เอเจนซี - จีนเริ่มก่อสร้างเขื่อนเก็บน้ำสูง 314 เมตร ซึ่งจะกลายเป็นเขื่อนที่มีความสูงที่สุดในโลก ขณะเร่งขยับขยายแผล่งผลิต ‘ไฟฟ้าพลังน้ำ’ เปลี่ยนเป็นมังกรหัวใจสีเขียว
กระทรวงสิ่งแวดล้อมของจีนประกาศผ่านเว็บไซต์เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า โครงการก่อสร้างเขื่อนเก็บน้ำ “ซวงเจียงโข่ว” (双江口) ที่ตั้งอยู่ในแม่น้ำสาขาของแม่น้ำแยงซีเกียง แคว้นปกครองตนเองชนชาติทิเบตอาป้า มณฑลเสฉวนทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ จะเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2565 หรืออีกเจ็ดปีข้างหน้า
เขื่อนซวงเจียงโข่วซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการปลูกสร้างกว่า 36,000 ล้านหยวน หรือราวหนึ่งแสนแปดหมื่นล้านบาท จะเอาชนะเขื่อนจิ่นผิง-1 (錦屏一級) ที่มีความสูง 305 เมตร ในเมืองเลี่ยงซันของเสฉวน ซึ่งครองตำแหน่งเขื่อนที่สูงที่สุดของโลกอยู่ในปัจจุบัน
ความพยายามขยับขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำหรือไฮโดรเพาเวอร์ (Hydropower) ของจีน เป็นไปเพื่อบรรลุเป้าหมายการสร้างพลังงานทางเลือกใหม่ที่ไม่ใช่พลังงานจากฟอสซิลให้ได้ร้อยละ 20 ภายในปี 2573 ซึ่งจีนชี้ว่าจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อันเป็นต้นเหตุหนึ่งของสภาพอากาศโลกที่เปลี่ยนแปลงไป
นอกเหนือจากเขื่อนที่สูงที่สุดในโลกแห่งใหม่นั้น จีนยังเป็นบ้านของ “ซันสยาต้าป้า” (三峡大坝) หรือเขื่อนสามผา ซึ่งเป็นเขื่อนเก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก รวมถึงแหล่งกักเก็บน้ำอื่นๆ ที่ช่วยผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำอีกกว่า 85,000 แห่งอีกด้วย
อย่างไรก็ดี มหกรรมการสร้างเขื่อนในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมาของจีน ก็ส่งผลกระทบต่อประชาชนหลายล้านคน ที่ต้องถูกบังคับย้ายถิ่นที่อยู่อาศัยโดยได้รับการชดเชยดูแลอย่างไม่เป็นธรรม
ขณะเดียวกันนักสิ่งแวดล้อมก็เตือนว่าเขื่อนเป็นสาเหตุที่ทำให้จำนวนปลาและสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ ลดลงอย่างฮวบฮาบ โดยองค์การแม่น้ำนานาชาติ (International Rivers) ซึ่งมีฐานอยู่ในสหรัฐฯ ติงว่า จีนประเมินผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของโรงไฟฟ้าพลังน้ำต่ำเกินไป