รอยเตอร์ส - สื่อทางการจีนเผย “กฎหมายต่อต้านการก่อการร้าย” ฉบับใหม่ ซึ่งคาดว่าจะผ่านสภาฯ ก่อนสิ้นเดือนนี้ จะจำกัดสิทธิของสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวสารเกี่ยวกับเหตุก่อการร้ายบนแดนมังกร
ร่างกฎหมายฯ ยังสร้างความวิตกกังวลแก่กลุ่มชาติตะวันตก ด้วยระบุว่ารัฐบาลจีนสามารถเรียกร้องบรรดาบริษัทด้านเทคโนโลยีติดตั้ง “ประตูหลัง” หรือแบ็คดอร์ (backdoor) ลงในผลิตภัณฑ์ รวมถึงร้องขอข้อมูลบางประเภท เช่น กุญแจเข้ารหัส (encryption key) อีกด้วย
สำนักข่าวพีเพิล เดลี รายงานว่า กฎหมายฯ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภานิติบัญญัติ และมีกำหนดเสร็จสิ้นในวันอาทิตย์ กอปรด้วยบทบัญญัติว่า “สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของการก่อการร้ายอันอาจนำไปสู่การคัดลอก หรือแพร่ภาพเหตุการณ์ที่โหดร้ายทารุณผิดมนุษย์”
“รายละเอียดของตัวประกัน วิธีการรับมือเหตุก่อการร้ายหรือข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อยู่ในเหตุการณ์ ก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้รายงานสู่สาธารณะ โดยปราศจากการอนุมัติของเจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามการก่อการร้าย”
ทั้งนี้ เหล่าสื่อทางการจีนต่างดำเนินงานภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวด เมื่อต้องนำเสนอข่าวสารเกี่ยวกับการก่อการร้ายอยู่แล้ว รวมทั้งรัฐบาลจีนเองก็มิยินยอมให้เกิดเสียงคัดค้านต่อการรายงานเหตุโจมตีหรือเหตุการณ์อื่นๆ
อย่างไรก็ดี ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าข้อเรียกร้องทางเทคโนโลยีที่ต่างชาติเป็นกังวล จะยังคงปรากฏอยู่ในร่างกฎหมายฉบับใหม่หรือไม่ หรือจะมีการโต้แย้งและตัดเนื้อหาสาระดังกล่าวออกจากร่างกฎหมายฯ ระหว่างการประชุมหารือรอบสุดท้าย
รัฐบาลปักกิ่งกล่าวว่า ปัจจุบันจีนกำลังเผชิญภัยคุกคามจากกองกำลังติดอาวุธและกลุ่มแบ่งแยกดินแดน โดยเฉพาะพื้นที่แถบตะวันตกอันห่างไกลของประเทศ อาทิ เขตปกครองตนเองซินเจียง ชนชาติอุยกูร์ ซึ่งพบเหตุการณ์ความไม่สงบที่คร่าชีวิตผู้คนหลายร้อยรายในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา
ทว่ากลุ่มสิทธิมนุษยชนได้ตั้งคำถามถึงการมีอยู่ของกองกำลังในซินเจียงที่จีนกล่าวอ้าง พร้อมแย้งว่าความวุ่นวายส่วนใหญ่นั้นเกิดจากความไม่พอใจของชาวมุสลิมอุยกูร์ ที่ถูกจำกัดควบคุมการใช้ชีวิต การนับถือศาสนา และกิจวัตรทางวัฒนธรรมมากกว่า แต่ปักกิ่งก็ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของชาวซินเจียง