xs
xsm
sm
md
lg

พรรคคอมมิวนิสต์จีนควบคุมความประพฤติลูกเศรษฐี หวั่นเป็นปัญหาของชาติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายหวัง ซื่อฉง บุตรชายของอภิมหาเศรษฐีหวัง เจี้ยนหลิน - เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์
เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - พรรคคอมมิวนิสต์จีนหวั่นปัญหาลูกเศรษฐีถูกพ่อแม่พะเน้าพะนอเสียคน จนอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่เสียยิ่งกว่าปัญหาเศรษฐกิจของชาติ ประกาศออกคู่มือชี้แนะแนวทางความประพฤติ เพื่อควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น

กรมงานแนวร่วม ( United Front Work Department) ประกาศเมื่อวันอังคาร ( 9 มิ.ย.) ว่า จะเพิ่มการชี้แนะสั่งสอนพวกเศรษฐีรุ่นที่ 2 และเจ้าของธุรกิจรุ่นเยาว์ในประเทศให้มากขึ้น

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากประธานาธิบดี สี จิ้นผิงได้บอกให้กรม “ ชี้แนะแก่นักธุรกิจเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนรุ่นหนุ่มสาว และช่วยให้พวกเขานึกถึงแหล่งที่มาของความมั่งคั่งและวิธีการปฏิบัติตัว หลังจากร่ำรวยแล้ว”

กรมดังกล่าวอยู่ภายใต้การควบคุมของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน มีหน้าที่รับผิดชอบการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับกลุ่มชนชั้นนำด้านการเมือง ธุรกิจ และการศึกษา ที่อยู่นอกพรรคคอมมิวนิสต์

ลูกคนร่ำรวยรุ่นหนุ่มสาวของจีน หรือ ฟู่เอ้อร์ไต้ ในภาษาจีน ซึ่งหมายถึงคนรวยรุ่นที่ 2 นั้น มักถูกมองเหมารวมในแง่ลบ เช่นเป็นพวกที่ถูกเอาใจจนเสียคน เย่อหยิ่ง และเอาแต่ใจตัวเอง

ลูกเศรษฐีมักตกเป็นข่าวใหญ่ และถูกวิพากษ์วิจารณ์ เช่น กรณีของนายหวัง ซื่อฉง บุตรชายของอภิมหาเศรษฐีหวัง เจี้ยนหลิน ออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนก.พ. ที่ผ่านมาว่า สเปกผู้หญิงที่จะมาเป็นแฟนเขานั้น อย่างแรกต้องมีหน้าอกใหญ่

ในบทความของกรมงานแนวร่วม ซึ่งเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียระบุว่า คนหนุ่มสาวที่ร่ำรวยรู้แต่เพียงว่า ตนเองรวย แต่ไม่รู้ว่าเงินทองเหล่านี้มาจากไหน และหากพฤติกรรมนี้กลายเป็นปัญหาธรรมดา ๆ ของกิจการที่บริหารงานโดยครอบครัว และทำให้ผู้ประกอบการภาคเอกชนทั้งหมดดูแย่ หรือส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของสังคมต่อภาคธุรกิจเอกชน นี่ย่อมไม่ใช่ปัญหาด้านเศรษฐกิจธรรมดา ๆ เสียแล้ว

ในบทความยังระบุว่า กิจการเอกชนของจีนราวร้อยละ 85 เป็นบริษัท ซึ่งดำเนินการโดยครอบครัวและร้อยละ 75 ของกิจการครอบครัวนี้จะต้องมีการหาผู้มาสืบทอดกิจการภายในอีก 5-10 ปีข้างหน้า

ขณะเดียวกันมีผู้สำเร็จปริญญาตรีกว่า 1 แสนคนจากมหาวิทยาลัยบนแผ่นดินใหญ่ และผู้จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยในต่างประเทศถึง 3 หมื่นคน สร้างธุรกิจของตนเองในแต่ละปี

ในบทความยังเรียกร้องให้ผู้ประกอบการรุ่นหนุ่มสาวลงทุนในเศรษฐกิจจริง ( real economy) และช่วยงานการกุศล แทนที่จะให้ความสำคัญแต่เรื่องคุณภาพชีวิตของตัวเองเพียงอย่างเดียว

อย่างไรก็ตาม นาย หลิน ฮั่น นักสะสมงานศิลปะ วัย 28 ปี ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ เอ็ม วูดส์ ( M Woods) ซึ่งไม่แสวงหากำไร ตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่ง เห็นว่า สื่อมวลชนมักเพ่งเล็งแต่พวกลูกเศรษฐี ที่ทำตัวแย่ ๆ แต่ไม่มองในภาพรวมทั้งหมด ซึ่งยังมีลูกคนรวยอีกมากมาย เช่นเดียวกับเขา ที่กำลังพยายามสร้างสรรค์ผลงาน และค้นหาคุณค่าของตนเอง ตลอดจนมีความรับผิดชอบต่อสังคม

“ เรายินดีที่จะทำตัวติดดิน และผมเชื่อว่าเวลาจะเปลี่ยนทัศนคติของผู้คนได้” เขากล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น