 38,000 ล้านด้าม แต่ยังไม่สามารถผลิตส่วนสำคัญที่สุดของปากกา นั่นคือส่วนหัวที่บรรจุลูกบอล
ฉิว ซื่อหมิง ซีอีโอของไป่ฟากรุ๊ป ผู้ผลิตเครื่องเขียนรายใหญ่ของจีน กล่าวว่าโรงงานไม่สามารถผลิตชิ้นส่วนลูกบอลที่เล็กที่สุดของปากกานี้ซึ่งทำจากทองเหลือง หรือทังสเตนคาร์ไบด์ ซึ่งมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 0.1 มิลลิเมตร ที่จำเป็นต้องใช้เครื่องจักรและคอมพิวเตอร์ควบคุมการผลิตอันแม่นยำ
โดยรากของปัญหานี้ อยู่ที่บรรดาอุตสาหกรรมระดับเทคโนโลยีนั้น เป็นกิจการของรัฐและเอกชนซึ่งไม่ต้องการลงทุนในการวิจัยพัฒนา เพราะใช้ต้นทุนสูง และอาจไม่ได้กำไรตลอดจนเสียเปรียบคู่แข่งเนื่องจากปัญหาการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาในจีนเอง
นี่คือเหตุผลที่นายกรัฐมนตรีจีนพูดถึงสภาพอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจจีน และเตือนให้บรรดาผู้ผลิตมีสัมผัสรับรู้ต่อวิกฤติ เพราะหากมัวแต่ทำในสิ่งที่เคยทำอยู่แต่ในเขตปลอดภัย ไม่กล้าก้าวขึ้นสู่การผลิตที่ใช้ความสามารถระดับสูง ก็คงอยู่ปลอดภัยได้อีกไม่นาน และเปรียบการผลิตปากกาลูกลื่นของจีนว่า วันใดที่จีนสามารถผลิตปากกาลูกลื่่นได้ทั้งด้ามด้วยตนเอง เมื่อนั้นจึงจะกล่าวได้ว่า จีนเป็นมหาอำนาจอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง