เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ของจีน แม้มีขอบเขตบังคับใช้อย่างครอบคลุมหลายด้าน แต่ไม่มีอำนาจบังคับใช้โดยตรงในเขตบริหารพิเศษฮ่องกงและเขตบริหารพิเศษมาเก๊า
กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ของจีน ซึ่งผ่านการเห็นชอบจากสภาผู้แทนประชาชนเมื่อวันพุธ (1 ก.ค.) ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่า เป็นการเพิ่มอำนาจในการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและสิทธิของพลเมือง โดยเพิ่มขอบเขตบังคับใช้อย่างกว้างขวาง ตั้งแต่ภาคการเงิน การเมือง การทหาร ความมั่นคงด้านไซเบอร์ ตลอดจนอุดมการณ์ และศาสนา
อย่างไรก็ตาม นาง เจิ้ง ซูนา รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการด้านกฎหมายของคณะกรรมการบริหารประจำสภาผู้แทนประชาชนจีนระบุว่า กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่นี้ จะไม่มีอำนาจบังคับใช้โดยตรงกับเขตปกครองพิเศษทั้งสอง ซึ่งอยู่ภายใต้กฎหมายพื้นฐาน ( Basic Law) ในการผ่านร่างกฎหมายด้านความมั่นคงของตนเอง อาทิ กฎหมายว่าด้วยกบฏ การปลุกระดมปลุกปั่น การแบ่งแยกดินแดน และการแพร่งพรายความลับของรัฐ
นอกจากนั้น ฮ่องกงและมาเก๊ายังมีกฎหมายท้องถิ่นของตนเองในการสั่งห้ามองค์กรทางการเมืองของต่างชาติเข้ามาดำเนินกิจกรรมการเคลื่อนไหว รวมทั้งห้ามกลุ่มคนในท้องถิ่นมีเครือข่ายเชื่อมโยงทางการเมืองกับองค์กรต่างชาติ
ทั้งนี้ กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่นี้อยู่นอกภาคผนวก 3 ของกฎหมายพื้นฐานของฮ่องกงและมาเก๊า ภาคผนวก 3 ประกอบด้วยกฎหมายแห่งชาติ 6 ฉบับ อาทิ กฎหมายว่าด้วยเอกสิทธิ์ทางการทูต อาณาเขตทางทะเล และเพลงชาติ โดยกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่เพียงแต่ระบุบทบัญญัติต่าง ๆ ในหลักการ เพื่อให้ฮ่องกงและมาเก๊ามีหน้าที่รับผิดชอบดูแลในการรักษาความมั่นคงของชาติเท่านั้น
รัฐบาลจีนพยายามเสนอร่างกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่เมื่อปี 2546 แต่ต้องระงับไป หลังจากมีเสียงคัดค้านของภาคประชาชนอย่างมากมาย ซึ่งนำไปสู่การเดินประท้วงของประชาชนครึ่งล้านคน โดยสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนได้ลงมติรับรองร่างกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ด้วยคะแนนเสียงอย่างท่วมท้น 154 เสียง และงดออกเสียงเพียง 1 เสียงเมื่อวันพุธ ที่ผ่านมา
กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่นี้ ยังเน้นย้ำบทบาทของพรรคคอมมิวนิสต์ในการเป็นผู้นำในการสร้างระบบความมั่นคงขึ้นในประเทศ โดยประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ซึ่งดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนเคยกล่าวว่า กฎหมายความมั่นคงของชาติควรมีความครอบคลุมทั้งด้านการเมือง การทหาร เศรษฐกิจ เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม