เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - นักวิเคราะห์ชี้ การประกาศลดเงินดาวน์ซื้อบ้านและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่น ๆ ซึ่งรัฐบาลจีนทยอยประกาศ ที่ผ่านมา ยังไม่เพียงพอทำให้เศรษฐกิจแดนมังกรโตถึงร้อยละ 7 อย่างที่คาดหวัง
การประกาศของธนาคารกลางจีน ซึ่งไฟเขียวให้ธนาคารพาณิชย์ลดอัตราการวางเงินดาวน์บ้านหลังที่ 2 ขั้นต่ำเหลือร้อยละ 40 จากเดิมร้อยละ 70- 60 ตลอดจนการประกาศของกระทรวงคลังให้ยกเว้นภาษีในการทำธุรกรรมขายบ้านของผู้อยู่อาศัยมานาน 2 ปี จากเดิมที่เก็บร้อยละ 5.6 เมื่อวันจันทร์ ที่ผ่านมา (30 มี.ค.) นั้น ไม่เหนือการคาดหมายของนักลงทุน ที่คาดกันมาก่อนหน้านี้แล้วว่า จีนจะประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการคาดหวังนี้ส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นกันทั่วหน้า
การประกาศดังกล่าวส่งผลให้ดัชนี CSI 300 ซึ่งเป็นดัชนีสำคัญในตลาดหุ้นจีน และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพซิต ปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (30 มี.ค.) พุ่งขึ้นเกือบร้อยละ 3 ซึ่งเป็นการปรับตัวสูงสุดครั้งแรกในรอบ 7 ปี นับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2551 เป็นต้นมา ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปรับขึ้นร้อยละ 1.5
ขณะนี้นักลงทุนกำลังเล็งกันว่า ธนาคารกลางจีนจะหั่นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรือประกาศลดสัดส่วนทุนสำรองของธนาคารลงอีก ตลอดจนมาตรการอื่น ๆ อาทิ การประกาศของคณะกรรมการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ของจีนอนุญาตให้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บนแผ่นดินใหญ่เข้าไปลงทุนในฮ่องกงภายใต้ระบบระบบการซื้อขายหุ้นเชื่อมโยงระหว่างตลาดหุ้นฮ่องกงกับเซี่ยงไฮ้ โดยนาย เบน กว่อง มัน-บัน (Ben Kwong Man-bun) ผู้อำนวยการบริษัทโบรกเกอร์บริษัทเคจีไอ เอเชีย (KGI Asia)คาดว่า ภาวะกระทิงในตลาดหุ้นจะยังดำเนินต่อไปในระยะอันใกล้ข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม ในความเห็นของนายหลิว ลี่กัง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ธนาคารเอเอ็นซี (ANZ Bank) ของออสเตรเลีย ภาพรวมของเศรษฐกิจแดนมังกรยังไม่กระเตื้องนัก จากมาตรการที่จีนทยอยออกมา ซึ่งรวมทั้งการประกาศลดเงินดาวน์บ้านล่าสุด ซึ่งเขาคิดว่า ยังไม่เพียงพอและไม่ได้แก่ปัญหาสำคัญ ๆ ในด้านการจัดหาเงินทุน ซึ่งต้นทุนเงินกู้ที่แท้จริงของบริษัทยังสูงกว่าร้อย 10 ในปัจจุบัน
ภาวะเศรษฐกิจแดนมังกรยังอ่อนแรงอยู่มากในขณะนี้ โดยนายหลิวคาดว่า จีดีพีของจีนจะยังชะลอการเติบโตเพียงร้อยละ 6.5-6.8 ในไตรมาสแรกของปี 2558 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนั้น ธนาคารกลางจีนกำลังเริ่มเห็นเค้าลางของภาวะเงินฝืดแล้วอีกด้วย ดังนั้น เขาเห็นว่า การผ่อนคลายนโยบายการเงินครั้งใหญ่เท่านั้นจึงจะเห็นผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจแดนมังกร