เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - ศาลจีนสั่งปรับบริษัทแกล็กโซสมิทไคล์น ( จีเอสเค) ด้วยเงินจำนวนสูงสุดเท่าที่ศาลแดนมังกรเคยตัดสินลงโทษมา โทษฐานติดสินบนแพทย์ เพื่อให้ใช้ยาที่บริษัทผลิต
ศาลประชาชนชั้นกลางเมืองฉางซาในมณฑลหูหนันตัดสินว่า บริษัทผู้ผลิตยายักษ์ใหญ่ของอังกฤษรายนี้มีความผิดจริงฐานติดสินบน และสั่งปรับเป็นเงินจำนวน 3,000 ล้านหยวน หรือราว 15,000 ล้านบาท
นอกจากนั้น ยังได้ตัดสินจำคุกนายมาร์ก เรลลี อดีตหัวหน้าจีเอสเคในจีน เป็นเวลา 3 ปี โทษจำคุกให้รอลงอาญาเป็นเวลา 4 ปี และให้เนรเทศออกจากประเทศจีน ส่วนผู้บริหารอีก 4 คน ซึ่งเป็นชาวจีนทั้งหมดให้รอลงอาญา ตั้งแต่ 2-3 ปี โดยจำเลยทั้งหมดยอมรับคำพิพากษา และจะไม่มีการยื่นอุทธรณ์
ด้านสำนักงานใหญ่ของบริษัทแกล็กโซสมิทไคล์นในกรุงลอนดอนแถลงเมื่อวันพฤหัสฯ ( 18 ก.ย.) ว่า บริษัทจะจ่ายค่าปรับด้วยเงินสด และจะลงบัญชีเงินจำนวนนี้ในรายได้ไตรมาสที่ 3 ของบริษัท พร้อมกับพิมพ์เผยแพร่แถลงการขอโทษรัฐบาลและประชาชนจีน โดยนายแอนดรูว์ วิตตี้ กรรมการผู้จัดการ จีเอสเคระบุว่า เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าผิดหวังอย่างยิ่งสำหรับจีเอสเค และเราทุกคนได้เรียนรู้จากบทเรียนนี้
อย่างไรก็ตาม จีเอสเคกล่าวว่า จะยังคงลงทุน และสนับสนุนการวิจัยคิดค้ายาใหม่ ๆ ในจีนต่อไป รวมทั้งจะผลิตยาในราคา ที่ยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนในชนบทของจีนสามารถซื้อยาของจีเอสเคได้
ด้านนักวิเคราะห์เชื่อว่า คดีนี้ส่งผลแง่บวกต่ออุตสาหกรรมยาของจีน โดยบทลงโทษที่หนักเช่นนี้เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อกอบกู้ภาคการผลิตยาของประเทศ โดยบริษัทผู้ผลิตยาทั้งในและนอกประเทศจะได้เรียนรู้จากบทเรียนนี้
ทางการจีนเริ่มสอบสวนคดีติดสินบนอื้อฉาวเมื่อเดือนก.ค. ปี 2556 โดยตำรวจพบว่า นายเรลลีและพวกได้จัดตั้งหน่วยขาย ซึ่งมีการติดสินบนแพทย์ โรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จนสร้างรายได้ ที่ผิดกฎหมายเป็นจำนวนเงินหลายพันล้านหยวน
นอกจากนั้น ตำรวจยังพบว่า นายจาง กั๊วะเว่ย ซึ่งเป็นรองประธานจีเอสเค นายจ้าว หงเหยียน ผู้ตรวจสอบฝ่ายกฎหมาย และนายเรลลีได้สมรู้ร่วมคิดกันติดสินบนตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในกรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ และเมืองอื่น ๆ เพื่อให้ขัดขวางการสอบสวนในปี 2555 อีกด้วย
สำนักข่าวซินหวายังระบุด้วยว่า คดีติดสินบนนี้แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลจีนมีความมุ่งมั่นในการบริหารปกครองประเทศด้วยหลักกฎหมายและการปฏิบัติกับบริษัทผู้ประกอบการทุกบริษัทอย่างเท่าเทียมกัน
