เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของไต้หวันเมื่อวันเสาร์ ที่ผ่านมา ไม่เหนือความคาดหมาย โดย ไช่ อิงเหวิน วัย 59 ปี จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า หรือ ดีพีพี ได้รับชัยชนะ และกำลังจะก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีหญิงคนแรกของเกาะมังกรน้อย
นอกเหนือจากความนิยม ที่ชาวไต้หวันกลุ่มชนชั้นกลาง และในหมู่คนรุ่นหนุ่มสาว เทให้พรรคดีพีพี มาตั้งแต่การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสภาท้องถิ่น จนพรรคชาตินิยม หรือพรรคก๊กมินตั๋งปราชัยย่อยยับเมื่อเดือนพ.ย. ที่ผ่านมาแล้ว
เหตุการณ์นักร้องสาวชาวไต้หวัน โจว จื่ออี๋ว์ วัย 16 ปี ของวงดนตรีเกาหลีใต้ โบกธงชาติไต้หวันก่อนหน้าการเลือกตั้งจะเปิดฉากขึ้น ก็ได้กลายเป็นผงชูรส ที่ทำให้พรรคดีพีพี ยิ่งขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
การโบกธงชาติไต้หวันของนักร้องวัยรุ่นผู้นี้ในรายการโทรทัศน์รายการหนึ่งของเกาหลีใต้เมื่อเดือนพ.ย. ที่ผ่านมา ทำให้ชาวจีนแผ่นดินใหญ่โกรธจนควันออกหู และกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต จนโจวต้องกล่าวขอโทษ โดยสถานีโทรทัศน์ของไต้หวันนำคลิปวิดิโอของเธอ ออกอากาศซ้ำหลายครั้ง ขณะที่สำนักข่าวท้องถิ่นบนเกาะไต้หวันประโคมเป็นข่าวใหญ่
บรรดานักสังเกตการณ์การเลือกตั้งในไต้หวันพากันจับตามองว่า การถูกกดดันให้กล่าวขอโทษของนักร้องหญิงจะมีผลกระทบต่อผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีและการเลือกตั้งสมาชิกสภาหรือไม่ ซึ่งก็ส่งผลจริง ๆ
ผู้ที่กระตุ้นให้โจวกล่าวคำขอโทษก็คือหวง อัน นักร้องชาวไต้หวัน ซึ่งอาศัยบนแผ่นดินใหญ่ โดยกล่าวหาว่าการโบงธงสาธารณรัฐจีน ของโจว เท่ากับเป็นการแสดงการสนับสนุนเอกราชของไต้หวัน
การถกเถียงกันว่า ควรขอโทษหรือไม่ควรขอโทษ ดังกระหึ่มในโลกโซเชียลมีเดียของไต้หวัน โดยบางคนโกรธ ที่โจวถูกบังคับ ขณะที่หลายคนระบุว่า ต้องการลงโทษบรรดาพรรคที่มีนโยบาย “เป็นมิตรกับจีน” ในการเลือกตั้งครั้งนี้
นาย เหยา หลี่ มิน ประธานสภาสังเกตการณ์แห่งพลเมือง ชี้ว่า ข้อขัดแย้งนี้มีผลให้ชาวไต้หวัน ที่เดิมไม่คิดจะออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง พากันออกมาหย่อนบัตรเลือกผู้สมัครจากพรรคอื่น ๆ ทำให้คะแนนเสียงแตกและไม่เป็นผลดีกับผู้สมัครจากพรรคชูนโยบายเป็นมิตรกับจีน
ด้านไช่ นักวิชาการผู้ผันตัวมาเป็นนักการเมือง จนก้าวถึงตำแหน่งสูงสุด ให้ความเห็น ภายหลังหย่อนบัตรเลือกตั้งว่า เธอเชื่อว่า ทุกคนรู้สึกเจ็บปวดและโกรธ ที่เห็นโจว ถูกบังคับให้กล่าวขอโทษ และเป็นการทำร้ายความรู้สึกของชาวไต้หวันอย่างรุนแรง
ขณะที่ประธานาธิบดี หม่า อิงจิ่ว จากพรรคก๊กมินตั๋ง ซึ่งมีนโยบายเป็นมิตรกับจีนเองก็เห็นว่า โจวไม่จำเป็นต้องขอโทษขอโพยอะไรทั้งนั้น
“ ไม่มีพลเมืองคนไหนสมควรถูกลงโทษ เพราะเหตุที่แสดงการยอมรับสาธารณรัฐจีน และการแสดงความรักต่อธงชาติ” ประธานาธิบดีหม่ากล่าว
แม้แต่นาย อีริก ชู ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคก๊กมินตั๋ง ก็ได้แสดงความเห็นใจนักร้องวัยรุ่นผู้นี้เช่นเดียวกัน
ครั้นเห็นท่าจะไม่ได้การ รัฐบาลปักกิ่งจึงได้ออกคำแถลง เพื่อเตือนสติว่า มีกลุ่มการเมืองบางกลุ่มในไต้หวันกำลังใช้กรณีบางกรณี ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งมาทำให้กระทบต่อความรู้สึกของประชาชนในไต้หวัน
มีการมองกันว่า จีนออกแถลงการฉบับนี้ก็เพื่อพยายามควบคุมไม่ให้ความเสียหาย ที่เกิดจากการขอโทษของนักร้องหญิง ลุกลามบานปลายไปมากกว่านี้ แต่ก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว