เอเจนซีส์ - สายการบิน “ทรานส์เอเชีย” ของไต้หวัน ระบุพายุฝนส่งท้ายไต้ฝุ่น “แมตโม” น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินโดยสารของตนตกเมื่อคืนวันพุธ (23 ก.ค.) ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 48 คน ขณะที่ทางการไทเป ยืนยันว่า สภาพอากาศและทัศนวิสัยเอื้ออำนวยต่อการบินและการลงจอด พร้อมกับเผยคณะกรรมการความปลอดภัยการบิน เริ่มทำการสอบสวนแล้ว โดยจะใช้เวลาสรุปอย่างเป็นทางการ 1 ปี
เครื่องบินโดยสาร ATR-72 ขนาด 70 ที่นั่ง เที่ยวบิน GE222 ของทรานส์เอเชีย แอร์เวย์ส ของไต้หวัน ลำนี้ บรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือรวม 58 คน จากสนามบินเมืองเกาสง ทางด้านใต้ของตัวเกาะไต้หวัน มุ่งสู่จุดหมายปลายทางที่เกาะผิงหู ที่อยู่ทางด้านตะวันตกของเกาะไต้หวัน โดยรายงานข่าวระบุว่า ความพยายามที่จะลงจอดครั้งแรกท่ามกลางฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนัก ต้องประสบความล้มเหลว และแล้วในขณะพยายามร่อนลงจอดครั้งที่ 2 เครื่องก็กลับพุ่งเข้าใส่บ้านสองหลังใกล้สนามบินหม่ากง และเกิดการระเบิด
ในจำนวนผู้เสียชีวิต มี 46 คน เป็นชาวไต้หวัน อีก 2 คนเป็นนักศึกษาแพทย์จากฝรั่งเศส ที่เป็นแพทย์ฝึกหัดในไต้หวัน สำหรับผู้รอดชีวิต 10 คน ที่ได้รับบาดเจ็บ บางส่วนกลับบ้านได้แล้ว ที่เหลือยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล นอกจากนั้นยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บบนภาคพื้นดินจำนวน 5 คน
อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากพายุแมตโมพัดผ่านไต้หวัน และมุ่งหน้าสู่จีน ส่งผลให้เที่ยวบินราว 200 เที่ยวในสนามบินหลายแห่งของไต้หวัน ต้องระงับการให้บริการในช่วงเช้าวันนั้น (วันพุธที่ 23 ก.ค.) อันเนื่องมาจากฝนตกหนักและลมแรง
นอกจากนี้ สำนักงานพยากรณ์อากาศกลางของไต้หวัน ยังเตือนว่า อาจเกิดฝนตกหนักในช่วงค่ำวันพุธ แม้ไต้ฝุ่นแมตโมเคลื่อนไปทางตะวันตกมุ่งหน้าสู่แผ่นดินใหญ่จีนแล้วก็ตาม
ฟีบี ลู ตัวแทนของทรานส์เอเชีย เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี ว่า จากข้อมูลที่มีอยู่ล่าสุด อาจพูดได้ว่าสาเหตุของเครื่องบินตกคือ สภาพอากาศอันมีอิทธิพลมาจากไต้ฝุ่นแมตโม และว่า สายการบินกำลังรอให้ทางการไต้หวันสอบสวนเรื่องนี้โดยละเอียด
ทางด้าน ลี วันลี โฆษกสำนักงานการบินพลเรือนไต้หวัน ตั้งข้อสังเกตเช่นเดียวกันว่า สภาพอากาศเลวร้ายขณะเครื่องบินตก กระนั้นการตัดสินใจว่าจะลงจอดหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับนักบิน และสาเหตุที่แท้จริงยังอยู่ระหว่างการสอบสวน
สำนักข่าวเซนทรัล นิวส์ เอเจนซีส์ (CNA) รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของ ซู เหวินกวง รองหัวหน้าแผนกดับเพลิงท้องถิ่นว่า ขณะเกิดเหตุ ดูเหมือนฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ทัศนวิสัยเลวร้ายลง และบีบให้นักบินต้องเชิดหัวเครื่องบินขึ้นก่อนพยายามลงจอดครั้งที่ 2
ครอบครัวผู้ประสบเหตุต่างโศกเศร้าและเดือดดาล หลายคนวิจารณ์ว่า สายการบินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ควรปล่อยให้เครื่องขึ้นบินในสภาพอากาศเลวร้าย
ทว่า ทางการไทเปพยายามปกป้องการตัดสินใจในการอนุญาตให้สายการบินให้บริการตามปกติ โดยรัฐมนตรีคมนาคมไต้หวัน เย่ว์ กวงจื่อห์ แถลงว่า ตามความเข้าใจของตนนั้น ข้อมูลอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า สภาพอากาศยังคงอยู่ในระดับที่ปลอดภัยตามข้อกำหนดความปลอดภัยในการบิน
ด้าน จีน เฉิน ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนไต้หวัน ระบุว่า เครื่องบินที่ประสบอุบัติเหตุครั้งนี้ขาดการติดต่อกับหอบังคับการบิน หลังจากแจ้งว่าจะพยายามลงจอดครั้งที่ 2 เครื่องบินลำนี้มีอายุการใช้งาน 14 ปี
สำนักงานการบินพลเรือน เสริมว่า ทัศนวิสัยของเครื่องบินขณะพยายามลงจอดอยู่ที่ 1,600 เมตร ซึ่งสอดคล้องตามมาตรฐานความปลอดภัย และเที่ยวบิน 2 เที่ยวที่เดินทางมาถึงก่อน GE222 ไม่นานก็ลงจอดอย่างปลอดภัยในสนามบินหม่ากง
เฉินยังบอกอีกว่า ระหว่างเวลา 14.00 - 19.00 น. วันพุธ มีเที่ยวบิน 9 เที่ยวให้บริการในเส้นทางบินเดียวกับ GE222 แต่มีเพียง GE222 เท่านั้นที่ประสบอุบัติเหตุ
อย่างไรก็ตาม เฉินเสริมว่า คณะกรรมการความปลอดภัยการบิน ได้เปิดการสอบสวนสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้แล้ว โดยคาดว่า ต้องใช้เวลาสรุปรายงานอย่างเป็นทางการ 1 ปี และว่า เจ้าหน้าที่ค้นพบกล่องดำ 2 กล่องของเที่ยวบินนี้แล้ว และเริ่มทำการตรวจสอบตั้งแต่วันพฤหัสบดี
สำหรับประธานาธิบดี หม่า อิงจิ่ว ของไต้หวัน แถลงว่า ชาวไต้หวันทุกคนโศกเศร้ากับเหตุการณ์ครั้งนี้ และถือเป็นวันที่วิปโยคที่สุดในประวัติศาสตร์การบินของไต้หวัน
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ที่อยู่ระหว่างการเยือนอเมริกาใต้ ส่งสาส์นแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งผ่านทางสำนักงานกิจการไต้หวันของคณะรัฐมนตรีจีน
ทางด้านสายการบินต้นสังกัด เปิดเผยว่า หลี อี้เหลียง วัย 60 ปี กัปตันของเครื่องบินที่ประสบเหตุ มีประสบการณ์การบิน 22 ปี และชั่วโมงบินเกือบ 23,000 ชั่วโมง ส่วนผู้ช่วยนักบิน เจียง กวนซิน วัย 39 ปี มีประสบการณ์ 2 ปีครึ่ง
ทรานส์เอเชียแถลงว่าจะจ่ายค่าทำขวัญให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 1 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน และ 200,000 ดอลลาร์ไต้หวันสำหรับผู้บาดเจ็บ
ทั้งนี้ ทรานส์เอเชีย ถือเป็นสายการบินเอกชนแห่งแรกของไต้หวัน และให้บริการเส้นทางบินสั้นๆ ภายในประเทศจำนวนมาก แต่ก็ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศสู่จีนแผ่นดินใหญ่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม รวมทั้งเตรียมเปิดตัวสายการบินต้นทุนต่ำแห่งแรกของไต้หวันปลายปีนี้
ไต้หวันนั้นมีมาตรฐานความปลอดภัยการบินย่ำแย่ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เริ่มดีขึ้นหลังจากรัฐบาลเพิ่มมาตรการความปลอดภัยเข้มงวดขึ้น
สำหรับทรานส์เอเชียเคยเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุ 8 ครั้ง นับจากปี 2002 ซึ่งรวมถึงครั้งล่าสุดนี้ และครั้งก่อนหน้าที่ถือว่ารุนแรงคือในปี 2002 เมื่อเครื่องบินขนสินค้าสองลำที่มีนักบินประจำเครื่องสองคนตกกลางทะเล สาเหตุมาจากการที่นักบินไม่จัดการกับน้ำแข็งที่เกาะพื้นผิวปีกอย่างถูกต้องเหมาะสม