เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - ทางการจีนประกาศแผนการเตรียมจัดยานยนต์พลังงานทางเลือก 300,000 คัน ให้บริการแก่สาธารณะ ขณะที่ยอดการซื้อขายยานยนต์ประเภทดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา
กระทรวงคมนาคมจีนประกาศเมื่อกลางเดือนมีนาคมว่า ตั้งเป้าเพิ่มรถเมล์และรถแท็กซี่ที่ใช้พลังงานทางเลือก จำนวน 200,000 คันและ 100,000 คัน ตามลำดับ ออกให้บริการแก่ประชาชนภายในปี 2563 โดยปีก่อน (2557) ทางการจีนปล่อยรถเมล์ประเภทนี้ลงบนท้องถนนแล้วกว่า 15,000 คัน
ด้านยอดการจำหน่ายยานพาหนะพลังงานทดแทนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาก็ปรับตัวสูงขึ้น เพราะทางการออกนโยบายให้สิทธิพิเศษด้วยการลดภาษีและค่าธรรมเนียมบางรายการ เพื่อกระตุ้นการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าและรถปลั๊กอินไฮบริด (Plug-In Hybrid Cars)
สมาคมผู้ประกอบการยานยนต์จีน (China Association of Automobile Manufacturers) รายงานว่า สองเดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.พ.) ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้ามีมากถึง 5,996 คัน เพิ่มขึ้นถึง 4.2 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อน (2557) ในช่วงเวลาเดียวกัน ส่วนยอดขายรถยนต์ไฮบริดก็มากถึง 6,444 คัน เพิ่มขึ้น 2.2 เท่าจากปีก่อน
นายหย่าเล่อ จัง ผู้อำนวยการด้านการจัดการกลุ่มออโต้โมทีฟ โฟร์ไซท์ (Automotive Foresight) บริษัทวิจัยด้านการตลาดและอุตสาหกรรมในเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าและรถปลั๊กอินไฮบริดอาจสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงช่วงที่รัฐบาลเริ่มลดนโยบายสนับสนุนในช่วงปี 2559-2563
ทั้งนี้ตามเมืองใหญ่อย่างกรุงปักกิ่ง เจ้าของรถยนต์ไฟฟ้ายังจะมีโอกาสได้ป้ายทะเบียนรถง่ายขึ้นอีกด้วย แม้จะอยู่ในระบบการให้ป้ายทะเบียนแบบล็อตเตอรีท อันเป็นนโยบายที่ปักกิ่งเริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 2555 เพื่อลดปริมาณรถราบนท้องถนน
อย่างไรก็ดี แม้จะมีการสนับสนุนจากทางรัฐบาล แต่ราคารถยนต์ไฟฟ้าก็ยังมีแพงกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันถึง 2 เท่า รวมทั้งยังขาดแคลนสถานีที่ชาร์จไฟฟ้าและสาธารณูปโภคอื่นที่เกี่ยวข้อง ทำให้อัตราการเติบโตของรถยนต์ประเภทนี้ในตลาดทั่วประเทศยังไม่เดินหน้าเท่าที่ควร
“นี่ไม่ใช่ประเด็นง่ายๆเลย” นายจังกล่าว “ทุกอย่างยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างรากฐาน ซึ่งก้าวหน้าช้ามาก”
ขณะที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์พลังงานทางเลือกของต่างชาติหลายเจ้าต่างพยายามเจาะตลาดในจีน อาทิ เทสล่า มอเตอร์ (Tesla) แต่ต่างก็ประสบปัญหาหลายด้าน
อนึ่ง การตื่นตัวเรื่องรถยนต์พลังงานทางเลือกนี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสการขับเคลื่อนขนานใหญ่เพื่อต่อสู้ปัญหามลพิษทางอากาศในประเทศ โดยรัฐบาลจีนระบุว่า ปัญหาหมอกควันในปักกิ่ง มีตัวการมาจากท่อไอเสียของยวดยานพาหนะบนท้องถนนถึง 30 เปอร์เซ็นต์
