xs
xsm
sm
md
lg

สาวเซี่ยงไฮ้เกินครึ่งขอปิดอู่ ไม่มีลูกคนที่สอง บอก "คนเดียวก็พอแล้ว"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

(แฟ้มภาพเอเอฟพี)
ซินหวา - สำรวจพบหญิงเซี่ยงไฮ้เกินครึ่งส่ายหน้าไม่เอา ‘ลูกคนที่สอง’ อ้างเหตุปัจจัยเรื่องเงิน การดูแลเด็ก และขนาดที่พักอาศัยไม่ใหญ่โตพอ

มหาวิทยาลัยฟู่ตั้น (Fudan University) อันมีชื่อเสียงโด่งดังของจีน ได้ดำเนินการสอบถามความคิดเห็นกลุ่มสุภาพสตรี อายุต่ำกว่า 45 ปี ในมหานครเซี่ยงไฮ้ จำนวนมากกว่า 1,000 คน โดยร้อยละ 15 มีความตั้งใจจะมีทายาทเพิ่มขึ้นอีกคน สวนทางกับร้อยละ 45 ที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ลูกคนเดียวก็พอแล้ว”

เหตุผลที่ทำให้ไม่อยากมีลูกคนที่สอง ผู้ตอบแบบสำรวจร้อยละ 58 ยกเรื่อง ‘ภาระค่าใช้จ่าย’ มาเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนอันดับสองคือขาดแคลนคนดูแลเด็ก และสามคือไม่มีพื้นที่ในบ้านเพียงพอสำหรับลูกอีกคน

อย่างไรก็ดีผลการสำรวจดังกล่าวซึ่งเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี (19 มี.ค.) ชี้ว่ากลุ่มสตรีที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่รอบนอกของเมืองเซี่ยงไฮ้ กลับรู้สึกสนอกสนใจจะผลิตทายาทคนที่สองมากกว่าสตรีที่อาศัยอยู่ในเขตเมือง

สาธารณรัฐประชาชนจีน (PRC) ดินแดนที่ขึ้นชื่อว่ามีพลเมืองหนาแน่นมากที่สุดในโลก ได้ริเริ่มนโยบายการวางแผนครอบครัวอย่างเข้มงวดตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษ 1970 เพื่อควบคุมอัตราการเติบโตของจำนวนประชากรในประเทศ โดยกำหนดว่าคู่สามีภรรยาในเขตเมืองมีลูกได้เพียงหนึ่งคน ส่วนในชนบทมีลูกคนที่สองได้ หากลูกคนแรกเป็นเด็กผู้หญิง

กระทั่งช่วงปลายปี 2556 ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายครั้งใหญ่ ทางการจีนกลับลำอนุญาตให้คู่สามีภรรยาในเขตเมืองสามารถมีลูกอีกคนได้ โดยต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขพ่อหรือแม่เป็นลูกคนเดียวมาก่อน

ทว่าการปรับเปลี่ยนซึ่งมีผลบังคับใช้เป็นรูปธรรมในช่วงต้นปี 2557 กลับไม่ได้ก่อให้เกิดปรากฏการณ์เบบี้บูม (baby boom) อย่างที่คาดหวังไว้ ซึ่งเหล่าผู้เชี่ยวชาญออกโรงแนะว่า ทางการจีนควรเดินหน้านโยบายลูกสองคนอย่างเต็มกำลังแทน

กำลังโหลดความคิดเห็น