xs
xsm
sm
md
lg

BREAKING NEWS :ไต้หวันเปิดศักราชใหม่ ได้ “ประธานาธิบดีหญิง”เป็นครั้งแรก!!!หลังปิดหีบเลือกตั้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ – หลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันเพิ่งเสร็จสิ้นไปวันนี้(16 ม.ค) ล่าสุดในเวลา 20.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นมีรายงานว่า "ไช่ อิงเหวิน" วัย 59 ปี หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี) ชนะการเลือกตั้งได้คะแนนเสียงไปถึง 60% ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนทางการเมืองครั้งสำคัญ ที่ไต้หวันจะมีผู้นำหญิงเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ของไต้หวัน และความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างไต้หวันและจีน โดยนโยบายหาเสียงของเธอ ประกาศต้องการให้ “ไต้หวันเป็นอิสระจากจีน”

สื่อฮ่องกง ฮ่องกงฟรีเพรซ รายงานวันนี้(16 มค)ว่า ในเวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นในวันเสาร์(16 มค) ผลการลงคะแนนเลือกตั้งผู้นำไต้หวันคนใหม่พบว่า ไช่ อิงเหวิน วัย 59 ปี หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี) ได้คะแนนเสียงไปถึง 60% และสามารถสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ มีคะแนนเสียงเลือกตั้งสูงกว่าประธานาธิบดีไต้หวัน หม่า อิง-จิว ในปี 2008 ที่สามารถได้คะแนนเสียงไปราว 58%

และนอกจากนี้ในผลการเลือกตั้งทั่วไปของไต้หวัน ในรายงานเบื้องต้นของสื่อฮ่องกง ยังพบว่าพรรคดีพีพีของเธอยังสามารถคว้าชัยในการเลือกตั้งเข้าสู่รัฐสภาไต้หวันได้สำเร็จครั้งใหญ่ โดยสามารถคว้าที่นั่งได้ถึง 41 ที่นั่งจากทั้งหมด 113 ที่นั่งได้สำเร็จ

ในขณะที่พรรครัฐบาลก๊กมินตั๋ง( เคเอ็มที ) ซึ่งเป็นพรรคคู่แข่ง ที่มีอีริค ชูเป็นตัวแทนลงสมัครแข่งลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวัน สามารถคว้าเสีย’ที่นั่งในรัฐสภาไปได้เพียง 14 เสียงเท่านั้น

และฮ่องกงฟรีเพรซได้รายงานเพิ่มเติมต่อว่า ในเวลาต่อมา ผู้สนับสนุนของไช่ อิงเหวิน ไปรวมตัวที่ลานสำนักงานใหญ่ของพรรคดีดีพี หลังคาการณ์ว่า ไช่ อิงเหวิน น่าจะคว้าชัย

ซึ่งสื่อหนังสือพิมพ์ชื่อดังของฮ่องกง "แอปเปิลเดลี" ได้ตีพิมพ์ฉบับพิเศษเป็นรูปปก ไช่ อิงเหวิน พร้อมกับหัวพาดขนาดใหญ่ประกาศ “ไช่ อิงเหวิน ชนะเลือกตั้ง!! เป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของไต้หวัน”

และในการกล่าวต่อผู้สนับสนุนของผู้นำหญิงคนใหม่ของไต้หวัน ไช่ อิงเหวิน ชี้ว่า ประชาชนไต้หวันได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ และยังได้ขอบคุณต่อคู่แข่งทั้งสอง อิริค ชู และเจมส์ ซุง จากพรรคพีเพิล เฟิร์สต์ ปาร์ตี้ ที่ได้ให้ความสำคัญต่อคุณค่าระบบประชาธิปไตยของประเทศ

และไช่ อิงเหวินยังกล่าวต่อว่า พรรคของเธอจะทำตามกฎหมายรัฐธรรมนูญที่ได้ระบุไว้ โดยจะทำงานร่วมกับรัฐบาลปัจจุบันของประธานาธิบดีหม่า อิง-จิว และพรรคการเมืองใหญ่อื่นๆในการส่งผ่านอำนาจทางการเมือง

นอกจากนี้ไช่ อิงเหวินยังกล่าวถึงนโยบายการเมืองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันและจีนว่า ความสัมพันธ์ของทั้งสองชาติจะขึ้นอยู่กับหลักการประชาธิปไตยเป็นสำคัญ ที่ต้องคงอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายรัฐธรรมนูญปัจจุบันของไต้หวันเท่านั้น

ซึ่งเธอได้ย้ำว่า ทั้งสองฝ่ายต้องทำให้มั่นใจว่า จะต้องไม่เกิดการ “ยั่วยุ” หรือ “อุบัติเหตุ” ซึ่งผู้นำหญิงไต้หวันที่ได้ขึ้นชื่อว่าต้องการให้ไต้หวันเป็นอิสระจากจีนเดียวย้ำว่า “เธอเคารพต่อความเป็นรัฐชาติของจีน และความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองชาติไม่เปลี่ยนแปลง”

ก่อนหน้านี้นักสังเกตการณ์ได้เคยวิเคราะห์ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวัน 2016 และเชื่อว่า ไช่ อิงเหวิน หัวหน้าพรรคดีพีพี ซึ่งกำลังจรัสแสงบดบังรัศมีของนายอีริค ชู ผู้สมัครจากพรรคก๊กมินตั๋ง จะเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ไต้หวัน และนำพาพรรคดีพีพี ที่เคยครองอำนาจบริหารระหว่างปี 2000-2008 กลับมาทวงคืนบัลลังก์จากคู่แข่งเก่าได้เป็นครั้งที่สอง

สิ่งเหล่านี้จะช่วยเน้นย้ำว่า การเปลี่ยนผ่านอำนาจทางการเมืองของไต้หวันเป็นไปอย่างปกติ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งแก่ระบอบประชาธิปไตยของไต้หวัน รวมถึงอาจสร้างปฏิกิริยาสะท้อนไกลถึงเกาะฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ ด้วยการเป็นแรงบันดาลใจแก่ประชาชนจีน ผู้ปรารถนาจะมีประชาธิปไตยเป็นของตนเอง

ชัยชนะของไช่ อิงเหวินจะยังส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบจีน-ไต้หวัน ที่พัฒนาขึ้นมากตั้งแต่นายหม่า อิงจิ๋ว จากพรรคก๊กมินตั๋ง ก้าวขึ้นเป็นผู้นำสูงสุดของไต้หวันในปี 2008 โดยหม่า อิง-จิว เพิ่งจะพบปะกับสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ที่สิงคโปร์ ในเดือนพ.ย. ที่ผ่านมา

การหารือครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างหม่า อิง-จิว และสี จิ้นผิงนั้น ถือเป็นก้าวสำคัญของความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบฯ นับแต่สงครามกลางเมืองสิ้นสุดลงในปี 1949 และยังเป็นความหวังของปักกิ่ง ที่จะสานต่อ “ฉันทามติ 1992” (1992 consensus) ซึ่งสนับสนุนความร่วมมือและการพัฒนาสายสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่าย

ไต้หวันภายใต้การบริหารของหม่า อิง-จิวและพรรคก๊กมินตั๋ง มีมุมมองต่อฉันทามติฯ ว่าเป็นความเข้าใจด้วยวาจา ระบุว่าทั้งสองฟากฝั่งต่างรับรอง “หลักการจีนเดียว” แต่สามารถตีความหมายของคำว่า “จีน” ในแบบฉบับของตัวเอง

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังชี้ต่อว่า หากไช่ อิงเหวิน ชนะการเลือกตั้ง ปักกิ่งมองว่า***เป็นเรื่องที่ดูเหมือนจะต่อรองกันได้ยาก***เพราะถึงแม้ไช่ อิงเหวินเคยกล่าวไว้ว่า เธอพร้อมจะยังคงรักษาสถานภาพปัจจุบันของความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบฯ แต่ไม่ได้เสนอแผนชัดเจนว่าจะทำอย่างไรโดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับฉันทามติดังกล่าว







กำลังโหลดความคิดเห็น