เอเจนซี - สืบเนื่องจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 6.5 ที่อำเภอหลู่เตี้ยน เมืองเจาทง มณฑลอวิ๋นหนันหรือยูนนาน ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ในช่วงเย็นวันอาทิตย์ (3 ส.ค.) ที่ผ่านมา ซึ่งพบเหยื่อผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 400 ราย บาดเจ็บ 1,801 คน สูญหาย 3 คน และอาคารบ้านเรือนของประชาชนพังทลายและเสียหายรวมกันมากกว่า 40,000 หลัง
สำนักข่าวซินหวาของทางการจีน รายงาน (5 ส.ค.) ว่า ทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเร่งทำงานแข่งกับเวลา เพื่ออพยพชาวบ้านกว่า 800 คน ที่พักอยู่ใกล้กับธารน้ำขนาดใหญ่เท่าทะเลสาบซึ่งก่อตัวขึ้นจากกองดินถล่มในเหตุแผ่นดินไหว และมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นหนึ่งเมตรต่อชั่วโมงจนกลัวว่าจะเป็นอันตรายต่อประชาชน และส่งผลกระทบต่อโรงไฟฟ้า 7 แห่ง ที่ตั้งอยู่ในแนวกระแสน้ำ
อย่างไรก็ดี ปฏิบัติการอพยพชาวเมืองและการค้นหาผู้รอดชีวิตที่อาจติดอยู่ใต้ซากบ้านเรือนหลายพันหลังที่พังถล่มลงมาในอำเภอหลู่เตี้ยน ก็ดำเนินไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีฝนตกหนักและดินถล่มอยู่เป็นระยะ ซึ่งการพยากรณ์อากาศระบุว่าจะเกิดฝนตกต่อเนื่องสามวัน ส่วนผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาก็เตือนว่าอาจเกิดอาฟเตอร์ช็อคที่มีความรุนแรงมากกว่าระดับ 6.0 ได้อีกด้วย
ขณะที่ถนนสายหลักสู่อำเภอหลู่เตี้ยนก็เนืองแน่นด้วยรถแทรกเตอร์ รถขุดเจาะ ยานพาหนะของทหารและพลเรือนที่ขนเสบียงอาหารและน้ำเข้าไปแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย โดยซินหวาระบุว่า บรรดาผู้ประสบภัยต่างตกอยู่ในสภาพอ่อนเพลีย เสื้อผ้าขาดวิ่น นั่งอยู่ริมถนนที่เต็มไปด้วยเนินดินโคลน เฝ้ารอรับอาหารและการรักษาพยาบาลอยู่ท่ามกลางสายฝนโปรย
ด้านทีมแพทย์และพยาบาลกล่าวว่า เวลานี้กำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์และยารักษาโรค รวมถึงไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่บาดเจ็บสาหัสและติดค้างอยู่ในพื้นที่ด้านในได้
ทั้งนี้ เหตุธรณีพิโรธครั้งรุนแรงสุดในรอบ 14 ปี ของมณฑลยูนนาน เกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงปักกิ่ง) ในพิกัดไกลจากนครคุนหมิง เมืองเอกของยูนนาน ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 370 กม. โดยสำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐฯ (USGS) เผยว่าจุดศูนย์กลางของการสั่นสะเทือนอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 10 กม. ทำให้เกิดแผ่นดินไหวระดับ 6.1 แต่หน่วยติดตามการเกิดแผ่นดินไหวของจีนระบุระดับความรุนแรงที่ 6.5
สถานีโทรทัศน์กลางแห่งชาติของจีน หรือซีซีทีวี (CCTV) รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดได้พุ่งขึ้นไปที่ 407 รายแล้ว โดยยังมีผู้สูญหาย 3 ราย และบาดเจ็บ 1,801 คน รวมทั้งอพยพประชาชนราว 230,000 คน ออกไปยังพื้นที่ปลอดภัย
หม่า เย่าฉี อาสาสมัครสาวท้องถิ่นวัย 18 ปี พร้อมกับคนอื่นๆ อีก 20 คน ที่ร่วมปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัย กล่าวว่า เหล่าอาคารบ้านเรือนอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง ตั้งแต่ถนนตัวเมืองเจาทงไล่ไปจนถึงหมู่บ้านหลงโถวซาน ซึ่งเป็นบริเวณที่ได้รับผลกระทบหนักสุด ต่างพังพินาศแทบไม่เหลือซากเดิม ขณะที่ส่วนที่เหลือก็เสียหายเช่นกัน
“ฉันเห็นศพคนตายถูกห่อหุ้มด้วยผ้าปูเตียงก่อนแบกหามออกไป บางศพก็เป็นห่อผ้าเล็ก ซึ่งแน่นอนว่ายังเป็นแค่เด็กเล็กๆ ด้วยซ้ำ”
หวง หมิน ครูอาสาสมัครอีกคนในหมู่บ้านหลงจิง กล่าวว่า ชาวบ้านจำต้องนั่งตากฝนอยู่กลางแจ้ง เพราะบ้านของพวกเขาอาจพังถล่มเป็นอันตรายเกินจะพักพิงได้อีก โดยเสริมว่า “เราต้องการอาหาร น้ำดื่ม เต็นท์ และไฟฟ้าอย่างมาก”
เป่ยจิง นิวส์ สื่อจีน เผยว่า ชาวหมู่บ้านกวงหมิงมากกว่า 200 คน ต้องประทังชีวิตด้วยมะเขือเทศกระสอบหนึ่งที่ขุดเจอใต้ซากปรักหักพัง
“การคมนาคมขนส่งถูกตัดขาดอย่างสิ้นเชิง ... ไม่มีอาหาร ชาวบ้านได้กินแค่มะเขือเทศคนละลูกเท่านั้น” หลี่ สือเซียน ผู้ใหญ่บ้านกวงหมิงกล่าว
ซินหวาเสริมว่า สภาพบ้านเรือนจำนวนมากกว่า 42,000 หลัง ในหลู่เตี้ยน ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ราว 429,000 คน ล้วนเก่าทรุดโทรมและสร้างจากก้อนอิฐธรรมดา ทำให้ง่ายต่อการพังทลาย ขณะที่กระแสไฟฟ้า ระบบสื่อสาร การขนส่ง ก็ถูกตัดขาดทั้งหมด
อย่างไรก็ดี กระทรวงการคลังของจีนได้อนุมัติงบประมาณฉุกเฉินจำนวน 600 ล้านหยวน (ราว 3,000 ล้านบาท) สำหรับการช่วยเหลือและบรรเทาภัยพิบัติครั้งนี้ ขณะที่กระทรวงกลาโหมและทางการยูนนานได้ใช้ “โดรน” หรืออากาศยานไร้คนขับ บินบันทึกภาพมุมสูงของพื้นที่ประสบภัย 30 ตร.กม. เพื่อช่วยทำภารกิจกู้ชีพอีกด้วย
นอกจากนั้นยังจัดส่งกำลังทหารมากกว่า 2,500 นาย พร้อมเต็นท์ ผ้าห่ม ถุงนอน เสื้อผ้า ของใช้จำเป็น และห้องสุขาเคลื่อนที่ 50 ห้อง เข้าไปยังพื้นที่ประสบภัยแล้ว
ขณะเดียวกันในบ่ายวานนี้ นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ได้เดินเท้ากลางดินโคลนกว่า 5 กม. เข้าถึงศูนย์กลางแผ่นดินไหวซึ่งเป็นแหล่งเกษตรกรรมขนาดใหญ่ด้วยการปลูกพืชไร่และทำเหมือง กำกับดูแลให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอีกด้วย
คำบอกเล่าจากผู้รอดชีวิตเหตุธรณียูนนานพิโรธโกรธา
สื่อท้องถิ่นเปิดเผยเรื่องราวของสามีภรรยาคู่หนึ่งในหมู่บ้านหลงโถวซาน ที่ปกป้องชีวิตลูกๆ ทั้งสี่คนที่ฝังอยู่ใต้ซากบ้านด้วยจอบพรวน โดยหลัว ฟาหมิง และภรรยาเล่าว่า ทั้งสองรู้สึกถึงแรงสั่นไหวขณะกำลังเก็บเกี่ยวพริกไทยเสฉวนอยู่ในสวน ไม่กี่วินาทีบ้านทั้งหลังก็พังทลายโดยที่เด็กๆ อยู่ข้างใน
“ตอนนั้นมันสั่นสะเทือนแรงมากๆ บ้านของผมก็สร้างมาจากไม้และอิฐธรรมดา” หลัวกล่าว “เราอยู่บ้านหลังนี้มาเกือบ 20 ปี และมันก็พังลงในชั่วพริบตา”
หลัวและภรรยารีบวิ่งมาที่บ้านและใช้เครื่องมือที่มีขุดหาลูกๆ โดยมีเพื่อนบ้านมาช่วยอีกแรง ซึ่งลูกคนหนึ่งบาดเจ็บสาหัสและอยู่ในอาการโคม่า ส่วนลูกๆ อีกสามคนกระดูกหัก
ขณะที่รายงานข่าวอีกชิ้นจากซินหวาระบุว่า ชายที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันก็ได้ช่วยชีวิตเพื่อนร่วมชาติสองรายออกจากซากบ้านเรือนด้วยมือเปล่าอีกด้วย