ASTVผู้จัดการออนไลน์--อีกแล้ว...! เครื่องบินสายการบินทรานเอเชีย บรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือ 58 ชีวิต เกิดอุบัติเหตุตกในราวเวลา 19.00 นของวันพุธ(23 ก.ค.) ขณะกำลังพยายามลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินหม่ากงบนเกาะเผิงหูของไต้หวัน คร่าชีวิต 48 คน บาดเจ็บ 10 คน
“พวกคุณไม่คิดเลยหรือไงว่าที่เกาะเผิงหูยังอยู่ใต้อิทธิพลของไต้ฝุ่นแมตโม ทำไมถึงอนุญาตให้เครื่องบินออกเดินทาง?” ญาติคนหนึ่งของผู้เสียชีวิตตระโกนลั่นสนามบินซงชานในไทเป
คณะบริหารการบินพลเรือน(Civil Aeronautics Administration หรือ CAA) ตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์เรื่องปล่อยเที่ยวบิน GE222 ทรานส์เอเชีย ในขณะที่สภาพอากาศอึมครึ้ม ผลการไต่สวนเบื้องต้นการลงจอดฉุกเฉินล้มเหลวเนื่องจากทัศนะวิสัยย่ำแย่
แต่ CAA ปัดลูกไปว่านักบินเป็นผู้ตัดสินใจสุดท้ายว่าจะทำอย่างไรในสภาพอากาศเลวร้าย
“นักบินสามารถตัดสินใจจะบินต่อไปหรือไม่” หลี่ เหวินลี่ รองผู้จัดการ CAA ว่า
ตามตารางบิน เที่ยวบิน GE222 ของสายการบินทรานส์เอเชีย จะออกจากสนามบินเมืองเกาสงทางใต้ของเกาะไต้หวัน ไปยังสนามบินหม่ากงในเวลา 16.35 น. แต่ด้วยสภาพอากาศพายุฝนฟ้าคะนอง ทำให้เที่ยวบินเลื่อนเวลาขึ้นบิน เป็น 17.45 น. เครื่องบินเหินฟ้าไป 1 ชั่วโมง 20 นาที ก็พยายามลงจอดฉุกเฉิน แต่ไม่สำเร็จ กลับพุ่งไปชนหมู่บ้านซีซีบนเกาะเผิงหู ห่างจากสนามบินราว 1 กิโลเมตร ผู้โดยสารรวมลูกเรือบนเครื่องทั้งสิ้น 48 คน ได้แก่ ผู้โดยสาร 54 คน เด็ก 4 คน และลูกเรือ 4 คน สำหรับผู้เสียชีวิต 48 คน เป็นชาวฝรั่งเศส 2 คน ชาวฮ่องกง 1 คน นอกนั้นเป็นชาวไต้หวัน
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ค้นพบกล่องดำ 2 กล่องแล้ว แต่ด้วยแรงชนที่แรงมาก เครื่องบินแหลกไม่มีชิ้นดี อุปกรณ์ต่างๆเสียหายมาก ต้องใช้เวลาในการกอบกู้
ด้านจีน เสิ่น (Jean Shen) ผู้จัดการทั่วไปของ CAA กล่าวว่าแม้อากาศพายุฝนตกฟ้าคะนอง เจ้าหน้าที่ก็ไฟเขียวให้เครื่องบินขึ้นบินในช่วงที่ท้องฟ้าและทัศนะวิสัยชัดเจนขึ้น สนามบินหม่ากงได้รับสัญญาณลงจอดตอน 19.06 น. แต่สัญญาณกลับหายไปจากเรดาร์ ศูนย์ควบคุมการบินไม่สามารถติดต่อกับเครื่องบินได้ในระหว่างนั้นซึ่งบินอยู่เหนือพื้นดินราว 300 ฟุต เสิ่นยังบอกว่าก่อนหน้ามีเที่ยวบิน 2 เที่ยวบินได้ลงจอดที่สนามบินหม่ากงอย่างปลอดภัย
เจ้าหน้าที่การบินพลเรือน CAA ยังยันอีกว่า ศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศระบุว่าสภาพอากาศในตอนเกิดอุบัติเหตุ ไม่ได้เลวร้ายเกินมาตรฐานสากลในการลงจอด ทัศนะการมองเห็น 1,600 เมตร เมฆปกคลุมต่ำระดับ 600 เมตร
อย่างไรก็ตามในวันเกิดเหตุ(23 ก.ค.) ไต้หวันตกอยู่ในสภาพอากาศอึมครึ้มจากไต้ฝุ่น “แมตโม” ที่พุ่งเข้ามาจู่โจมด้านตะวันออกของเกาะ ทำให้เกิดพายุและฝนตกหนัก กรมอุตุฯไต้หวันพยากรณ์ว่า สภาพอากาศบนเกาะเผิงหูช่วงกลางคืนระหว่าง 19.00-20.00 น. มีฝนตกฟ้าคะนอง ความแรงพายุถึงระดับ 8 ซึ่งจัดว่าเป็นระดับที่แรงที่สุด นอกจากนี้ ทั้งลมตะวันตกเฉียงใต้และไต้ฝุ่น “แมตโม” ก็พัดมาผนึกกำลังกัน ทำให้เกิดฝนตกหนักรอบๆเกาะเผิงหู
“ตอนที่เครื่องบินชนนั้น สภาพอากาศมีฝนตกฟ้อคะนอง” สี เหวินกวง โฆษกสำนักงานดับเพลิงของเทศบาลเมืองเผิงหู กล่าว
จากเว็บไซต์ของทรานเอเชีย แอร์เวย์ ระบุสายการบินได้ยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมดในวันพุธ(23 ก.ค.) เนื่องจากสภาอากาศเลวร้าย
นายหลิว เจ้าของเกสต์เฮาส์บนเกาะเผิงหู เล่าว่า “มีฝนตกหนักมากและพายุพัดกรรโชกทั้งฟ้าแลบฟ้าร้องตลอดช่วงบ่าย”
ชาวบ้านที่หมู่บ้านซีซี บอกว่าได้ยินเสียงระเบิดดังมาก พร้อมกับเห็นไฟลุกโชกสูงราวตึกสามชั้นจากตัวเครื่องบิน
“อุบัติเหตุเกิดขึ้นห่างจากหน้าบ้านผม 150 เมตร เครื่องบินชนบ้านด้วยแต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ”
ด้านสำนักข่าวกลางแห่งไต้หวัน (CNA) เจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้นักบิน รอไปจนถึงเวลา 19.06 น. ก่อนที่จะได้รับไฟเขียวให้พยายามนำเครื่องลงจอดครั้งแรก ขณะนี้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าทำไมเกิดการล่าช้าหรือเกิดความล้มเหลวขึ้นในการลงจอด
จากแถลงการณ์ของสายการบินทรานเอเชียซึ่งมีฐานในไต้หวัน ระบุว่า เที่ยวบิน GE222 เป็นเครื่องบิน ATR-72 แบบสองเครื่องยนต์ อายุใช้งาน 13 ปี นักบินคือ นาย หลี่ อี้เหลียง ผู้มีประสบการณ์การบิน 22 ปี ชั่วโมงบิน 23,000 ชั่วโมง ส่วนผู้ช่วยนักบิน นาย เจียง กวนซิง มีประสบการณ์บิน 2 ปี ครึ่ง ชั่วโมงบินต่ำกว่า 2,400 ชั่วโมง
ประธานาธิบดี ไต้หวัน นาย หม่า อิงจิ่ว แถลงความเสียใจต่ออุบัติเหตุเครื่องบินตก “เป็นวันที่เศร้าสดที่สุดในประวัติศาสตร์การบินไต้หวัน” พร้อมสั่งการความช่วยเหลือแก่ครอบครัวของเหยื่อฯ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบสาเหตุฯอย่างถี่ถ้วน
ขณะที่สายการบินก็แถลงขออภัยโทษต่อครอบครัวของเหยื่อที่เสียชีวิต พร้อมจะจ่ายเสียชดเชยให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต 1 ล้านเหรียญไต้หวัน และเสนอเงินช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ 200,000 เหรียญไต้หวัน
สภาความปลอดภัยด้านการบิน (Aviation Safety Council) ได้เรียกประชุมฉุกเฉินในวันพฤหัสฯ(24 ก.ค.) เพื่อค้นหาสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่สภาฯบอกแก่สื่อว่า ตอนนี้ยังไม่อาจสรุปว่าเป็นเพราะสภาพอากาศหรือความผิดพลาดของคน
หากมิใช่อุบัติเหตุอันสุดวิสัยโดยแท้แล้ว มันก็เป็นความผิดพลาดที่ต้องต้องค้นหากัน เพื่อเป็นบทเรียนเตือนใจ และลดความเสี่ยงอุบัติเหตุมากที่สุด หาไม่แล้วผู้คนก็ยังต้องสังเวยชีวิตในอุบัติเหตุเครื่องบิน ที่ดูกลายเป็นข่าวซ้ำซากไปแล้ว
ย้อนมองดูอุบัติเหตุเครื่องบินตกในไทเปด้วยเหตุอันน่าพิศวง
ในปี 2541 เครื่องบินเจ็ทของไชน่า แอร์ไลน์ บินมาจากบาหลีล้มเหลวในการลงจอดครั้งแรกที่ไทเป เนื่องจากลมแรงและหมอกหนา เครื่องบินพุ่งเข้าชนบ้านเรือน ผู้โดยสารและลูกเรือตายยกลำ 196 คน รวมคนที่อยู่บนพื้นดินอีก 7 คน
ในปี 2543 เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ ตกระหว่างที่พยายามขึ้นบินจากทางวิ่งที่ผิดฝาผิดตัวที่สนามบินนานาชาติเจียงไคเช็คในกรุงไทเป โดยขณะนั้นไต้ฝุ่นกำลังบึ่งเข้ามา ผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่องรวม 179 คน เสียชีวิตไป 87 คน
2545 ผู้คนทั้งหมด 225 ชีวิต บนเครื่องบินไชน่า แอร์ไลน์ สังเวยชีวิตในอุบัติเหตุเครื่องบิน ที่กำลังบินจากไทเปไปยังฮ่องกงโดยขณะนั้นสภาพอากาศดี ซากเครื่องบินกระเด็นหล่นอยู่บริเวณ 45 กิโลเมตรห่างจากบนเกาะเผิงหู เจ้าหน้าที่ดำเนินการไต่สวนบอกว่าเครื่องบินระเบิดกลางอากาศ