เอเจนซี- นายสี จิ้นผิง เข้าพบนายฟิเดล คาสโตร อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตประธานาธิบดีของคิวบา ระหว่างภารกิจการเยือนทวีปอเมริกาใต้และประเทศแถบแคริเบียน
หลังจากการเยือนบราซิล อาร์เจนตินา เวเนซุเอลา คิวบา และเข้าพบกับประธานาธิบดี ราอูล คาสโตร วัย 83 ปี ที่ทำเนียบแห่งการปฏิวัติ ในกรุงฮาวานา เมืองหลวงของประเทศคิวบา เมื่อสองวันก่อน (22 ก.ค.) ตามกำหนดการเยือนเพื่อสานสัมพันธ์การค้าและเศรษฐกิจกับประเทศในทวีปอเมริกาใต้และแถบแคริบเบียน ผู้นำแดนมังกรก็ได้เข้าพบนายฟิเดล คาสโตร อดีตผู้นำแห่งการปฏิวัติคิวบา
ฟิเดล คาสโตรกุมบังเหียนประเทศนี้มานานกว่า 5 ทศวรรษ ก่อนจะวางมือยกตำแหน่งให้น้องชายของตนเองเมื่อปี 2549 เนื่องจากประสบปัญหาสุขภาพ ต่อมาในปี 2551 นายราอูล คาสโตร น้องชายของเขา ก็เปิดประเทศด้านเศรษฐกิจ ปฏิวัติระบบเกษตรกรรม แต่ทว่ายังคงความประเทศเดียวในทวีปอเมริกาที่มีระบอบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ เอาไว้
“คุณเป็นผู้ทำให้เกิดการปฏิวัติและสร้างคิวบาขึ้นมา และยังเป็นผู้สร้างสายสัมพันธ์ระหว่างจีนกับคิวบาอีกด้วย” ซินหวา รายงานคำกล่าวของนายสี จิ้นผิง ที่มีต่อนายฟิเดล คาสโตร
นอกจากนี้ผู้นำจีนยังรำลึกถึงการพบปะกับนายฟิเดลเมื่อปี 2554 และกล่าวว่า เขามีความสุขที่ได้เห็นว่า ตอนนี้อดีตผู้นำคิวบา วัย 87 ปี มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
“ประชาชนชาวคิวบาเลื่อมใสในตัวคุณและคุณก็เป็นที่เคารพของประชาชนจีนเช่นกัน พวกเราจะไม่มีวันลืมสิ่งสำคัญที่คุณมอบไว้ให้ในความสัมพันธ์ทวิภาคี” ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวกับนายฟิเดล คาสโตร
ด้านกรันม่า (Granma) สื่อทางการของคิวบา เผย การเยือนอดีตผู้นำคิวบาของนายสี จิ้นผิง เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีรัสเซีย นายวราดิเมียร์ ปูติน เดินทางเยือนคิวบาและเข้าพบนายฟิเดล คาสโตรไปเมื่อต้นสัปดาห์ก่อน โดยเขา (ฟิเดล คาสโตร) ระบุว่า การเยือนของผู้นำทั้งสองถือเป็นครั้งที่ประวัติศาสตร์ต้องจดจำ
“จีนกับรัสเซียเป็นผู้นำโลกใหม่ที่จะทำให้มวลมนุษยชาติอยู่รอด” กรันม่ารายงานอ้างคำกล่าวของฟิเดล คาสโตร
อนึ่ง การเยือนอเมริกาใต้ของผู้นำจีนครั้งนี้ เป็นไปเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับกลุ่มประเทศในภูมิภาคดังกล่าว และเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่ม BRICS ซึ่งเป็นการรวมตัวของกลุ่มประเทศที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วอันประกอบด้วย บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ เพื่อคานอำนาจในกิจการระหว่างประเทศกับสหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศฝั่งยุโรป
ในการประชุมครั้งที่ 6 ที่ผ่านมา (14-16 ก.ค. 2557) กลุ่ม BRICS ได้ตกลงร่วมกันจัดตั้ง New Development Bank (NDB) และ the Contingency Reserves Agreement (CRA) เพื่อเป็นทุนสำรองช่วยเหลือประเทศสมาชิกซึ่งกำลังพัฒนา โดยเฉพาะด้านสาธารณูปโภค และเพื่อเป็นทางเลือกแทนสถาบันการเงินอื่น อาทิ ธนาคารโลกและไอเอ็มเอฟ ที่กลุ่มประเทศ BRICS มองว่า ประเทศตะวันตกครอบงำอยู่
ด้วยเหตุนี้ สื่อท้องถิ่นคิวบาจึงขนานนามข้อตกลงของกลุ่ม BRICS ว่าเป็น “สถาปัตยกรรมใหม่เพื่อประชาธิปไตยทางการเงิน” โดยมีจีนเป็นโต้โผใหญ่ ลงขันไปกว่า 41,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราวๆ 13 ล้านล้าน บาท)
ในขณะที่ประธานาธิบดีคิวบาเอง ก็ระบุว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ (การจัดตั้งธนาคารของกลุ่ม BRICS) จะนำไปสู่ “การจัดระเบียบระหว่างประเทศแบบใหม่”
...จีนจะช่วยมวลมนุษยชาติให้อยู่รอด ดังที่ฟิเดล คาสโตรกล่าวไว้หรือไม่ โปรดปูเสื่อติดตามกันต่อไป...
หลังจากการเยือนบราซิล อาร์เจนตินา เวเนซุเอลา คิวบา และเข้าพบกับประธานาธิบดี ราอูล คาสโตร วัย 83 ปี ที่ทำเนียบแห่งการปฏิวัติ ในกรุงฮาวานา เมืองหลวงของประเทศคิวบา เมื่อสองวันก่อน (22 ก.ค.) ตามกำหนดการเยือนเพื่อสานสัมพันธ์การค้าและเศรษฐกิจกับประเทศในทวีปอเมริกาใต้และแถบแคริบเบียน ผู้นำแดนมังกรก็ได้เข้าพบนายฟิเดล คาสโตร อดีตผู้นำแห่งการปฏิวัติคิวบา
ฟิเดล คาสโตรกุมบังเหียนประเทศนี้มานานกว่า 5 ทศวรรษ ก่อนจะวางมือยกตำแหน่งให้น้องชายของตนเองเมื่อปี 2549 เนื่องจากประสบปัญหาสุขภาพ ต่อมาในปี 2551 นายราอูล คาสโตร น้องชายของเขา ก็เปิดประเทศด้านเศรษฐกิจ ปฏิวัติระบบเกษตรกรรม แต่ทว่ายังคงความประเทศเดียวในทวีปอเมริกาที่มีระบอบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ เอาไว้
“คุณเป็นผู้ทำให้เกิดการปฏิวัติและสร้างคิวบาขึ้นมา และยังเป็นผู้สร้างสายสัมพันธ์ระหว่างจีนกับคิวบาอีกด้วย” ซินหวา รายงานคำกล่าวของนายสี จิ้นผิง ที่มีต่อนายฟิเดล คาสโตร
นอกจากนี้ผู้นำจีนยังรำลึกถึงการพบปะกับนายฟิเดลเมื่อปี 2554 และกล่าวว่า เขามีความสุขที่ได้เห็นว่า ตอนนี้อดีตผู้นำคิวบา วัย 87 ปี มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
“ประชาชนชาวคิวบาเลื่อมใสในตัวคุณและคุณก็เป็นที่เคารพของประชาชนจีนเช่นกัน พวกเราจะไม่มีวันลืมสิ่งสำคัญที่คุณมอบไว้ให้ในความสัมพันธ์ทวิภาคี” ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวกับนายฟิเดล คาสโตร
ด้านกรันม่า (Granma) สื่อทางการของคิวบา เผย การเยือนอดีตผู้นำคิวบาของนายสี จิ้นผิง เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีรัสเซีย นายวราดิเมียร์ ปูติน เดินทางเยือนคิวบาและเข้าพบนายฟิเดล คาสโตรไปเมื่อต้นสัปดาห์ก่อน โดยเขา (ฟิเดล คาสโตร) ระบุว่า การเยือนของผู้นำทั้งสองถือเป็นครั้งที่ประวัติศาสตร์ต้องจดจำ
“จีนกับรัสเซียเป็นผู้นำโลกใหม่ที่จะทำให้มวลมนุษยชาติอยู่รอด” กรันม่ารายงานอ้างคำกล่าวของฟิเดล คาสโตร
อนึ่ง การเยือนอเมริกาใต้ของผู้นำจีนครั้งนี้ เป็นไปเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับกลุ่มประเทศในภูมิภาคดังกล่าว และเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่ม BRICS ซึ่งเป็นการรวมตัวของกลุ่มประเทศที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วอันประกอบด้วย บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ เพื่อคานอำนาจในกิจการระหว่างประเทศกับสหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศฝั่งยุโรป
ในการประชุมครั้งที่ 6 ที่ผ่านมา (14-16 ก.ค. 2557) กลุ่ม BRICS ได้ตกลงร่วมกันจัดตั้ง New Development Bank (NDB) และ the Contingency Reserves Agreement (CRA) เพื่อเป็นทุนสำรองช่วยเหลือประเทศสมาชิกซึ่งกำลังพัฒนา โดยเฉพาะด้านสาธารณูปโภค และเพื่อเป็นทางเลือกแทนสถาบันการเงินอื่น อาทิ ธนาคารโลกและไอเอ็มเอฟ ที่กลุ่มประเทศ BRICS มองว่า ประเทศตะวันตกครอบงำอยู่
ด้วยเหตุนี้ สื่อท้องถิ่นคิวบาจึงขนานนามข้อตกลงของกลุ่ม BRICS ว่าเป็น “สถาปัตยกรรมใหม่เพื่อประชาธิปไตยทางการเงิน” โดยมีจีนเป็นโต้โผใหญ่ ลงขันไปกว่า 41,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราวๆ 13 ล้านล้าน บาท)
ในขณะที่ประธานาธิบดีคิวบาเอง ก็ระบุว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ (การจัดตั้งธนาคารของกลุ่ม BRICS) จะนำไปสู่ “การจัดระเบียบระหว่างประเทศแบบใหม่”
...จีนจะช่วยมวลมนุษยชาติให้อยู่รอด ดังที่ฟิเดล คาสโตรกล่าวไว้หรือไม่ โปรดปูเสื่อติดตามกันต่อไป...