ASTVผู้จัดการออนไลน์—เป็นเรื่องที่น่าใจหาย ที่ว่า ช้างแอฟริกา จะสูญพันธุ์ไปจากโลกในชั่วรุ่นนี้ และจีนก็ตกเป็นเป้าโจมตี โดยนักรณรงค์สิทธิสัตว์กลุ่มหนึ่งชี้ว่าความต้องการ (อุปสงค์)งาช้างในจีนที่ขยายตัวมาก เป็นเหตุกระตุ้นให้เกิดการลักลอบค้างาช้างเถื่อน ที่มักต้องสังหารช้างไปด้วย
ก่อนหน้า ที่เจ้าชายวิลเลียม เสด็จมาเยือนกรุงปักกิ่ง จีนก็ได้ประกาศห้ามนำเข้างาช้างแกะสลักเป็นเวลา 1 ปี เพื่อสร้างบรรยากาศภาพลักษณ์ที่ดีในการต้อนรับ เจ้าชายรัชทายาทลำดับที่สองแห่งราชวงศ์อังกฤษ
เจ้าชายวิลเลียมเสด็จเยือนประเทศจีนเป็นเวลาสามวันระหว่างวันที่ 2-4 มี.ค. โดยมีการรณรงค์การอนุรักษ์สัตว์ป่า เป็นวาระหลักในการเยือนฯนี้ด้วย
เจ้าชายวิลเลียมปิดการเยือนแดนมังกรเมื่อวานนี้(4 มี.ค.) ที่สิบสอบปันนา มณฑลอวิ๋นหนัน ทรงเยี่ยมศูนย์ฟื้นฟูช้าง และทรงดำรัสเรียกร้องยุติการค้างาช้าง
“การลดความต้องการงาช้าง จะเป็นวิธีการอันทรงพลังในการหยุดการลักลอบค้างาช้าง เพราะความต้องการสินค้าชนิดนี้นี่เอง ที่ยิ่งกระตุ้นความโลภของพวกลักลอบฯ ด้วยผลกำไรก้อนโต ถึงที่สุดแล้ว การหยุดความต้องการงาช้าง เป็นเรื่องของประชาชนทุกคนบนโลกนี้ ที่จะต้องร่วมแรงร่วมใจกัน
“การสูญพันธุ์ของสัตว์ป่า ทั้งช้าง แรด ตัวนิ่ม ล้วนเป็นความสูญเสียอย่างประมาณค่ามิได้ของมนุษย์ชาติ” เจ้าชายวิลเลียม ทรงดำรัส
เจ้าชายรัชทายาทแห่งราชวงศ์อังกฤษยังได้ตรัสแก่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ในวันจันทร์(2 มี.ค.) ทรงแสดงความหวังว่าจีนจะเป็นผู้นำในการคุ้มครองสัตว์ป่า
ทั้งนี้ ในต้นปีที่แล้ว(2557) จีนได้ทำลายของกลางคือ งาช้าง 6.2 ตัน ที่ยึดมาได้จากพวกลักลอบค้าของเถื่อน แต่มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่า (WWF) ยังยกจีนเป็นตลาดงาช้างเถื่อนที่ใหญ่สุดในโลก
จีนได้ลงนามสัญญาห้ามการค้างาช้างโลกเมื่อปี 2524 แต่ในปี 2551 กลับได้รับการยกเว้นฯ สามารถซื้องาช้างจากกลุ่มประเทศแอฟริกาหลายชาติ และในปี 2555 มีช้างแอฟริกา จำนวนกว่า 20,000 ตัว ถูกสังหารเพื่อเอางา จากข้อมูลของโครงการติดตามฯภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (Convention on International Trade in Endangered Species) ขณะนี้ มีประชากรช้างหลงเหลืออยู่ประมาณ 500,000 ตัว เท่านั้น
สื่อจีนศอก ตะวันตก “มือถือสากปากถือศีล”
ทว่า ดยุคแห่งเคมบริดจ์ ก็ทรงเสี่ยงต่อการครหา หรือตีตราว่า เป็นกลุ่ม “มือถือสากปากถือศีล” จากการที่พระองค์ไปเยี่ยมศูนย์ฟื้นฟูช้างที่สิบสองปันนา และเรียกร้องให้รัฐบาลจีนจัดนโยบายต่อต้านการลักลอบค้างาช้างอย่างเด็ดขาด เนื่องจากพระราชนิกุลในราชวงศ์อังกฤษ มีคลังสะสมสิ่งของต่างๆจากสัตว์ป่า ทั้ง งาช้าง และนอแรด
แม้จีนถูกโจมตีว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยกระตุ้นการสังหารช้างเอางาด้วยอุปสงค์ในจีน แต่อย่างน้อยผู้นำมังกรก็ได้ประกาศห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์แกะสลักจากงาช้างเป็นเวลา 1 ปี เป็นการต้อนรับเจ้าชายวิลเลียม ผู้ทรงเป็นนักรณรงค์การคุ้มครองสิทธิสัตว์ ขณะที่พระราชวงศ์แดนผู้ดี ยังเก็บรักษาคอลเลคชั่นจากสัตว์ป่า ไว้ที่ตำหนักซานดริงแฮม ในนอร์โฟล์ค สหราชอาณาจักร มีทั้งนอแรด งาช้าง หนังสือดาว ไปยันซากสิงโตที่สต๊าฟไว้ สิ่งเหล่าเป็นของสะสมจากเกมล่าสัตว์ ที่พระราชนิกุลอังกฤษออกล่าในดินแดนอาณานิคมในทวีปแอฟริกาของตนจากยุคกว่าร้อยปีที่ผ่านมา
ภาพของสะสมจากสัตว์ป่าเหล่านี้ บั่นทอนพระดำรัสของเจ้าชายวิลเลียม โดยยิ่งตอกย้ำคำกล่าวหาของจีน ที่มักชี้ว่า พวกตะวันตกมักชี้นิ้วว่ากล่าวชาวจีนในสิ่งที่ชาวตะวันตกเองเคยหลงใหลทำมาก่อนในอดีตที่ผ่านมาไม่นานนัก เข้าทำนอง “ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง”
นอกจากนี้ ยังมีภาพเจ้าชายแฮร์รี่ พระอนุชาของเจ้าชายวิลเลียม ทรงถือปืนไรเฟิล ประทับข้างศพควายที่พระองค์ยิงระหว่างล่าสัตว์ในแอฟริกาปี 2547.