เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์- ศาลจีนตัดสินจำคุก 20 ปี นางติง ซูเหมียวคนสนิทของหลิว จื้อจวิน อดีตรัฐมนตรีการรถไฟ ฐานสมรู้ร่วมคิดทำการฉ้อโกงคอรัปชั่น รวมทั้งโทษปรับอีกกว่า 2,000 ล้านหยวน มากที่สุดที่เคยปรับมา
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของการปราบปรามทุจริตจีน ที่วงการจับตามองกันมาก เมื่อศาลประชาชนชั้นกลางประจำกรุงปักกิิ่ง ตัดสินลงโทษนางติง ซูเหมียว ด้วยโทษจำคุก 20 ปี และปรับเงินอีกกว่า 2,500 ล้านหยวน หรือราวๆ 12,500 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นค่าปรับที่มากที่สุดที่ผู้ต้องหาเคยโดนเรียกเก็บ ศาลประชาชนชั้นกลาง หมายเลข 2 กล่าว
นางติง และ นายหลิว จื้อจวิน อดีตรัฐมนตรีว่าการรถไฟ สมรู้ร่วมคิดกันทุจริตช่วยให้บริษัทต่างๆ ชนะโครงการก่อสร้างใหญ่ๆ หลายโครงการของกระทรวงการรถไฟ นางติงถือเป็น “คนกลาง” ระหว่างนักธุรกิจคนอื่นๆ กับนายหลิว
ในระหว่างปี 2550 - 2553 นางติง ได้ค่านายหน้า ไป 2,000 ล้านหยวน (ประมาณ 10,000 ล้านบาท) หลังจากใช้เส้นสายในการรถไฟช่วยให้บริษัท 23 แห่งชนะประมูลโครงการ 57 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 186,000 ล้านหยวน หรือราวๆ 930,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการทุจริตที่รุนแรงมากในระบบการประมูลโครงการก่อสร้างทางรถไฟ
ปักกิ่ง นิวส์ ระบุว่า นางติงเป็นท่อน้ำเลี้ยงใหญ่ของอดีตรัฐมนตรีการรถไฟ นายหลิว จื้อจวิน ขณะที่นางติงและครอบครัว ได้ประโยชน์กว่า 4,000 ล้านหยวน หรือราวๆ 20,000 ล้านบาท จากสัญญาเครือข่ายสายรถไฟความเร็วสูงด้วยความช่วยเหลือของนายหลิว
ในปี 2551- 2553 นางติงให้เงินสินบนแก่นายหลิวไปถึง 49 ล้านหยวน หรือราวๆ 245 ล้านบาท และราว 44 ล้านหยวน สำหรับช่วยเพื่อนของนายหลิวคนหนึ่งออกจากคุก
นอกจากนี้ ในข่วงปี 2551-2553 นางติงยังให้เงินสินบนแก่นายฟั่น เจิ้งอี้ว์ อดีตเจ้าหน้าที่ประจำคณะมุขมนตรี ดูแลด้านการบรรเทาความยากจน จำนวน 38 ครั้ง เป็นเงินมากกว่า 40 ล้านหยวน หรือราวๆ 200 ล้านบาท ในการณ์นี้ ยังรวมถึงการซื้ออพาร์ทเม้นท์มูลค่า 8.8 ล้านหยวน หรือประมาณ 44 ล้านบาท ให้ตามที่นายฟั่นร้องขออีกด้วย
ปัจจุบัน นายฟั่นถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหาคอรัปชั่น ตั้งแต่เดือนม.ค. ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีการพิพากษาใด
ส่วนนายหลิว จื้อจวิน อดีตรัฐมนตรีการรถไฟ ถูกพิพากษาประหารชีวิต โดยรอลงอาญา 2 ปี ในความผิดคอรัปชั่นและใช้อำนาจในทางมิชอบตั้งแต่ปีที่แล้ว (2556)
นางติง ซูเมี้ยว หรือ ติง อี้ว์ซิน วัย 59 ปี เป็นชาวซานซี ที่เริ่มต้นสร้างตัวจากอาชีพการค้าไข่ เมื่อประมาณ 30 กว่าปีก่อน ต่อมาในช่วงปี 2530 นางติง ก็เข้าสู่วงการการขนส่งทางรถไฟ ทำให้นางมีโอกาสได้รู้จักกับหลิว จื้อจวิน ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการรถไฟ
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของการปราบปรามทุจริตจีน ที่วงการจับตามองกันมาก เมื่อศาลประชาชนชั้นกลางประจำกรุงปักกิิ่ง ตัดสินลงโทษนางติง ซูเหมียว ด้วยโทษจำคุก 20 ปี และปรับเงินอีกกว่า 2,500 ล้านหยวน หรือราวๆ 12,500 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นค่าปรับที่มากที่สุดที่ผู้ต้องหาเคยโดนเรียกเก็บ ศาลประชาชนชั้นกลาง หมายเลข 2 กล่าว
นางติง และ นายหลิว จื้อจวิน อดีตรัฐมนตรีว่าการรถไฟ สมรู้ร่วมคิดกันทุจริตช่วยให้บริษัทต่างๆ ชนะโครงการก่อสร้างใหญ่ๆ หลายโครงการของกระทรวงการรถไฟ นางติงถือเป็น “คนกลาง” ระหว่างนักธุรกิจคนอื่นๆ กับนายหลิว
ในระหว่างปี 2550 - 2553 นางติง ได้ค่านายหน้า ไป 2,000 ล้านหยวน (ประมาณ 10,000 ล้านบาท) หลังจากใช้เส้นสายในการรถไฟช่วยให้บริษัท 23 แห่งชนะประมูลโครงการ 57 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 186,000 ล้านหยวน หรือราวๆ 930,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการทุจริตที่รุนแรงมากในระบบการประมูลโครงการก่อสร้างทางรถไฟ
ปักกิ่ง นิวส์ ระบุว่า นางติงเป็นท่อน้ำเลี้ยงใหญ่ของอดีตรัฐมนตรีการรถไฟ นายหลิว จื้อจวิน ขณะที่นางติงและครอบครัว ได้ประโยชน์กว่า 4,000 ล้านหยวน หรือราวๆ 20,000 ล้านบาท จากสัญญาเครือข่ายสายรถไฟความเร็วสูงด้วยความช่วยเหลือของนายหลิว
ในปี 2551- 2553 นางติงให้เงินสินบนแก่นายหลิวไปถึง 49 ล้านหยวน หรือราวๆ 245 ล้านบาท และราว 44 ล้านหยวน สำหรับช่วยเพื่อนของนายหลิวคนหนึ่งออกจากคุก
นอกจากนี้ ในข่วงปี 2551-2553 นางติงยังให้เงินสินบนแก่นายฟั่น เจิ้งอี้ว์ อดีตเจ้าหน้าที่ประจำคณะมุขมนตรี ดูแลด้านการบรรเทาความยากจน จำนวน 38 ครั้ง เป็นเงินมากกว่า 40 ล้านหยวน หรือราวๆ 200 ล้านบาท ในการณ์นี้ ยังรวมถึงการซื้ออพาร์ทเม้นท์มูลค่า 8.8 ล้านหยวน หรือประมาณ 44 ล้านบาท ให้ตามที่นายฟั่นร้องขออีกด้วย
ปัจจุบัน นายฟั่นถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหาคอรัปชั่น ตั้งแต่เดือนม.ค. ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีการพิพากษาใด
ส่วนนายหลิว จื้อจวิน อดีตรัฐมนตรีการรถไฟ ถูกพิพากษาประหารชีวิต โดยรอลงอาญา 2 ปี ในความผิดคอรัปชั่นและใช้อำนาจในทางมิชอบตั้งแต่ปีที่แล้ว (2556)
นางติง ซูเมี้ยว หรือ ติง อี้ว์ซิน วัย 59 ปี เป็นชาวซานซี ที่เริ่มต้นสร้างตัวจากอาชีพการค้าไข่ เมื่อประมาณ 30 กว่าปีก่อน ต่อมาในช่วงปี 2530 นางติง ก็เข้าสู่วงการการขนส่งทางรถไฟ ทำให้นางมีโอกาสได้รู้จักกับหลิว จื้อจวิน ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการรถไฟ