เอเจนซี- ฉาวอีก... เซี่ยงไฮ้สั่งปิดโรงงานซับพลายเนื้อรายใหญ่ เหตุส่งเนื้อหมดอายุให้แมคโดนัลด์ เคเอฟซี เบอร์เกอร์ คิงส์ ปาปา จอห์น พิซซ่า ซับเวย์
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้น หลังดรากอนทีวี ของเซี่ยงไฮ้ เผย เทปบันทึกภาพการผลิตอาหารในโรงงานของบริษัทหูสี่ ฟูด คอมพานี (Husi Food Company) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของโอเอสไอ กรุ๊ป (OSI Group) บริษัทผลิตอาหารแปรรูปขนาดใหญ่ จากอิลลินอย์ ในสหรัฐอเมริกา โดยหูสี่ฯ เป็นซัพพลายเออร์หลักของแม็คโดนัลด์ พิซซ่าฮัท และเคเอฟซี ในจีน
หลังดรากอนทีวี ใช้เวลาลงพื้นที่แอบถ่ายทำเกือบสองเดือน ก็แพร่ภาพอัปยศในวงการอาหาร ซึ่งมีทั้งกระบวนการผลิตเนื้อ คนงานหยิบเนื้อที่หล่นกองกับพื้นใส่กลับลงไปในเครื่องจักร กระบวนการทำนักเก็ทส์ไก่ชื่อดังของแมคโคนัลด์ที่เสียแล้วให้ผ่านการตรวจสอบ นอกจากนี้ ดรากอนทีวียังเผยหนังสือจากฝ่ายการจัดการของบริษัทฯ ที่ระบุให้คนงานขยายวันหมดอายุของเนื้อแช่แข็ง 10 ตัน เพิ่มอีก 10 วัน ทั้งๆที่ มีรายงานว่าเนื้อล็อตนั้นมีสีเขียวและส่งกลิ่นแล้ว จากนั้นก็มีการเปลี่ยนแพ็คเกจ และนำเนื้อล็อตดังกล่าวกลับไปแช่ใหม่
อย่างไรก็ตาม ในรายงานของดรากอนทีวีระบุว่า ลูกค้าไม่รู้เรื่องการผลิตของบริษัทหูสี่ฯ แต่อย่างใด
ทั้งนี้ เมื่อกลุ่มผู้ตรวจสอบจากแมคโดนัลด์เข้าตรวจสอบโรงงานของบริษัทหูสี่ฯ เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา (2557) ก็มีการขนย้ายผลิตภัณฑ์ในถุงฟ้า ซึ่งใช้สำหรับอาหารที่ทิ้งแล้ว ออกไปซ่อน “เราเติมของพวกนั้นลงไปในช่วงที่มีการตรวจสอบไม่ได้” คนงานของหูสี่ฯ ที่ทำภารกิจลับนี้กล่าวกับผู้สื่อข่าวของดรากอนทีวี
“ถ้าพวกเขารู้เข้า เขาคงไม่ให้เราเติมของทิ้งแล้วลงไปแน่ และถ้าเรายังเติมมันลงไป พวกเขาก็จะยกเลิกการสั่งซื้อ”
สุดท้าย ในตอนท้ายของรายงานจากดรากอนทีวี ก็พบว่าคนงานขนถุงฟ้ากลับมาในสายการผลิต หลังจากที่การตรวจสอบเสร็จสิ้น
หลังแพร่ภาพออกไป ทั้งแมคโดนัลด์ และ ยัม แบรนดส์ (Yum Brands) เจ้าของลิขสิทธิ์พิซซ่าฮัท และเคเอฟซี ก็ออกมาระบุว่า พวกเขายุติการสั่งอาหารจากบริษัทหูสี่ฯ แล้ว ทำให้ตอนนี้สาขาในจีน อาจขาดแคลนอาหารบางรายการ ทั้งนี้ แมคโดนัลด์ก็ได้ออกมาขอโทษต่อเหตุดังกล่าว และระบุว่ากำลังตรวจสอบเรื่องนี้อยู่
เช่นเดียวกันกับยัม แบรนด์ ซึ่งระบุว่ากำลังตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด และเผยว่า รายการอาหารของพวกเขาที่ได้รับผลกระทบครั้งนี้ก็คือ ไส้กรอก เบเกอร์ไข่ และเมนูเบเกอร์สไปซีโรสต์ ส่วนแมคโดนัลด์ไม่ได้ระบุรายการอาหารที่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
ด้านซินหวา สื่อทางการของจีน ระบุ เจ้าหน้าที่จากองค์การอาหารและยาเซี่ยงไฮ้เข้าตรวจสอบโรงงานดังกล่าวเมื่อเย็นวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (20 ก.ค.) ทว่าถูกยามของบริษัทฯ กันไว้จนตำรวจต้องเข้ามายืนยันการตรวจสอบ
เจ้าหน้าที่ ระบุว่า ทางการสั่งปิดโรงงานในคืนนั้น และได้ยึดวัตถุดิบที่ต้องสงสัยไว้แล้ว นอกจากนี้ยังสั่งการให้ลูกค้าเก็บผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจากโรงงานหูสี่ฯ ออกจากท้องตลาด องค์การอาหารและยาเซี่ยงไฮ้ประกาศในไมโครบล็อกขององค์กร
อย่างไรก็ตาม หยาง ลี่ฉุน ผู้จัดการทั่วไปสายอาหารแปรรูปของบริษัทโอเอสไอ สาขาจีน ย้ำกับซินหวาว่า ทางบริษัทมีระบบควบคุมคุณภาพที่เข้มงวดมาก
อนึ่ง หูสี่ฯ เป็นบริษัทผลิตอาหารแปรรูปขนาดใหญ่ของเซี่ยงไฮ้ มีกำลังผลิตถึง 25,000 ตันต่อปี และเมื่อต้นปีที่ผ่านก็เพิ่งได้รับรางวัลความปลอดภัยด้านอาหารจากเขตเจียติง ของเซี่ยงไฮ้ ซึ่งนอกจากแมคโดนัลด์ เคเอฟซี และพิซซ่าฮัท แล้ว หูสี่ฯ ยังเป็นซัพพลายเออร์ให้กับเบเกอร์ คิง ซับเวย์ ปาป้าจอห์นส์พิซซ่า และสตาร์บัคในเซี่ยงไฮ้อีกด้วย ส่วนตลาดต่างประเทศ มีรายงานระบุว่า หูสี่ได้รับอนุญาตให้ส่งอาหารเข้าฮ่องกงและญี่ปุ่น แต่ก็ยังไม่มีรายงานแต่อย่างใดว่า มีการส่งอาหารหมดอายุไปยังประเทศเหล่านั้น
ปัญหาเรื่องความปลอดภัยด้านอาหาร เป็นเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นกับจีนอย่างไม่หยุดหย่อน เมื่อต้นปีที่ผ่าน (2557) บริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของอเมริกาอย่างวอลมาร์ท ก็สั่งตรวจสอบซัพพลายเออร์จากจีนหลังพบว่ามีการใช้เนื้อสุนัขจิ้งจอกแทนเนื้อลา
ส่วนเมื่อปีก่อน (2556) ก็มีรายงานว่าตำรวจจีนสามารถกักตัวผู้กระผิดอาชญากรรมความปลอดภัยด้านอาหารได้หลายร้อยคน รวมทั้งผู้หลอกขายเนื้อหนูและสุนัขจิ้งจอกที่น่าสะอิดสะเอียนแทนเนื้อวัวและเนื้อแกะ
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้น หลังดรากอนทีวี ของเซี่ยงไฮ้ เผย เทปบันทึกภาพการผลิตอาหารในโรงงานของบริษัทหูสี่ ฟูด คอมพานี (Husi Food Company) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของโอเอสไอ กรุ๊ป (OSI Group) บริษัทผลิตอาหารแปรรูปขนาดใหญ่ จากอิลลินอย์ ในสหรัฐอเมริกา โดยหูสี่ฯ เป็นซัพพลายเออร์หลักของแม็คโดนัลด์ พิซซ่าฮัท และเคเอฟซี ในจีน
หลังดรากอนทีวี ใช้เวลาลงพื้นที่แอบถ่ายทำเกือบสองเดือน ก็แพร่ภาพอัปยศในวงการอาหาร ซึ่งมีทั้งกระบวนการผลิตเนื้อ คนงานหยิบเนื้อที่หล่นกองกับพื้นใส่กลับลงไปในเครื่องจักร กระบวนการทำนักเก็ทส์ไก่ชื่อดังของแมคโคนัลด์ที่เสียแล้วให้ผ่านการตรวจสอบ นอกจากนี้ ดรากอนทีวียังเผยหนังสือจากฝ่ายการจัดการของบริษัทฯ ที่ระบุให้คนงานขยายวันหมดอายุของเนื้อแช่แข็ง 10 ตัน เพิ่มอีก 10 วัน ทั้งๆที่ มีรายงานว่าเนื้อล็อตนั้นมีสีเขียวและส่งกลิ่นแล้ว จากนั้นก็มีการเปลี่ยนแพ็คเกจ และนำเนื้อล็อตดังกล่าวกลับไปแช่ใหม่
อย่างไรก็ตาม ในรายงานของดรากอนทีวีระบุว่า ลูกค้าไม่รู้เรื่องการผลิตของบริษัทหูสี่ฯ แต่อย่างใด
ทั้งนี้ เมื่อกลุ่มผู้ตรวจสอบจากแมคโดนัลด์เข้าตรวจสอบโรงงานของบริษัทหูสี่ฯ เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา (2557) ก็มีการขนย้ายผลิตภัณฑ์ในถุงฟ้า ซึ่งใช้สำหรับอาหารที่ทิ้งแล้ว ออกไปซ่อน “เราเติมของพวกนั้นลงไปในช่วงที่มีการตรวจสอบไม่ได้” คนงานของหูสี่ฯ ที่ทำภารกิจลับนี้กล่าวกับผู้สื่อข่าวของดรากอนทีวี
“ถ้าพวกเขารู้เข้า เขาคงไม่ให้เราเติมของทิ้งแล้วลงไปแน่ และถ้าเรายังเติมมันลงไป พวกเขาก็จะยกเลิกการสั่งซื้อ”
สุดท้าย ในตอนท้ายของรายงานจากดรากอนทีวี ก็พบว่าคนงานขนถุงฟ้ากลับมาในสายการผลิต หลังจากที่การตรวจสอบเสร็จสิ้น
หลังแพร่ภาพออกไป ทั้งแมคโดนัลด์ และ ยัม แบรนดส์ (Yum Brands) เจ้าของลิขสิทธิ์พิซซ่าฮัท และเคเอฟซี ก็ออกมาระบุว่า พวกเขายุติการสั่งอาหารจากบริษัทหูสี่ฯ แล้ว ทำให้ตอนนี้สาขาในจีน อาจขาดแคลนอาหารบางรายการ ทั้งนี้ แมคโดนัลด์ก็ได้ออกมาขอโทษต่อเหตุดังกล่าว และระบุว่ากำลังตรวจสอบเรื่องนี้อยู่
เช่นเดียวกันกับยัม แบรนด์ ซึ่งระบุว่ากำลังตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด และเผยว่า รายการอาหารของพวกเขาที่ได้รับผลกระทบครั้งนี้ก็คือ ไส้กรอก เบเกอร์ไข่ และเมนูเบเกอร์สไปซีโรสต์ ส่วนแมคโดนัลด์ไม่ได้ระบุรายการอาหารที่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
ด้านซินหวา สื่อทางการของจีน ระบุ เจ้าหน้าที่จากองค์การอาหารและยาเซี่ยงไฮ้เข้าตรวจสอบโรงงานดังกล่าวเมื่อเย็นวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (20 ก.ค.) ทว่าถูกยามของบริษัทฯ กันไว้จนตำรวจต้องเข้ามายืนยันการตรวจสอบ
เจ้าหน้าที่ ระบุว่า ทางการสั่งปิดโรงงานในคืนนั้น และได้ยึดวัตถุดิบที่ต้องสงสัยไว้แล้ว นอกจากนี้ยังสั่งการให้ลูกค้าเก็บผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจากโรงงานหูสี่ฯ ออกจากท้องตลาด องค์การอาหารและยาเซี่ยงไฮ้ประกาศในไมโครบล็อกขององค์กร
อย่างไรก็ตาม หยาง ลี่ฉุน ผู้จัดการทั่วไปสายอาหารแปรรูปของบริษัทโอเอสไอ สาขาจีน ย้ำกับซินหวาว่า ทางบริษัทมีระบบควบคุมคุณภาพที่เข้มงวดมาก
อนึ่ง หูสี่ฯ เป็นบริษัทผลิตอาหารแปรรูปขนาดใหญ่ของเซี่ยงไฮ้ มีกำลังผลิตถึง 25,000 ตันต่อปี และเมื่อต้นปีที่ผ่านก็เพิ่งได้รับรางวัลความปลอดภัยด้านอาหารจากเขตเจียติง ของเซี่ยงไฮ้ ซึ่งนอกจากแมคโดนัลด์ เคเอฟซี และพิซซ่าฮัท แล้ว หูสี่ฯ ยังเป็นซัพพลายเออร์ให้กับเบเกอร์ คิง ซับเวย์ ปาป้าจอห์นส์พิซซ่า และสตาร์บัคในเซี่ยงไฮ้อีกด้วย ส่วนตลาดต่างประเทศ มีรายงานระบุว่า หูสี่ได้รับอนุญาตให้ส่งอาหารเข้าฮ่องกงและญี่ปุ่น แต่ก็ยังไม่มีรายงานแต่อย่างใดว่า มีการส่งอาหารหมดอายุไปยังประเทศเหล่านั้น
ปัญหาเรื่องความปลอดภัยด้านอาหาร เป็นเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นกับจีนอย่างไม่หยุดหย่อน เมื่อต้นปีที่ผ่าน (2557) บริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของอเมริกาอย่างวอลมาร์ท ก็สั่งตรวจสอบซัพพลายเออร์จากจีนหลังพบว่ามีการใช้เนื้อสุนัขจิ้งจอกแทนเนื้อลา
ส่วนเมื่อปีก่อน (2556) ก็มีรายงานว่าตำรวจจีนสามารถกักตัวผู้กระผิดอาชญากรรมความปลอดภัยด้านอาหารได้หลายร้อยคน รวมทั้งผู้หลอกขายเนื้อหนูและสุนัขจิ้งจอกที่น่าสะอิดสะเอียนแทนเนื้อวัวและเนื้อแกะ