xs
xsm
sm
md
lg

เปิดใจผู้กล้าท้ามฤตยูชาวจีน ตีตั๋วเที่ยวเดียวไปเป็น “มนุษย์ดาวอังคาร”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพจินตนาการยานลงจอดดาวอังคารของโครงการ Mars One พร้อมด้วยอุปกรณ์การตั้งรกรากที่ติดแผงโซลาร์ ภาพเล็ก หลี่ ต้าเผิง (ซ้าย) และ หลิน เสี่ยวซย่า ชาวจีนสองคน ที่ได้เข้ารอบคัดเลือกชิงตั๋วเที่ยวเดียว ไปยังดาวอังคาร (ภาพ เอเจนซี)
เอเจนซี--กลุ่มสื่อ ชาวจีนสองคนได้เข้ารอบคัดเลือกชิงตั๋วเที่ยวเดียว ไปยังดาวอังคาร เผยพร้อมตายเพื่อไปถึงดวงดาวแห่งความฝัน

สืบเนื่องจากบริษัทดัชต์ Bas Lansdorp ผุดโครงการ Mars One ส่งชาวโลก 24 คนไปตั้งรกรากถาวรบนดาวพระอังคาร หรือดาวแดง (Red Planet) ภายในปี 2567 และได้เปิดรับอาสาสมัครที่จะท้ามฤตยูไปเป็นชาวดาวแดง

แม้เมื่อปีที่แล้วกลุ่มนักวิทยาศาสตร์สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ได้แถลงผลการวิจัย ที่ระบุว่ามนุษย์สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมบนดาวอังคาร เพียง 68 วันเท่านั้น ก็จะสิ้นชีวิต กระนั้นก็มีผู้คนกว่า 200,000 คน ที่อยากลองของ ยื่นใบสมัครเข้ามาขอเป็น “มนุษย์ดาวอังคาร”
ภาพดาวอังคาร หรือดาวแดง
พื้นผิวดาวอังคาร
เจ้าหน้าที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบสุขภาพและสัมภาษณ์ผู้สมัครทางออนไลน์ และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็ได้ประกาศรายชื่อผู้ผ่านเข้ารอบคัดเลือก 100 คน โดยมีชาวจีนติดโผในกลุ่มฯสองคน คือ หลิน เสี่ยวซย่า และหลี่ ต้าเผิง ผู้เข้ารอบคัดเลือกฯกลุ่มนี้ต้องเข้าร่วมการทดสอบต่างๆ และจะมีการประกาศรายชื่อรอบสุดท้ายในปลายปีนี้

ผู้สื่อข่าวสื่อฮ่องกงแห่งเซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ ได้ติดตามไปสัมภาษณ์เจาะใจผู้กล้าชาวจีนที่อาจคว้าตั๋วเที่ยวเดียวไปเป็นชาวดาวอังคาร คนหนึ่งคือ หลิน เสี่ยวซย่า วัย 31 ปี ผู้ประสานงานฝ่ายขายของบริษัทเสื้อผ้าในนครก่วงโจว มณฑลก่วงตง

“ฉันประหลาดใจอย่างเหลือล้น เนื่องจากการสัมภาษณ์ทางออนไลน์มีปัญหาในการสื่อสารกันไม่น้อยเลย” หลิน กล่าว “ฉันตื่นเต้นตัวสั่นขนลุกเมื่อได้ยินข่าวฯ นอนไม่หลับ ได้แต่จินตนาการถึงภาพที่ตัวเองได้ไปเหยียบดาวอังคาร”

หลินรักดาราศาสตร์ หลงใหลความลี้ลับแห่งจักรวาลมาตั้งแต่เป็นเด็กหญิงตัวน้อย เธอบอกว่า “การได้เรียนรู้เกี่ยวกับจักรวาลมากขึ้น ช่วยให้เปิดใจกว้าง โดยตระหนักโลกและมวลมนุษยชาติ เป็นสิ่งเล็กเพียงใด”

แต่หลินก็ต้องเผชิญเสียงคัดค้านในครอบครัว ซึ่งกลัวว่าจะไม่ได้เห็นหน้าเธออีก เนื่องจากการผจญภัยมฤตยูดาวแดงครั้งนี้ ไม่มีตั๋วเที่ยวกลับ แต่เธอก็ยืนกรานจะไม่ละทิ้งโอกาสหากได้รับเลือกในรอบสุดท้าย

“นี่คือการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่และมีความหมายมาก มันมาพร้อมกับความเสี่ยงภัยและรางวัล” หลิน กล่าว
“มนุษย์ได้ไปเหยียบดวงจันทร์มานานหลายปีแล้ว ฉันก็ฝันที่จะได้เห็นมนุษย์ได้ไปเหยียบดวงดาวอื่น โดยหวังว่าคนๆนั้นจะเป็นฉัน”

หลินบอกว่าจากนี้ไปเธอจะวิจัยเกี่ยวกับดาวอังคาร และฟิตร่างกายให้พร้อมสำหรับการคัดเลือกในรอบต่อไป
โครงการ Mars One ริเริ่มโดย นาย Bas Lansdorp (ภาพเล็ก) มีเป้าหมายส่งคนโดยสารยานลงจอดบนดาวอังคาร และสร้างชุมชนมนุษย์ที่นั่น (ภาพ เอเจนซี)
ชาวแผ่นดินใหญ่อีกคนติดโผฯ คือ นาย หลี่ วัย 33 ปี ผู้หลงรักดาราศาสตร์มาตั้งแต่ครั้งวัยรุ่น เขาบอกกับผู้สื่อข่าวที่มาสัมภาษณ์ ว่า “โอกาสที่จะพิชิตตั๋วไปดาวอังคารของเขานั้น มีน้อยมาก แต่เขาก็จะสู้เต็มที่”

หลี่ เป็นพ่อของลูกชายวัย 6 ขวบ 1 คน ทำงานที่สำนักงานป่าไม้ในเหอเป่ย ด้วยความสนใจพิเศษด้านวิทยาศาสตร์ ธรรมชาติ และการผจญภัย ทำให้เขาใฝ่ฝันจะไปถึงดาวพระอังคาร แต่เขาก็จะไม่ดื้อรั้นไป หากครอบครัวไม่ยอมจริงๆ

ทั้งนี้การสัมภาษณ์ทางออนไลน์ ได้ตั้งคำถาม ได้แก่ “ทำไมคุณจึงอยากไปดาวอังคาร? และ หากคุณได้เดินทางไปดาวอังคาร อาศัยอยู่ที่นั่น 3 ปี แล้วได้เดินทางกลับมายังโลก คุณจะเอาอะไรกลับมา?”

หลายคนเคลือบแคลงโครงการส่งมนุษย์ไปดาวอังคาร มีเป้าหมายเพื่อเงินเท่านั้น แต่ผู้จัดฯก็ปฏิเสธคำกล่าวหานี้
ทีมผู้จัดทำโครงการ Mars One จับมือกับยักษ์ใหญ่ผลิตอาวุธล็อคฮีด มาร์ติน (Lockheed Martin) วางแผนส่งดาวเทียมโคจรรอบโลกภายในปี 2561 แต่เป้าหมายยังคลุมเครือ ดาวอังคารอยู่ห่างจากโลก 225 ล้าน กิโลเมตร และพื้นผิวของดาวอังคารก็ไม่เอื้ออำนาจแก่สิ่งมีชีวิตดำรงอยู่ได้

หลี่กล่าวผ่านเว็บไซต์ท้องถิ่น “ชีวิตคนเราแสนสั้นนัก และไร้แก่นสาร เมื่อเปรียบกับจักรวาลอันไพศาล ความตายเป็นสิ่งแน่นอน...ไม่ช้าก็เร็ว ด้วยเหตุนี้ ผมจึงคิดว่าคุ้มค่าที่จะเสี่ยงไปท้ามฤตยูดาวอังคาร”


กำลังโหลดความคิดเห็น