เอเจนซี- เตรียมตัวเข้าเทศกาลปีใหม่จีน หรือ “ตรุษจีน” กับรายการสิ่งของ ที่คุณ “ไม่ควร” มอบให้ใคร แม้ว่าจะเจตนาดีแค่ไหนก็ตาม
แม้ “การให้ของขวัญ” เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในทุกสังคม ทว่า แต่ละที่ก็มีวัฒนธรรมการให้ของขวัญแตกต่างกันไป ดังนั้น เพื่อไม่เป็นการปล่อยไก่ อย่างกรณีนางซูซาน คราเมอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมอังกฤษ ที่มอบนาฬิกาเป็นของขวัญแก่นายเคอ เหวินเจ๋อ นายกเทศมนตรีไทเปของไต้หวัน ด้วยหวังสื่อความหมายว่า “เวลาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด” ตามแบบวิธีคิดคนอังกฤษ แต่สำหรับความเชื่อจีน กลับโอละพ่อ! เพราะนาฬิกามีความหมายถึง “การสิ้นสุด” และมีความหมายโดยนัยสื่อถึง “ความตาย” จนผู้ว่าฯไทเป เลือดขึ้นหน้าให้สัมภาษณ์ว่า “จะยกให้คนอื่นต่อหรือไม่ก็ขายให้โรงรับซื้อเศษเหล็ก” นั้น สื่อจีนไชน่า เดลี จึงแนะข้อห้ามในการมอบในโอกาสเทศกาลวันตรุษจีน
1. ห้ามให้ “นาฬิกา” แก่ผู้ใหญ่
ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาข้อมือ นาฬิกาแขวน หรือ อะไรก็แล้วแต่ที่เป็นนาฬิกา วัฒนธรรมจีน ถือกันมาก เพราะคำว่านาฬิกา (钟) ในภาษาจีน ออกเสียงแบบจีนกลางว่า “จง” พ้องกับคำว่า "จง" (终) ซึ่งมีความหมายว่า “สิ้นสุด” หรือ “ตาย” ดังนั้นนาฬิกาจึงถือเป็นของอัปมงคลที่ไม่ควรให้กัน โดยเฉพาะการให้ที่เป็นทางการ หรือให้ของขวัญแก่ผู้ใหญ่ แต่ถ้าอยากให้กันจริงๆ ก็ควรพาเจ้าตัวไปเลือกเอง แล้วผู้ให้เป็นคนจ่ายเงิน อย่างนี้ก็พอแก้ความอัปมงคลออกไปได้
2. ห้ามให้ “ร่ม” หรือ “ลูกแพร์” กับแฟน หรือคู่รัก
ในภาษาจีน “ร่ม” (伞) ออกเสียงว่า “ส่าน” ซึ่งพ้องกับคำว่า “ส่าน” (散) อีกคำหนึ่งที่มีความหมายว่า แตกแยก สูญเสีย ส่วนการแบ่ง “ลูกแพร์” ให้กัน ใช้คำว่า “เฟินหลี”(分梨) เป็นคำพ้องเสียงกับคำว่า “เฟินหลี” (分离) ที่หมายความว่า แตกแยก แยกทาง ดังนั้นถ้าคุณให้สองอย่างนี้กับคู่รักคนจีน เขาก็อาจเข้าใจว่าคุณกำลังแช่งให้พวกเขาเลิกกัน แต่แน่นอน ถ้าคุณให้ร่มกับใครตอนฝนตก นั่นก็คงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่นับกันในที่นี้
3. ห้ามให้หมวกสีเขียวแก่ผู้ชาย
อันที่จริง หมวกไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนักในวัฒนธรรมจีน เพราะคนจีนสมัยก่อนมีความเชื่อเรื่องลางร้ายหลายเรื่องมากเกี่ยวกับหมวก ยกตัวอย่างเช่น หากมีคนแก่ตาย ลูกหลานจะใส่หมวกให้ศพเพื่อแสดงความกตัญญู และหากชายคนไหน “สวมหมวกสีเขียว” หรือในภาษาจีนเรียกว่า “ไต้ลี่ว์เม่าจื่อ” (戴绿帽子) จะมีความหมายว่าภรรยาหรือแฟนของเขาคบชู้ เพราะคำว่า “ลี่ว์เม่าจื่อ” (绿帽子) ใช้เรียกผู้ชายที่โดนสวมเขา จารีตนี้สืบเนื่องมาจากในสมัยราชวงศ์หยวน (พ.ศ. 1814 - 1911) มีการบังคับให้หญิงโสเภณีสวมหมวกสีเขียว นั่นเอง ชายจีนจึงไม่ค่อยนิยมหมวกสีเขียว เพราะไม่อยากให้ใครดูถูกว่าโดนภรรยาสวมเขา
4. ห้ามให้ “ยา” เป็นของขวัญ
หากคุณให้ยาใครเป็นของขวัญ แม้จะมีเจตนาที่ดีก็ตาม แต่คนจีนผู้รับอาจเข้าใจว่า ของขวัญนี้ “เป็นลางแช่งให้ป่วย” นอกเหนือจากยา ผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพต่างๆ ก็ถือเป็นของไม่ควร โดยเฉพาะหากผู้รับไม่ใช่เพื่อนหรือญาติสนิทของเรา
5. ห้ามให้ “รองเท้า” กับคนนอกครอบครัว
รองเท้า (鞋) ในภาษาจีนออกเสียงว่า “เสีย” ออกเสียงพ้องกับว่า “เสีย” (邪) ซึ่งแปลว่า ภูตผีปีศาจ สิ่งชั่วร้ายที่มีพลังดำมืดทำให้เราป่วยหรือประสบความวิบัติได้ ดังนั้นคนจีนจึงไม่นิยมให้รองเท้าเป็นของขวัญกัน และยิ่งหากเราให้รองเท้าที่ “คับ” พอดีเกินไปสำหรับผู้สวมใส่ มันจะมีความหมายว่า “เรื่องยุ่งยากกำลังจะเกิดขึ้น” กับชีวิตเขา
6. ไม่ควรให้กล่องของขวัญโทนสีขาว-ดำ
ในวัฒนธรรมจีน สีดำ สีขาว เป็นสีที่เกี่ยวกับพิธีศพ การตาย หรือ เคราะห์ร้าย รวมทั้งเป็นเป็นสีแห่งความอับโชค ดังนั้นจึงควรเลี่ยงกล่องของขวัญที่มีโทนสีดังกล่าว และหันไปใช้สีประเภทแดง หรือสีสว่างที่ให้ความอบอุ่นแทน เพราะสีเหล่านี้เป็นตัวแทนความสุข และความปรองดอง
7. ให้ “เงินสด” ดีที่สุด
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับทุนนิยม แต่เป็นเรื่องของการแสดงความรักและการอวยพร ในเทศกาลตรุษจีน หากคุณไม่แน่ใจว่าควรให้อะไรแก่ผู้อื่น จะเป็นเพื่อน หรือญาติๆ สิ่งที่ง่ายที่สุด ปลอดภัยที่สุด และไม่ทำให้คุณขายหน้าด้วยความไม่รู้ ก็คือ “ซองแดง” พร้อม “เงินสด” บรรจุข้างใน หรือที่เรียกกันว่า “อั่งเปา” (红包) จะมากน้อยก็แล้วแต่กำลังของแต่ละคน แต่ส่วนใหญ่คนจีนจะให้กันเป็นจำนวนเลขคู่ โดยเฉพาะเลข 8 (八) ที่อ่านว่า “ปา” ออกเสียงใกล้เคียงคำว่า “ฟา” (發) อันหมายถึง “ความเจริญรุ่งเรือง ความร่ำรวย” คนจีนจึงถือว่าเลขแปดเป็นเลขมงคล ส่วนซองสีแดงเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความโชคดี การให้ซองเงินแสดงถึงการอวยพร ผู้ใหญ่ก็มักให้ซองแดงกับเด็กเพื่อแสดงถึงความรัก ความเอ็นดูที่มีต่อพวกเขา