จีนสวนสนามครั้งยิ่งใหญ่กลางกรุงปักกิ่ง สี จิ้นผิง ประกาศลดกำลังทหารเพื่อสันติภาพ (ชมภาพ)

เอเจนซี - เสร็จสิ้นลงแล้วสำหรับพิธีเดินสวนสนามครั้งยิ่งใหญ่ของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน (PLA) ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะเหนือญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง สำแดงความพร้อมเพรียงเกรียงไกรของเหล่าทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ ที่สื่อจีนอ้างว่ากว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ไม่เคยปรากฏตัวต่อสาธารณะมาก่อน

ช่วงเช้าวันนี้ (3 ก.ย.) ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เริ่มต้นกล่าวสุนทรพจน์อยู่เหนือจัตุรัสเทียนอันเหมิน ใจกลางนครหลวงปักกิ่ง แสดงท่าทีเป็นมิตรไมตรีด้วยคำแถลงว่าจีนจะตัดลดกำลังทหารลง 300,000 กอง เพื่อก้าวเดินสู่เส้นทางแห่งการพัฒนาสันติภาพ ทว่าก็มิได้ชี้ชัดกรอบเวลาอันชัดเจนออกมา

ทั้งนี้กองทัพปลดแอกประชาชนจีนนับเป็นหนึ่งในกองทัพที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยปกครองกำลังพลอยู่กว่า 2.3 ล้านนายในปัจจุบัน

ต่อจากนั้นผู้นำจีนก็ลงมายังถนนสายหลักของเมือง ตรวจตราแถวทหารและทัพสรรพาวุธที่ยืนนิ่งเรียงรายอยู่ริมทาง พร้อมกล่าวทักทายตามธรรมเนียมซ้ำๆ ว่า “สวัสดีสหาย สหายผู้ทำงานหนัก!” ขณะยืนอยู่บนรถลีมูซีนสีดำขลับซึ่งวิ่งแล่นผ่านไปอย่างต่อเนื่อง

กองทหารมากกว่า 12,000 นาย เริ่มเดินสวนสนามสู่ถนนฉังอัน นำโดยกลุ่มทหารผ่านศึกวัยชราที่เคยสู้รบในสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งนั่งอยู่บนรถโดยสารเปิดประทุนยกมือทักทายผู้คนรอบข้าง ติดตามด้วยทัพรถถัง รถบรรทุกจรวดมิสไซล์ และยานเกราะประเภทต่างๆ ขณะเครื่องบินรบและเครื่องบินทิ้งระเบิดก็พุ่งทะยานอยู่บนฟากฟ้า

ท่ามกลางสรรพาวุธจำนวนมาก จีนได้เผยโฉมหน้าขีปนาวุธต่อต้านเรือ ‘ตงเฟิง-21ดี’ (Dongfeng-21D) เป็นครั้งแรก ซึ่งมีรายงานว่ามันสามารถทำลายล้างเรือบรรทุกเครื่องบินด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว นอกจากนั้นยังมีขีปนาวุธข้ามทวีปอีกหลายลำ อาทิ ดีเอฟ-5บี, ดีเอฟ-31เอ และขีปนาวุธพิสัยกลางดีเอฟ-26 ที่ได้ฉายา “ผู้พิฆาตเกาะกวม” อันเป็นฐานทัพสหรัฐฯ ในมหาสมุทรแปซิฟิก

ภายในงานนี้พบผู้นำชาติมหาอำนาจอย่างประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย รวมถึงผู้นำชาติอื่นๆ อันมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีน ตลอดจนประธานาธิบดีโอมาร์ ฮาซัน อาห์หมาด อัล บาเชียร์ ของซูดาน ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการตัวของศาลอาญาระหว่างประเทศ

ทว่ากลับไร้เงาเหล่าผู้นำชาติตะวันตกซึ่งส่วนใหญ่ปฏิเสธคำเชิญร่วมงาน ด้วยไม่ชอบใจกับรายนามแขกผู้มีเกียรติคนอื่นๆ และวิตกกังวล ‘ข้อความ’ ที่จีนกำลังสื่อสารกับภูมิภาคเพื่อนบ้าน ซึ่งระดมผ่านกิจการทางการทหารไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยเฉพาะกรณีพิพาทในทะเลจีนใต้

ด้านนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ก็เมินจะเข้าร่วมงานนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งจัดขึ้นหนึ่งวันหลังวาระครบรอบ 70 ปี ความปราชัยของแดนซามูไรในศึกสงครามโลกครั้งที่สอง

รัฐบาลจีนเน้นย้ำว่า พิธีสวนสนามครั้งนี้ไม่ได้มุ่งเป้าหมายต่อญี่ปุ่นในวันนี้ แต่มุ่งระลึกอดีตและตักเตือนชาวโลกถึงการเสียสละอันยิ่งใหญ่ของจีน อย่างไรก็ดีจีนก็แทบไม่เคยพลาดจะลากจุดสนใจไปยังการกระทำของญี่ปุ่นในช่วงเกิดสงคราม

สำนักข่าวซินหวาของทางการจีนรายงานว่า “คำกล่าวว่าจีนตั้งใจใช้กิจกรรมนี้เป็นเครื่องมือสำแดงแสนยานุภาพ เพื่อแทรกซึมความหวาดกลัวเข้าไปนั้นเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผลและไร้สาระ … จีนยืนกรานเสมอมาว่าการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งจะกระทำด้วยสันติวิธี”