เอพี - วัดเส้าหลินต้นตำรับมวยกังฟูของจีนประกาศรับสมัครผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารมวลชน หวังสร้างแบรนด์ของวัด ให้ขจรขจายไปไกลยิ่งขึ้น
การประกาศรับสมัครออนไลน์ของทางวัด มีกระแสตอบรับในทันทีจากผู้คน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงชื่อเสียงของวัดเส้นหลิน ซึ่งมีประวัติความเป็นมาเก่าแก่ถึง 1,500 ปีและเป็นที่เคารพยกย่อง
สำนักข่าวของทางการจีนรายงานเมื่อวันศุกร์ ( 5 ก.ย.) ว่า มีผู้ยื่นใบสมัครแล้วถึง 300 คน ซึ่งรวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับผู้บริหารของบริษัท มืออาชีพด้านสื่อสารมวลชน และผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยระดับท็อปเทนของโลก โดย แม้วัดเส้าหลินมีแต่หลวงจีน แต่ตำแหน่งงานที่ประกาศรับทั้งหมด 2 ตำแหน่งนี้ ผู้หญิงก็สามารถสมัครได้เช่นกัน
เจ้าอาวาสสือ หย่งซิ่น ระบุว่า การรับสมัครผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารมวลชนก็เพื่อทำหน้าที่ส่งเสริมเผยแผ่วัฒนธรรม และแนวคิดทางพุทธศาสนา พร้อมกับชี้แจงต่อข้อกล่าวหาของผู้คนที่ว่า ท่านทำให้วัดเส้าหลินกลายเป็นพุทธพาณิชย์ โดยเจ้าอาวาสสือยืนยันว่า ท่านเพียงแต่ปกป้องชื่อเสียงและส่งเสริมคุณค่าของวัดเส้าหลินเท่านั้น
วัดเส้าหลินตั้งอยู่ลึกเข้าบนเทือกเขาในมณฑลเหอหนัน ทางใต้ของกรุงปักกิ่ง วัดเส้าหลินมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่า มีหลวงจีนที่เก่งศิลปะการต่อสู้ และเมื่อหลายร้อยปีก่อนหลวงจีนของวัดเส้าหลินได้สร้างเกียรติประวัติในการช่วยชีวิตฮ่องเต้องค์หนึ่ง กระทั่งมีผู้นำเรื่องราวของวัดมาสร้างเป็นภาพยนตร์ และนำมาเขียนนิยายมากมาย
นับตั้งแต่ท่านสือรับตำแหน่งเจ้าอาวาสเมื่อราว 20 ปีก่อน ท่านได้ขู่ฟ้องร้องบริษัทต่าง ๆ ที่นำชื่อและภาพลักษณ์ของวัดไปใช้ โดยมิได้รับอนุญาต นอกจากนั้น ยังทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการบริหารการผลิตภาพยนตร์ศิลปะการต่อสู้ ที่อาศัยเนื้อหาเรื่องราวของวัดเส้าหลิน
นอกจากนั้น ทางวัดยังเปิดรับนักเรียนต่างชาติฝึกมวยกังฟู รวมทั้งเปิดเว็บไซต์ภาคภาษาจีนและอังกฤษ
เจ้าอาวาสสือนำรายได้ของวัดมาสร้างและพัฒนาปรับปรุงห้องพักของแขก โดยติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวก รวมทั้งโทรทัศน์ ทำให้ถูกตำหนิติเตียนจากผู้ที่เคร่งครัดในขนบธรรมเนียม
รายงานข่าวระบุว่า ตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารมวลชนจะมีหน้าที่สำคัญคือการเบี่ยงเบนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของสื่อมวลชน และข้อกล่าวหาว่า วัดหาผลประโยชน์ โดยคุณสมบัติของผู้สมัคร ซึ่งทางวัดยืดหยุ่นให้อย่างมากนี้แสดงว่า วัดเส้าหลินต้องการคนเก่งมาทำงานนี้จริง ๆ
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวก็เตือนเช่นกันว่า งานในตำแหน่งนี้อาจไม่ค่อยสนุกนัก เพราะแม้วัดเส้าหลินมีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ก็ยังคงเป็นวัด ที่มีการอบรมปฏิบัติ และหลีกหนีวิถีชีวิตของผู้คนในเมือง
“ ถ้าคุณจะทำงานที่วัดเส้าหลิน คุณต้องสามารถอยู่กับความเงียบเหงาได้” หนังสือพิมพ์เซาท์เมโทรโปลิแทนอ้างคำพูดของบุคคลผู้หนึ่ง ซึ่งเคยทำงานอยู่ในวัดเส้าหลินมานานหลายปี