เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์- กองทัพเรือไต้หวัน แพร่ภาพเรือคอร์เวตที่ผลิตขึ้นเองในประเทศ ด้านผู้เชี่ยวชาญเชื่อ ถือว่าตั้งใจข่มขวัญแผ่นดินใหญ่
ความเคลื่อนไหวเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับจีน ล่าสุดคือ เมื่อสองวันก่อน ( 10 ธ.ค.) กองทัพเรือไต้หวันเผยแพร่ภาพวิดีโอความยาว 110 วินาที แสดงให้เห็นภาพเรือคอร์เวตระวางขับน้ำ 500 ตัน ที่ปล่อยจรวจจากพื้นสู่อากาศได้ กำลังแล่นกลับจากทะเลจีนใต้ หลังทดลองปล่อยไปเมื่อเดือนพ.ย. เป็นต้นมา
เรือคอร์เวตที่เห็นในภาพ มีชื่อว่า ถัว เจียง ถือเป็นมือพิฆาตล่าสุดสำหรับเสริมความแข็งแกร่งให้กับกองทัพเรือไต้หวัน ถัว เจียง สามารถแล่นได้เร็วถึง 38 น็อตต่อชั่วโมง ในระหว่างการทดลองปล่อย ทำให้กองทัพไต้หวันพอใจเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่กองทัพเรือนายหนึ่งของไต้หวัน กล่าวกับเซ็นทรัล นิวส์ เอเจนซี
เรือคอร์เว็ตจะมีหน้าที่เป็นหน่วยพิฆาตเรือของศัตรู เพราะแล่นได้เร็ว เข้าใกล้เป้าหมายได้ง่ายเพราะเรดาร์จับสัญญาณไม่ค่อยได้ เซ็นทรัล นิวส์ ระบุ
ส่วนสื่อไต้หวัน ระบุว่า ถัว เจียง เป็นส่วนหนึ่งของโครงการมูลค่า 25,000 ล้านไต้หวัน ในการจัดหาเรือคอร์เวตจำนวน 7 ถึง 11 ลำ เพื่อทำหน้าที่ป้องกันอากาศยานจากแผ่นดินใหญ่ เป็นเรือที่บริษัท หลงเต๋อ ของไต้หวันผลิตขึ้นเองในอำเภออี้หลาน ทางตะวันออกของเกาะไต้หวัน ตัวเรือมีขนาดความยาว 60.4 เมตร กว้าง 14 เมตร บรรทุกคนได้ 41 คน และแล่นได้ไกล 2,000 ไมล์ทะเล สามารถติดตั้งจรวดต่อต้านเรือผิว สยง เฟิง 2 และ 3(Hsiung FengII , III) ได้
ซู กวนฉุน ผู้เชี่ยวชาญการทหารของไต้หวัน กล่าวว่า เรือคอร์เวตทำให้เห็นว่า กองทัพเรือไต้หวันขาดแคลนอาวุธสำหรับการโจมตี
“เรือส่วนใหญ่ที่เราซื้อมาจากอเมริกาเป็นเรือสำหรับการป้องกันดินแดน เช่นพวกเรือขับไล่เรือดำน้ำ หากไต้หวันนำเข้าอาวุธ ไต้หวันก็จะได้อาวุธที่มีศักยภาพจำกัด แต่เมื่อพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ขึ้นมาเองได้ กองทัพเรือของเราก็จะแข็งแกร่งโดยไม่ต้องง้อประเทศอื่น” นายซู กล่าว
ส่วนในช่วงต้นเดือนธ.ค. ที่ผ่านมา รัฐสภาสหรัฐได้ผ่านร่างฯ การขายเรือฟริเก็ต 4 ลำ ให้กับไต้หวัน แม้ปักกิ่งคัดค้าน
“ไต้หวันอยากให้ปักกิ่งรู้ว่า กองทัพของไต้หวันพัฒนาไปไกลมากแล้ว” นายซู กล่าว และระบุเพิ่มเติมว่า เรือคอร์เวตคือการขู่เรือผิวน้ำของกองทัพปลดแอกประชาชนจริงๆ”
ด้ายนายหยาง หลี่เซียน ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับแผ่นดินใหญ่ จากสำนักบัณฑิตสังคมศาสตร์จีน กล่าวหาว่า ไต้หวันกำลัง “ผลาญเงินภาษีประชาชนโดยเปล่าประโยชน์”
“แผ่นดินใหญ่ ไม่ได้พัฒนากองทัพเรือเพื่อข่มไต้หวัน แต่มันจะเป็นประโยชน์กับไต้หวันด้วยซ้ำไปหากมีการรวมประเทศ ที่สำคัญ นายหม่าควรเอาเงินไปช่วยคนรากหญ้าและเพิ่มค่าแรงประชาชนจะดีกว่า พรรคก๊กมินตั๋งของเขาจะได้ไม่ต้องล้มไม่เป็นท่าในการเลือกตั้งท้องถิ่น”
ความเคลื่อนไหวเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับจีน ล่าสุดคือ เมื่อสองวันก่อน ( 10 ธ.ค.) กองทัพเรือไต้หวันเผยแพร่ภาพวิดีโอความยาว 110 วินาที แสดงให้เห็นภาพเรือคอร์เวตระวางขับน้ำ 500 ตัน ที่ปล่อยจรวจจากพื้นสู่อากาศได้ กำลังแล่นกลับจากทะเลจีนใต้ หลังทดลองปล่อยไปเมื่อเดือนพ.ย. เป็นต้นมา
เรือคอร์เวตที่เห็นในภาพ มีชื่อว่า ถัว เจียง ถือเป็นมือพิฆาตล่าสุดสำหรับเสริมความแข็งแกร่งให้กับกองทัพเรือไต้หวัน ถัว เจียง สามารถแล่นได้เร็วถึง 38 น็อตต่อชั่วโมง ในระหว่างการทดลองปล่อย ทำให้กองทัพไต้หวันพอใจเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่กองทัพเรือนายหนึ่งของไต้หวัน กล่าวกับเซ็นทรัล นิวส์ เอเจนซี
เรือคอร์เว็ตจะมีหน้าที่เป็นหน่วยพิฆาตเรือของศัตรู เพราะแล่นได้เร็ว เข้าใกล้เป้าหมายได้ง่ายเพราะเรดาร์จับสัญญาณไม่ค่อยได้ เซ็นทรัล นิวส์ ระบุ
ส่วนสื่อไต้หวัน ระบุว่า ถัว เจียง เป็นส่วนหนึ่งของโครงการมูลค่า 25,000 ล้านไต้หวัน ในการจัดหาเรือคอร์เวตจำนวน 7 ถึง 11 ลำ เพื่อทำหน้าที่ป้องกันอากาศยานจากแผ่นดินใหญ่ เป็นเรือที่บริษัท หลงเต๋อ ของไต้หวันผลิตขึ้นเองในอำเภออี้หลาน ทางตะวันออกของเกาะไต้หวัน ตัวเรือมีขนาดความยาว 60.4 เมตร กว้าง 14 เมตร บรรทุกคนได้ 41 คน และแล่นได้ไกล 2,000 ไมล์ทะเล สามารถติดตั้งจรวดต่อต้านเรือผิว สยง เฟิง 2 และ 3(Hsiung FengII , III) ได้
ซู กวนฉุน ผู้เชี่ยวชาญการทหารของไต้หวัน กล่าวว่า เรือคอร์เวตทำให้เห็นว่า กองทัพเรือไต้หวันขาดแคลนอาวุธสำหรับการโจมตี
“เรือส่วนใหญ่ที่เราซื้อมาจากอเมริกาเป็นเรือสำหรับการป้องกันดินแดน เช่นพวกเรือขับไล่เรือดำน้ำ หากไต้หวันนำเข้าอาวุธ ไต้หวันก็จะได้อาวุธที่มีศักยภาพจำกัด แต่เมื่อพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ขึ้นมาเองได้ กองทัพเรือของเราก็จะแข็งแกร่งโดยไม่ต้องง้อประเทศอื่น” นายซู กล่าว
ส่วนในช่วงต้นเดือนธ.ค. ที่ผ่านมา รัฐสภาสหรัฐได้ผ่านร่างฯ การขายเรือฟริเก็ต 4 ลำ ให้กับไต้หวัน แม้ปักกิ่งคัดค้าน
“ไต้หวันอยากให้ปักกิ่งรู้ว่า กองทัพของไต้หวันพัฒนาไปไกลมากแล้ว” นายซู กล่าว และระบุเพิ่มเติมว่า เรือคอร์เวตคือการขู่เรือผิวน้ำของกองทัพปลดแอกประชาชนจริงๆ”
ด้ายนายหยาง หลี่เซียน ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับแผ่นดินใหญ่ จากสำนักบัณฑิตสังคมศาสตร์จีน กล่าวหาว่า ไต้หวันกำลัง “ผลาญเงินภาษีประชาชนโดยเปล่าประโยชน์”
“แผ่นดินใหญ่ ไม่ได้พัฒนากองทัพเรือเพื่อข่มไต้หวัน แต่มันจะเป็นประโยชน์กับไต้หวันด้วยซ้ำไปหากมีการรวมประเทศ ที่สำคัญ นายหม่าควรเอาเงินไปช่วยคนรากหญ้าและเพิ่มค่าแรงประชาชนจะดีกว่า พรรคก๊กมินตั๋งของเขาจะได้ไม่ต้องล้มไม่เป็นท่าในการเลือกตั้งท้องถิ่น”
