แม่บ้านจีนเฮสนั่น! จีนเตรียมคลอดกฎหมายต้านความรุนแรงในครอบครัว

สื่อจีนรายงาน (26 ส.ค.) คณะกรรมการบริหารประจำสภาผู้แทนประชาชนกำลังพิจารณาร่างกฎหมายต้านความรุนแรงในครอบครัว มีเนื้อหาป้องกันการใช้ความรุนแรงในบ้าน และเพิ่มมาตรการคุ้มครองชั่วคราวให้แก่คู่กรณี

ร่างกฎหมายฉบับใหม่นี้ ให้อำนาจผู้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้เสียหาย ในการดำเนินการทางกฎหมายในนามของผู้เสียหายเอง นอกจากนี้ โรงเรียน และหน่วยงานทางการแพทย์สามารถแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในกรณีที่ผู้เยาว์เป็นผู้เสียหายได้อีกด้วย โดยหลังจากตำรวจได้รับแจ้งความแล้ว จะต้องดำเนินการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน และช่วยเหลือผู้เสียหายให้ได้รับบริการทางการแพทย์

ในกรณีที่มีความจำเป็น ศาลอาจมีมาตรการคุ้มครองชั่วคราว โดยการออกคำสั่งไม่ให้เข้าใกล้คู่กรณี หรือไม่ให้ติดต่อกันเป็นการชั่วคราว

ปัจจุบัน กฎหมายอาญาจีน ไม่ได้กำหนดความผิดเกี่ยวกับการใช้ความรุนแรงในครอบครัวไว้เป็นการเฉพาะ และไม่ได้มีมาตรการคุ้มครองชั่วคราวฯ เมื่อเกิดปัญหาขึ้น

รายงานระบุว่า คนทั่วไปมักมองว่าความรุนแรงในครอบครัวเป็นเรื่อง “ภายใน” และตำรวจไม่ควรเข้าไปแทรกแซงก้าวก่าย ดังนั้น เมื่อมีการทำร้ายร่างกายในครอบครัวเกิดขึ้น ตำรวจจึงมักพยายามเกลี้ยกล่อมให้สามีภรรยาตกลงยุติปัญหากันด้วยตนเอง เว้นแต่กรณีที่มีการทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บร้ายแรง ตำรวจจึงจะดำเนินคดีฐานทำร้ายร่างกาย ทำให้ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ค่อยๆทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ลำพังแค่ในมณฑลเจ้อเจียงในปีที่แล้ว มีคดีที่เกี่ยวกับความรุนแรงในครอบครัวมากถึง 23,000 คดี

ร่างกฎหมายดังกล่าว ได้นิยามคำว่า “ความรุนแรง” ให้หมายถึงการชกตี การมัด การทำให้เจ็บปวด การทรมาน หรือการจำกัดเสรีภาพของคนในครอบครัวด้วยประการอื่น ทำให้มีผุ้ตั้งข้อสังเกตว่า คำนิยามดังกล่าวไม่ได้ครอบคลุมไปถึงความรุนแรงรูปแบบอื่น ซึ่งมักเกิดขึ้นในสภาพความเป็นจริง เช่น การเข้ายึดถือควบคุมทรัพย์สิน การคุกคามข่มขู่ การล่วงละเมิดทางเพศ

หลี่ อิ๋ง ผู้อำนวยการหญิง ประจำศูนย์พัฒนาสิทธิทางเพศหยวนจ้ง ระบุว่ากฎหมายดังกล่าวได้ถูกเสนอครั้งแรกโดยกลุ่มนักสิทธิสตรีตั้งแต่ปี 2538 แล้วโดยกฎหมายฉบับนี้เป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ แต่ยังสามารถแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัวได้เพียงคร่าวๆเท่านั้น

ผู้นวยการหลี่ ติงว่าร่างกฎหมายดังกล่าวได้ตัดความคุ้มครอง “การทำร้ายทางจิตใจ” ซึ่งเคยมีอยู่ในร่างกฎหมายเมื่อปีที่แล้วออกไป และได้วิจารณ์ว่าร่างกฎหมายฯ มุ่งคุ้มครองแต่เพียงสิทธิในร่างกายเพียงอย่างเดียว ไม่คำนึงถึงด้านจิตใจ การคุมคามทางเพศ และการควบคุมทางการเงินเลยแม้แต่น้อย นอกจากนี้ กฎหมายดังกล่าวยังมีเนื้อหาแคบเกินไป ไม่สามารถนำมาบังคับใช้กับผู้ที่อยู่ในความสัมพันธ์อื่นนอกจากสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น คู่สมรสนอกกฎหมายและคู่สมรสที่หย่าร้างไปแล้ว