เอเจนซี - เจ้าชายวิลเลียมแห่งราชวงศ์อังกฤษ เสด็จฯ เยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ (2 มี.ค.) ที่ผ่านมา โดยทรงเยี่ยมเยียนเด็กผู้พิการชาวจีน ทอดพระเนตรสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ก่อนพบปะกับผู้นำสูงสุดของแดนมังกร
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ถวายการต้อนรับเจ้าชายวิลเลียม ดยุคแห่งเคมบริดจ์ องค์รัชทายาทลำดับที่ 2 แห่งราชวงศ์วินด์เซอร์ ณ อาคารมหาศาลาประชาชน ใจกลางกรุงปักกิ่งในวานนี้ พร้อมรับมอบเทียบเชิญเยือนประเทศอังกฤษ ที่เป็นพระราชสาส์นจากสมเด็จพระราชินีนารถเอลิซาเบธที่ 2
สีกล่าวว่าเขารอคอยจะได้พบกับสมาชิกราชวงศ์และกลุ่มผู้นำของอังกฤษ เพื่อร่วมวางแผนพัฒนาความสัมพันธ์ในอนาคต โดยระบุว่าความสัมพันธ์จีนกับสหราชอาณาจักรกำลังก้าวรุดหน้า ด้วยการค้าทวิภาคีที่มีมูลค่ากว่า 8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และความร่วมมือด้านต่างๆ อาทิ การเงิน พลังงานนิวเคลียร์ และเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูง
“ราชวงศ์อังกฤษไม่ได้มีอิทธิพลเฉพาะในสหราชอาณาจักร แต่ยังขจรขจายไปทั่วทุกมุมโลกอีกด้วย” สีกล่าวเสริม
ขณะเดียวกันเจ้าชายวิลเลียมตรัสกับสีและคณะผู้นำจีนคนอื่นว่า พระองค์ทรงสนใจจีนมานานแล้วเช่นกัน และปรารถนาจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ของสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนคนหนุ่มสาว
บทสนทนาของทั้งสองยังกล่าวถึงความร่วมมือจีน-อังกฤษในการพัฒนากีฬาฟุตบอลในประเทศจีน โดยสถานีวิทยุแห่งชาติจีนรายงานว่า ประธานาธิบดีสีซึ่งเป็นแฟนฟุตบอลตั้งแต่เด็ก บอกกับเจ้าชายวิลเลียมว่าอยากเรียนรู้จากชาตินักฟุตบอลอันแข็งแกร่งอย่างอังกฤษ
การเสด็จพระราชดำเนินเยือนกรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ และมณฑลยูนนานของเจ้าชายวิลเลียม ถือเป็นบททดสอบพระปรีชาสามารถทางการทูตครั้งสำคัญของพระองค์ หลังจากรัฐบาลปักกิ่งสั่งระงับความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัฐบาลอังกฤษในปี 2555-2556 เพราะไม่พอใจที่นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เดินทางไปพบกับองค์ทะไล ลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวทิเบต อันเป็นประเด็นอ่อนไหวทางการเมืองของจีน
นอกจากนั้นการเสด็จฯ ครานี้ยังถือเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 30 ปี ของสมาชิกราชวงศ์อังกฤษ นับตั้งแต่สมเด็จพระราชินีนารถเอลิซาเบธที่ 2 และพระสวามีเจ้าชายฟิลิป เสด็จฯ เยือนจีนเมื่อปี 2529 ซึ่งได้ขมวดปมเคืองใจไว้หลังดยุคแห่งเอดินบะระตรัสกับกลุ่มนักเรียนอังกฤษในจีนเวลานั้นว่า “หากคุณอาศัยอยู่ที่นี่ (จีน) นานวันเข้า คุณจะกลายเป็นพวกโลกแคบ” รวมถึงบันทึกของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ที่ถูกแฉออกมาภายหลัง ซึ่งเขียนถึงเจ้าหน้าที่ทางการจีนในงานพิธีส่งคืนเกาะฮ่องกงให้กับจีนในปี 2540 ว่าเป็น “หุ่นขี้ผึ้งเก่าคร่ำครึอันน่าตกใจ”
ช่วงเช้าวานนี้เจ้าชายวิลเลียมได้เสด็จฯ ไปเยี่ยมชมเขตอนุรักษ์บ้านจีนโบราณสื่อจยา หูท่ง (史家胡同) ในกรุงปักกิ่ง ซึ่งได้รับการบูรณะซ่อมแซมและเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์โดยความช่วยเหลือจากสองมูลนิธิในเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ (the Prince of Wales's China Foundation และ The Prince's Foundation for Building Communities) และทรงปราศรัยกับตัวแทนมูลนิธิท้องถิ่นที่ดูแลเด็กผู้พิการทางการได้ยินและการมองเห็น ซึ่งพ่อแม่เป็นแรงงานต่างถิ่นหรือต้องโทษจำคุก
เด็กชายเจ้า เฉิน วัย 14 ปี ที่เผชิญความบกพร่องทางดวงตาและผ่าตัดรักษามาแล้วหกครั้ง มีโอกาสบอกกับเจ้าชายวิลเลียมว่า เขาใฝ่ฝันจะได้ไปขับร้องอุปรากรที่พระราชวังของพระองค์ โดยเจ้าชายทรงมีพระราชดำรัสตอบกลับว่า หนูพบถูกคนแล้ว เราอาจจัดการนัดหมายบางอย่างขึ้นมาก็ได้
จากนั้นพระองค์ได้เสด็จฯ ต่อไปยังพระราชวังต้องห้าม และพบกับรองประธานาธิบดีจีน นายหลี่ หยวนเฉา หลังเจ้าหน้าที่ทางการของทั้งสองประเทศได้ร่วมลงนามในข้อตกลงเริ่มต้นปีแห่งการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างสหราชอาณาจักรและสาธารณรัฐประชาชนจีน
ขณะที่ช่วงเย็นเจ้าชายวิลเลียมเสด็จฯ โดยเครื่องบินไปยังมหานครเซี่ยงไฮ้ ทรงเป็นประธานเปิดงานนิทรรศการ the Great Festival of Creativity ที่จัดแสดงนวัตกรรมด้านการบันเทิง การออกแบบ การดูแลสุขภาพ และแฟชั่นของอังกฤษ ก่อนพบปะพูดคุยกับกลุ่มนักธุรกิจจีน อาทิ นายแจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา บริษัทอีคอมเมิร์ชขนาดยักษ์ใหญ่ของจีน
จุดหมายสุดท้ายของการเสด็จฯ เยือนจีนครั้งนี้ จะจบลงในวันพุธ (4 มี.ค.) ที่เขตปกครองตนเองสิบสองปันนาในมณฑลยูนนานทางตอนใต้ของจีน พระองค์จะเสด็จฯ เยี่ยมชมเขตอนุรักษ์ธรรมชาติและหมู่บ้านช้างป่า (Wild Elephant Valley) ซึ่งเป็นความสนพระทัยส่วนพระองค์มาเนิ่นนานในฐานะนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ออกรณรงค์ต่อต้านการค้าสัตว์อย่างผิดกฎหมาย