เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ - สืบเนื่องจากปฎิบัติการไล่ล่าผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดี “ฮิจเราะห์ 12 มิ.ย.”* ซึ่งล่าสุดได้มีการบุกจับกุมผู้ต้องสงสัยลัทธิก่อการร้ายชาวซินเจียง ที่เมืองเสิ่นหยาง เมืองเอกของมณฑลเหลียวหนิง ในวันที่ 13 ก.ค. ซึ่งเป็นผลให้มีผู้ต้องสงสัยเสียชีวิตสามราย และได้รับบาดเจ็บหนึ่งราย ผู้เชี่ยวชาญได้ออกโรงเตือนว่ากลุ่มชาวมุสลิมสายสุดโต่ง ที่ได้รับแรงจูงใจจากความเชื่อเรื่องสงครามศาสนา “ญิฮัด” กำลังกระจายไปทั่วประเทศจีน
นายหลี่ เว่ย ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการต่อต้านการก่อการร้าย สถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศร่วมสมัยแห่งประเทศจีน (China Institute of Contemporary International Relations) ระบุว่ากลุ่มศาสนาที่มีความเชื่อแบบสุดโต่งพยายามปลุกกระแสเพื่อสนุบสนุนการใช้ความรุนแรง และเหตุการณ์วิสามัญฆาตกรรมกลุ่มผู้ต้องสงสัยฯในเมืองเสิ่นหยาง สะท้อนว่ากลุ่มลัทธิก่อการร้ายอาจได้กระจายไปทั่วประเทศแล้ว
นายหลี่ อธิบายว่า ในอดีต ผู้ก่อการร้ายมักจะมุ่งหน้าไปยังภาคใต้ของประเทศ แต่ปัจจุบันทางภาคเหนือ เช่น มณฑลเหอหนาน มณฑลเหลียวหนิง ได้กลายเป็นศูนย์กลางสำหรับการเดินทาง เพื่อเข้าร่วมกับกลุ่มก่อการร้าย เช่น “รัฐอิสลาม”(ไอเอส) และขบวนการอิสลามแห่งเตอร์กิสถานตะวันออก ซึ่งหากกลุ่มคนเหล่านี้หนีออกจากประเทศไม่สำเร็จ ก็อาจจะก่อความไม่สงบขึ้น ดังเช่นเหตุแทงคนที่สถานีรถไฟคุนหมิง ที่มีกลุ่มคนร้ายทั้งชายและหญิงกว่า 10 คน สวมชุดดำ หน้ากาก ถือมีดยาว วิ่งกรูเข้าไปในสถานีรถไฟเมืองคุนหมิง มณฑลอวิ๋นหนัน ไล่แทงคนอย่างไม่เลือกหน้า คร่าชีวิต 34 คน บาดเจ็บมากกว่า 140 คน
กลุ่มชาวอุยกูร์พลัดถิ่น และนักรณรงค์สิทธิมนุษยชนชี้ว่า รัฐบาลจีนดำเนินมาตรการกดขี่ทางวัฒนธรรม และศาสนาในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทำให้เกิดปัญหาการอพยพอย่างผิดกฎหมาย ส่วนรัฐบาลจีนออกโรงชี้แจงว่า ชาวอุยกูร์ลักลอบหนีออกนอกประเทศเพื่อไปเข้าร่วมกับกลุ่มก่อการร้ายในต่างประเทศ โดยใช้เส้นทางผ่านประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังประเทศตุรกี เพื่อไปร่วมกับกลุ่มก่อการร้ายในอิรัก และอิหร่าน
ที่ผ่านมานี้ รัฐบาลจีนได้พยายามระดมมาตรการมากมายในการควบคุม “กลุ่มศาสนาสุดโต่ง” ซึ่งมาตรการบางอย่างก็ยิ่งโหมกระพือความขัดแย้งในซินเจียงฯ เช่น การบังคับให้ร้านค้าในซินเจียงจำหน่ายบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างชัดเจนในคัมภีร์อัลกุรอาน
รายงานระบุว่า เอกสารที่รั่วไหลจากตำรวจบ่งชี้ว่า จีนได้เพิ่มกำลังเวรยาม ในมณฑลก่วงตง มณฑลอวิ๋นหนัน และเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงกว่างซี(กวางสี) เนื่องจากเป็นเส้นทางที่ชาวอุยกูร์มักใช้ในการลักลอบหนีออกนอกประเทศ
*หมายเหตุ - ฮิจเราะห์ หมายถึงการอพยพหรือการเดินทางของนบีมุฮัมมัดและผู้ติดตามจากเมืองเมกกะไปยังเมืองเมดินะ เพื่อหลบเลี่ยงแผนการลอบสังหาร โดย“ฮิจเราะห์ 12 มิ.ย.” (June 12 Hijra case) เป็นชื่อคดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียด และปฎิเสธที่จะให้ความเห็น