เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์/เอเจนซี- ไต้หวันทดลองยิงขีปนาวุธ “ฮาร์พูน” จากเรือดำน้ำสำเร็จ เสริมกำลังทัพเรือของไต้หวันให้เข้มแข็งขึ้น
เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์รายงานเมื่อวานนี้(20 ต.ค.) โดยอ้างแหล่งข่าวสื่อท้องถิ่นไต้หวันราย ว่า กองทัพเรือไต้หวันทดลองยิงขีปนาวุธ 2 ลูกจากเรือดำน้ำสำเร็จแล้วเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยขีปนาวุธที่ว่านี้คือ ขีปนาวุธต่อต้านเรือ ฮาร์พูน (Harpoon) ซึ่งเป็นระบบขีปนาวุธโจมตีเรือรบผิวน้ำในระยะขอบฟ้าทุกสภาพอากาศ ฮาร์พูน ได้รับการพัฒนาและผลิตโดยบริษัทแมคดอนเนลล์ดักลาส ของสหรัฐอเมริกา
ส่วนเรือดำน้ำที่ใช้ปล่อยขีปนาวุธในครั้งนี้มีชื่อว่า ไห่หู่ หรือ “เสือทะเล” จากบริษัทสัญชาติดัทช์ ลิเบอร์ตี้ ไทม์ส และ ยูไนเต็ด อีฟนิ่ง นิวส์ รายงาน
ด้านพลตรีหลัว เส้าเหอ โฆษกกระทรวงกลาโหมไต้หวัน ปฏิเสธให้รายละเอียดเกี่ยวกับการทดสอบดังกล่าว โดยระบุไว้เพียงว่า กองทัพเรือประสบความสำเร็จในการทดลองยิงขีปนาวุธฯ เซ็นทรัล นิวส์ เอเจนซี รายงาน
ทั้งนี้เมื่อปีที่แล้ว (2556) เริ่มมีการส่งมอบขีปนาวุธสำหรับติดตั้งเรือดำน้ำ 2 ลำ แก่นาวีไต้หวัน
ขีปนาวุธต่อต้านเรือผิวน้ำนี้ มีพิสัยทำการอยู่ที่ 278 กิโลเมตร ช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถเรือดำน้ำไต้หวันได้มากเพราะแต่เดิมทัพเรือฯ มีเพียงแค่ตอร์ปิโดซึ่งมีระยะทำการที่จำกัด สื่อท้องถิ่น รายงานอ้างแหล่งข่าวจากกองทัพเรือฯ
ก่อนหน้านี้ ไต้หวันก็ทำการติดตั้งขีปนาวุธฮาร์พูนให้กับเรือรบฟริเกตและเครื่องบินขับไล่เอฟ 16 ของตนเองไปแล้ว จนกระทั่งเมื่อปี 2551 รัฐบาลมะกันไฟเขียวสัญญาซื้อขายอาวุธยุทโธปกรณ์แก่ไต้หวัน มูลค่าทั้งสิ้น 6 .5 พันล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ หรือราวๆ 208,000 ล้านบาท ในรายการอาวุธที่สั่งซื้อ มีอาทิ อาวุธสำหรับเรือดำน้ำ ขีปนาวุธแพทรีออต (patriot missiles) และเฮลิคอปเตอร์โจมตีอาปาเช่อีก 30 ลำ สร้างความไม่พอใจแก่ปักกิิ่งมาก
ปักกิ่งถือไต้หวันเป็นมณฑลหนึ่งของจีน และขู่จะบุกยึดเกาะอยู่หลายครา หากไต้หวันยังคิดจะแยกตัวเป็นอิสระ ทำให้ไต้หวันจำต้องหาอาวุธเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ตัวเอง ซึ่งโดยหลักแล้ว อาวุธเหล่านั้นมักมาจากฟากสหรัฐฯ ทั้งนี้สหรัฐฯได้รับรองสัญญาความสัมพันธ์ไต้หวัน (Taiwan Relations Act) ปี 1979 ที่ระบุวอชิงตันจะช่วยเหลือหากไต้หวันถูกโจมตี ดังนั้นจึงมีการขายอาวุธในรูปแบบเพื่อการป้องกันตัวเองแก่ไต้หวัน
อย่างไรก็ดี ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันและปักกิ่งแน่นแฟ้นขึ้นตั้งแต่นายหม่า อิงจิ่วแห่งพรรคก๊กมินตั๋ง ได้ขึ้นสู่อำนาจเมื่อปี 2551 และให้คำมั่นว่าจะเสริมสร้างสายสัมพันธ์ทางการค้าและต้อนรับชาวแผ่นดินใหญ่มากขึ้น โดยนายหม่า ได้รับนั่งเก้าอี้ผู้นำสมัยที่สองเมื่อปี 2555
เมื่อสัปดาห์ก่อน มีรายงานว่า ไต้หวันขอความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ในการสร้างเรือดำน้ำของตนเองขึ้นมาหลังจากที่ไม่สามารถซื้อจากสหรัฐฯหรือประเทศอื่นๆได้ เพราะอเมริกาเองก็เกรงว่าหากครั้งนี้ขายให้ดังเช่นเมื่อปี 2551 ซึ่งขายให้จำนวน 8 ลำ จะกระทบกระเทือนความสัมพันธ์กับปักกิ่งมากเกินไป
เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์รายงานเมื่อวานนี้(20 ต.ค.) โดยอ้างแหล่งข่าวสื่อท้องถิ่นไต้หวันราย ว่า กองทัพเรือไต้หวันทดลองยิงขีปนาวุธ 2 ลูกจากเรือดำน้ำสำเร็จแล้วเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยขีปนาวุธที่ว่านี้คือ ขีปนาวุธต่อต้านเรือ ฮาร์พูน (Harpoon) ซึ่งเป็นระบบขีปนาวุธโจมตีเรือรบผิวน้ำในระยะขอบฟ้าทุกสภาพอากาศ ฮาร์พูน ได้รับการพัฒนาและผลิตโดยบริษัทแมคดอนเนลล์ดักลาส ของสหรัฐอเมริกา
ส่วนเรือดำน้ำที่ใช้ปล่อยขีปนาวุธในครั้งนี้มีชื่อว่า ไห่หู่ หรือ “เสือทะเล” จากบริษัทสัญชาติดัทช์ ลิเบอร์ตี้ ไทม์ส และ ยูไนเต็ด อีฟนิ่ง นิวส์ รายงาน
ด้านพลตรีหลัว เส้าเหอ โฆษกกระทรวงกลาโหมไต้หวัน ปฏิเสธให้รายละเอียดเกี่ยวกับการทดสอบดังกล่าว โดยระบุไว้เพียงว่า กองทัพเรือประสบความสำเร็จในการทดลองยิงขีปนาวุธฯ เซ็นทรัล นิวส์ เอเจนซี รายงาน
ทั้งนี้เมื่อปีที่แล้ว (2556) เริ่มมีการส่งมอบขีปนาวุธสำหรับติดตั้งเรือดำน้ำ 2 ลำ แก่นาวีไต้หวัน
ขีปนาวุธต่อต้านเรือผิวน้ำนี้ มีพิสัยทำการอยู่ที่ 278 กิโลเมตร ช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถเรือดำน้ำไต้หวันได้มากเพราะแต่เดิมทัพเรือฯ มีเพียงแค่ตอร์ปิโดซึ่งมีระยะทำการที่จำกัด สื่อท้องถิ่น รายงานอ้างแหล่งข่าวจากกองทัพเรือฯ
ก่อนหน้านี้ ไต้หวันก็ทำการติดตั้งขีปนาวุธฮาร์พูนให้กับเรือรบฟริเกตและเครื่องบินขับไล่เอฟ 16 ของตนเองไปแล้ว จนกระทั่งเมื่อปี 2551 รัฐบาลมะกันไฟเขียวสัญญาซื้อขายอาวุธยุทโธปกรณ์แก่ไต้หวัน มูลค่าทั้งสิ้น 6 .5 พันล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ หรือราวๆ 208,000 ล้านบาท ในรายการอาวุธที่สั่งซื้อ มีอาทิ อาวุธสำหรับเรือดำน้ำ ขีปนาวุธแพทรีออต (patriot missiles) และเฮลิคอปเตอร์โจมตีอาปาเช่อีก 30 ลำ สร้างความไม่พอใจแก่ปักกิิ่งมาก
ปักกิ่งถือไต้หวันเป็นมณฑลหนึ่งของจีน และขู่จะบุกยึดเกาะอยู่หลายครา หากไต้หวันยังคิดจะแยกตัวเป็นอิสระ ทำให้ไต้หวันจำต้องหาอาวุธเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ตัวเอง ซึ่งโดยหลักแล้ว อาวุธเหล่านั้นมักมาจากฟากสหรัฐฯ ทั้งนี้สหรัฐฯได้รับรองสัญญาความสัมพันธ์ไต้หวัน (Taiwan Relations Act) ปี 1979 ที่ระบุวอชิงตันจะช่วยเหลือหากไต้หวันถูกโจมตี ดังนั้นจึงมีการขายอาวุธในรูปแบบเพื่อการป้องกันตัวเองแก่ไต้หวัน
อย่างไรก็ดี ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันและปักกิ่งแน่นแฟ้นขึ้นตั้งแต่นายหม่า อิงจิ่วแห่งพรรคก๊กมินตั๋ง ได้ขึ้นสู่อำนาจเมื่อปี 2551 และให้คำมั่นว่าจะเสริมสร้างสายสัมพันธ์ทางการค้าและต้อนรับชาวแผ่นดินใหญ่มากขึ้น โดยนายหม่า ได้รับนั่งเก้าอี้ผู้นำสมัยที่สองเมื่อปี 2555
เมื่อสัปดาห์ก่อน มีรายงานว่า ไต้หวันขอความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ในการสร้างเรือดำน้ำของตนเองขึ้นมาหลังจากที่ไม่สามารถซื้อจากสหรัฐฯหรือประเทศอื่นๆได้ เพราะอเมริกาเองก็เกรงว่าหากครั้งนี้ขายให้ดังเช่นเมื่อปี 2551 ซึ่งขายให้จำนวน 8 ลำ จะกระทบกระเทือนความสัมพันธ์กับปักกิ่งมากเกินไป