เซาท์ไชน่า มอร์นิงโพสต์ - ศาลสูงไต้หวัน พิพากษาจำคุก 79 ปี 7 เดือน นายจัสติน ลี เพลย์บอยไต้หวัน รับกรรมคดีข่มขืนเหล่าดารา-นางแบบสาววงการบันเทิง นอกจากนั้นยังสั่งชดใช้ค่าเสียหายให้ผู้เสียหายทุกคน รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 27.45 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 29.44 ล้านบาท)
เซาท์ไชน่า มอร์นิงโพสต์ รายงาน (3 ก.ย.) ว่า ศาลสูงไต้หวัน พิพากษาจำคุก 79 ปี 7 เดือน นายจัสติน ลี เพลย์บอยไต้หวัน รับกรรมคดีข่มขืนเหล่าดารา-นางแบบสาววงการบันเทิง นอกจากนั้นยังสั่งชดใช้ค่าเสียหายให้ผู้เสียหายทุกคน รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 27.45 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 29.44 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม แม้ศาลจะตัดสินรวมโทษโทษจำคุกเป็นเวลาเกือบ 80 ปี แต่ระยะเวลาจำคุกจริงของนายจัสตินจะอยู่ที่ 30 ปี อันเป็นโทษจำคุกในความผิดหลายข้อหารวมกัน ที่ไม่ใช่โทษจำคุกตลอดชีวิต
เมื่อปี พ.ศ. 2554 นายจัสติน ลี วัย 28 ปี ทายาทนักธุรกิจใหญ่ระดับเจ้าสัวฯ นายลี หยู ถัง อดีตซีอีโอของบริษัท “หยวนต้า” ยักษ์ใหญ่ด้านการลงทุนหลักทรัพย์ กิจการมั่งคั่งติดอันดับฟอร์บส์ 2000 ตกเป็นจำเลยถูกตั้งข้อหาข่มขืนมากถึง 45 กระทง ซึ่งมีโทษความผิดจำคุกรวมกัน 30 ปี เขาได้หลบหนีอยู่ระยะหนึ่งก่อนที่เขาจะยอมเข้ามอบตัวเมื่อเดือนสิงหาคม 2555 โดยจำนนต่อพยานหลักฐานบันทึกภาพเหตุการณ์ข่มขืนเหยื่อจำนวนมาก รวมทั้งการชี้ตัวยืนยันของบรรดาเหยื่อผู้ถูกข่มขืน ซึ่งมีทั้งเหล่าดาราและนางแบบดังรวม 45 คดี
การสืบสวนส่งคดีสู่ศาลนี้ เริ่มขึ้นเมื่อเดือน ก.ค. 2554 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความจากหญิงสาวสองพี่น้องไต้หวันว่า ถูกนายลีวางยาก่อนข่มขืน และบันทึกเหตุการณ์ข่มขืนโดยที่พวกเธอไม่ได้ยินยอม ตำรวจจึงได้ขอหมายศาลเข้าตรวจค้นในอพาร์ตเมนต์ของเขา กระทั่งได้พบคลิปวิดีโอ และภาพถ่ายดิจิตอล กว่า 27 กิกะไบต์ โดยเป็นคลิปวิดีโอจำนวน 93 คลิป และภาพอีก 176 ภาพ และภาพเหล่านี้แสดงให้เห็นชัดว่านายจัสติน ลี ผู้ต้องหากำลังมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงจำนวนมาก
คดีนี้ ศาลชั้นต้นตัดสินพิพากษาเมื่อเดือนตุลาคม 2554 ว่ามีความผิดจริงตามข้อกล่าวหา และลงโทษจำคุกเป็นเวลา 14 ปี กระทั่งเมื่อเดือนกันยายน ปีที่แล้ว (2556) นายจัสติน ยังถูกศาลอุทธรณ์ไต้หวันพิพากษายืน พร้อมเพิ่มโทษจำคุก 22 ปี 4 เดือน
ไชน่าโพสต์ รายงานว่า โทษในคำพากษาชั้นต้น ชั้นอุทธรณ์นั้นเบาไป เนื่องจากนายลีปฏิเสธและพยานหลักฐานยังไม่พอว่าจำเลยกระทำความผิดในทุกข้อกล่าวหา แต่ในชั้นนี้ ศาลพิจารณาและเชื่อว่านายจัสตินมีความผิดจริงจึงได้เพิ่มโทษฯ
ด้านนายจัสติน ลี และครอบครัวกล่าวว่า โทษที่ได้รับนั้นสาหัสเกินไป และจะได้ยื่นขอพิจารณาลดหย่อนโทษในชั้นต่อไป
นายลีโอ เถา กล่าวกับเอเอฟพีว่า จัสติน ลี ปฏิเสธในความผิดฐานมอมยาและข่มขืน ซึ่งเราก็เสียใจที่ศาลไม่รับฟังและพิจารณาหลักฐานในส่วนของเรา ซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์ต่อจำเลย ซึ่งโทษทัณฑ์ที่เขาได้รับนั้นมันหนักเกินกว่าที่จะคาดคิดถึง
ทั้งนี้ อาชญากรรมของลูกนักธุรกิจดังรายนี้ ก่อให้เกิดกระแสต่อต้าน และติดตามการไต่สวน ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลได้ปิดไม่ให้สาธารณชนรับรู้ จนประชาชนและสื่อไต้หวันแสดงปฏิกิริยาไม่พอใจ หวั่นผู้เสียหายไม่ได้รับความยุติธรรม ด้วยผู้ต้องหาเป็นลูกผู้มีอิทธิพล และอาจโน้มน้าวทำลายหลักฐานให้ศาลเชื่อตามคำกล่าวอ้างจากผู้ต้องหาว่าผู้หญิงทุกคนที่เขามีเพศสัมพันธ์ต่างสมยอมให้เขาบันทึกภาพ ปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าเขาวางยาข่มขืน และบันทึกภาพเหตุการณ์ข่มขืนเหยื่อเหล่านั้น
(ภาพบางส่วนของจัสติน ลี จากหลักฐานที่เผยออกมาโดยสื่อต่างๆ ทั้งสื่อหลัก และสื่อออนไลน์)