สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า วันที่ 11 กรกฎาคม ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เริ่มต้นภารกิจเยือนภูมิภาคแคริบเบียน และทวีปอเมริกาใต้อย่างเป็นทางการเป็นเวลา 6 วัน โดยเริ่มที่คิวบาเป็นประเทศแรก ซึ่งผู้นำรัสเซียเข้าพบปะหารือข้อราชการกับประธานาธิบดีราอูล คาสโตร ผู้นำคิวบา โดยส่วนใหญ่ครอบคลุมนโยบายความร่วมมือด้านอุตสาหรรม สาธารณสุข และพลังงาน คือโครงการขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งเกาะโบกา เด จารูโก ทางตอนเหนือของคิวบา
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีปูติน ยังประกาศยกหนี้ของคิวบาในส่วนที่ค้างชำระตั้งแต่สมัยสหภาพโซเวียต 35,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.15 ล้านล้านบาท ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 90 ของหนี้ทั้งหมด ส่วนที่เหลือจะแปรรูปเป็นเม็ดเงินลงทุนในโครงการช่วยเหลือด้านการศึกษาของมอสโกต่อคิวบาในอนาคต
ขณะเดียวกัน ผู้นำรัสเซียยังมีโอกาสเข้าเยี่ยมอดีตประธานาธิบดีฟิเดล คาสโตร แห่งคิวบา เป็นการส่วนตัวที่บ้านพักด้วย ซึ่งสื่อท้องถิ่นทั้งของคิวบาและรัสเซียระบุว่า ทั้งคู่สนทนากันในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ ที่แน่นแฟ้นมาตั้งแต่ยุคสหภาพโซเวียต
ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นภารกิจเยือนคิวบา ประธานาธิบดีปูติน มีกำหนดเดินทางต่อไปยังอาร์เจนตินา ต่อด้วยบราซิลในวันอาทิตย์ เพื่อเข้าร่วมชมการแข่งขันฟุตบอลโลกนัดชิงชนะเลิศตามคำเชิญของรัฐบาลของประธานาธิบดีดิลมา รูสเซฟฟ์ และร่วมการประชุมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ (บริคส์)
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองการเดินสายเยือนลาตินอเมริกาของปูติน ว่าเป็นการเยาะเย้ยสหรัฐและยุโรปที่คว่ำบาตรรัสเซียกรณียูเครน และเป็นความพยายามผลักดันระเบียบโลกให้มีหลายขั้วอำนาจมากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีปูติน ยังประกาศยกหนี้ของคิวบาในส่วนที่ค้างชำระตั้งแต่สมัยสหภาพโซเวียต 35,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.15 ล้านล้านบาท ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 90 ของหนี้ทั้งหมด ส่วนที่เหลือจะแปรรูปเป็นเม็ดเงินลงทุนในโครงการช่วยเหลือด้านการศึกษาของมอสโกต่อคิวบาในอนาคต
ขณะเดียวกัน ผู้นำรัสเซียยังมีโอกาสเข้าเยี่ยมอดีตประธานาธิบดีฟิเดล คาสโตร แห่งคิวบา เป็นการส่วนตัวที่บ้านพักด้วย ซึ่งสื่อท้องถิ่นทั้งของคิวบาและรัสเซียระบุว่า ทั้งคู่สนทนากันในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ ที่แน่นแฟ้นมาตั้งแต่ยุคสหภาพโซเวียต
ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นภารกิจเยือนคิวบา ประธานาธิบดีปูติน มีกำหนดเดินทางต่อไปยังอาร์เจนตินา ต่อด้วยบราซิลในวันอาทิตย์ เพื่อเข้าร่วมชมการแข่งขันฟุตบอลโลกนัดชิงชนะเลิศตามคำเชิญของรัฐบาลของประธานาธิบดีดิลมา รูสเซฟฟ์ และร่วมการประชุมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ (บริคส์)
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองการเดินสายเยือนลาตินอเมริกาของปูติน ว่าเป็นการเยาะเย้ยสหรัฐและยุโรปที่คว่ำบาตรรัสเซียกรณียูเครน และเป็นความพยายามผลักดันระเบียบโลกให้มีหลายขั้วอำนาจมากขึ้นด้วย