โซหู สื่อจีนรายงาน (20 ก.ย.) พลเมืองดีเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนัน ไม่กล้าช่วยคนแก่ล้มหัวฟาดพื้น นอนหมดสติกลางถนน พากันถ่ายภาพเป็นหลักฐานไว้ป้องกันตนเอง
เหตุเกิดราวห้าโมงเย็นของวันที่ 19 ก.ย. เมื่อชายสูงวัยรายหนึ่งเกิดเดินสะดุดล้มลงขณะข้ามถนน ศรีษะกระแทกพื้นเลือดไหล นอนหมดสติอยู่กลางถนน แม้ว่าในสถานที่เกิดเหตุจะมีผู้คนเดินผ่านไปมาจำนวนมาก แต่ก็ไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้าช่วยเหลือ ต่างระแวงว่า หากบุ่มบ่ามเข้าช่วยเหลือแล้ว อาจถูกคุณปู่ย้อนกลับมาฟ้องร้องกล่าวหาเรียกค่าเสียหายในภายหลัง
บรรดาจีนมุงดูต่างควักโทรศัพท์มือถือ ออกมาถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานว่าคุณปู่ล้มลงเอง เพื่อป้องกันไม่ให้ตนเองถูกกล่าวหาในภายหลัง แล้วจึงค่อยเริ่มโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากตำรวจ และโรงพยาบาล หลังจากนั้นบรรดาพลเมืองดีจึงกล้าขยับเข้าพยุงตัวคุณปู่เคราะห์ร้าย และทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น
เมื่อรถพยาบาลมาถึง แพทย์ได้ตรวจดูสภาพร่างกายและพบว่าคุณปู่ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย มีเพียงแผลบริเวณใบหน้าเท่านั้น จึงทำการรักษาเบื้องต้น และพาคุณปู่ไปยังโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียดต่อไป หลังจากคุณปู่ได้รับการดูแลจากแพทย์แล้ว บรรดาพลเมืองดีก็ต่างพากันแยกย้ายจากกันไป
ในช่วงระยะหลังนี้ พลเมืองดีแดนมังกรมักไม่ค่อยกล้ายื่นมือเข้าช่วยเหลือ คนแปลกหน้าที่อยู่ในสถานการณ์คับขัน เนื่องจากบ่อยครั้งที่พวกเขาถูกคนที่ได้รับการช่วยเหลือ ย้อนกลับมาฟ้องเรียกค่าเสียหาย ซึ่งศาลก็มักผลักภาระการพิสูจน์ความบริสุทธิ์แก่พลเมืองดี เช่น คดีที่เป็นข่าวโด่งดังเมื่อปี 2552 คนขับรถชื่อว่า นายสี่ว์ อวิ๋นเหอ ยื่นมือช่วยเหลือหญิงชราผู้หนึ่งในเมืองเทียนจิน แต่แม่เฒ่ากลับอ้างว่า นายสี่ว์ชนตน และศาลสั่งให้นายสี่ว์จ่ายเงินชดเชยให้จำนวน 1 แสนหยวน ด้วยเหตุผลว่า ถ้าเขามิได้เป็นคนทำ เขาก็ไม่น่าจะต้องเข้าไปช่วยเหลือ
สภาประชาชนในเมืองต่างๆ กำลังพยายามฟื้นสำนึกจิตอาสาของผู้คนในสังคมให้กลับคืนมา และช่วยคลายความหวาดกลัวของผู้คนในการจะยื่นมือช่วยเหลือกัน โดยเริ่มทยอยกันประกาศใช้ กฎหมายยกเว้นความรับผิดให้แก่พลเมืองดี ที่เข้าช่วยเหลือผู้อื่นในสถานการณ์คับขัน เพื่อสนับสนุนให้ผู้เห็นเหตุการณ์เข้าช่วยเหลือคนแปลกหน้า โดยไม่ต้องกลัวว่าจะโดนเจ้าตัวย้อนกลับมาฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายตลบหลัง จนทำให้ต้องแสร้งเดินผ่านไม่ยื่นมือช่วยเหลือ เช่น นครเซี่ยงไฮ้, เมืองหังโจว มณฑลเจ้อเจียง และเมืองเซินเจิ้น ในมณฑลกว่างตง