เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์- การวิจัยด้านสังคมวิทยาเผยปรากฏการณ์ใหม่ทางสังคม วัยรุ่นในเขตชนบทจีนออกจากโรงเรียนกลางคันโดยที่ปัญหาเศรษฐกิจมิใช่สาเหตุหลัก แต่ด้วยเหตุเพราะอยากเห็นโลกกว้างและตามเพื่อนๆ จี้รัฐปรับเปลี่ยนนโยบายในชนบทใหม่ ไม่มัวแต่กระตุ้นตัวเลขการเติบโตเศรษฐกิจ
นโยบายการทุ่มสร้างเศรษฐกิจในชนบทของรัฐบาลจีน เพื่อให้ผู้ปกครองมีงาน มีกำลังส่งบุตรหลานเข้าเรียน สร้างบุคลากรเพื่อเป็นอนาคตที่ดีของชาติ คงไม่ใช่คำตอบสุดท้ายอีกต่อไป หลังผลการวิจัยทางสังคมวิทยา พบข้อเสนอใหม่
งานวิจัยทางสังคมวิทยา ศึกษาการพัฒนาวัยรุ่นในชนบท ผลงานของศาสตราจารย์หลิว เฉิงปิน จากมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหัวจง ทำการศึกษาเด็กวัยรุ่นประมาณ 1,000 คน จาก 66 หมู่บ้าน ใน 6 มณฑลทั่วประเทศ พบว่า เด็กมีอัตราหยุดเรียนกลางคันที่ 1 ต่อ 10 คน นั่นหมายความว่า ประเทศจีน มีเด็กหยุดเรียนกลางคัน ราวๆ 20-30 ล้านคน
“ผลการศึกษาทำให้เห็นว่า การหยุดเรียนกลางคันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมากในพื้นที่ชนบท” นายหลิว กล่าว
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ ปัญหาเศรษฐกิจมิใช่สาเหตุหลักที่กระตุ้นให้เกิดกระแสเด็กวัยรุ่นเลิกเรียนกลางคัน โดยกระแสฯ ดังกล่าวขยายตัวขึ้นนับตั้งแต่มีการบังคับใช้นโยบายการศึกษาภาคบังคับ 9 ปี ในชนบท
ทั้งนี้ กลุ่มตัวอย่างเกือบครึ่งที่ใช้ในการวิจัย ระบุว่า พวกเขาออกจากโรงเรียนและไปทำงานในเมือง เพราะ “มันทำให้เห็นโลกกว้างและได้ประสบการณ์ใหม่ในชีวิต” ในขณะที่ 30 เปอร์เซ็นต์ระบุว่า พวกเขาเลิกเรียนเพราะ “ใครๆเขาก็ทำกัน” งานวิจัย ชี้
“ผลวิจัยทำให้เห็นว่า เด็กๆ ตัดสินใจเลิกเรียนด้วยตัวเอง มิใช่เพราะถูกภาวะทางเศรษฐกิจกดดัน ไม่ว่าจะเรื่องค่าเทอม หรือ ค่าครองชีพ” นายหลิวสรุปผลซึ่งแย้งกับสิ่งที่คนทั่วไปเคยคิดกัน
นอกจากนี้ นายหลิว ยังระบุว่า กระแสการหันเหมาสู่แนวทางปฏิบัติที่สอดคล้องกับความเป็นจริง ได้กระตุ้นปรากฏการณ์ทางสังคมเช่นนี้
“ตามมุมมองของพวกเขา (ผู้ปกครอง) การเรียนไปจนถึงมหาวิทยาลัยไม่เพียงแต่ผลาญเงิน แต่ยังไม่ให้หลักประกันว่าจะมีงานที่มั่นคงอีกด้วย”
ด้วยเหตุนี้ นายหลิว จึงเสนอให้รัฐบาล ปรับเปลี่ยน “นโยบายกระตุ้นความเติบโตทางเศรษฐกิจ” ในภาคชนบท
“ประเด็นหลักคือ จะทำยังไงให้เด็กไม่ออกจากโรงเรียนไปทำงาน นี่คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยรักษาเสถียรภาพทางสังคมและการพัฒนาทางสังคมอย่างยั่งยืน” นายหลิว กล่าว
ทั้งนี้ การที่เด็กหยุดเรียนกลางคันเป็นจำนวนมาก นำพาซึ่งปัญหาสังคมร้ายแรง อาทิ อัตราอาชญากรรมที่เพิ่มสูงขึ้นในหมู่เด็กที่หยุดเรียน
เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา วัยรุ่นตกงาน 3 คนในเขตชนบทของปักกิ่ง ก็ตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งเพราะทำร้ายเด็กชายอายุ 14 ปางตาย ต่อมามีรายงานออกมาว่า กลุ่มเด็กอันธพาลเตร็ดเตร่อยู่นอกโรงเรียน คอยระรานและจี้ไถเงินจากเด็กนักเรียน
นโยบายการทุ่มสร้างเศรษฐกิจในชนบทของรัฐบาลจีน เพื่อให้ผู้ปกครองมีงาน มีกำลังส่งบุตรหลานเข้าเรียน สร้างบุคลากรเพื่อเป็นอนาคตที่ดีของชาติ คงไม่ใช่คำตอบสุดท้ายอีกต่อไป หลังผลการวิจัยทางสังคมวิทยา พบข้อเสนอใหม่
งานวิจัยทางสังคมวิทยา ศึกษาการพัฒนาวัยรุ่นในชนบท ผลงานของศาสตราจารย์หลิว เฉิงปิน จากมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหัวจง ทำการศึกษาเด็กวัยรุ่นประมาณ 1,000 คน จาก 66 หมู่บ้าน ใน 6 มณฑลทั่วประเทศ พบว่า เด็กมีอัตราหยุดเรียนกลางคันที่ 1 ต่อ 10 คน นั่นหมายความว่า ประเทศจีน มีเด็กหยุดเรียนกลางคัน ราวๆ 20-30 ล้านคน
“ผลการศึกษาทำให้เห็นว่า การหยุดเรียนกลางคันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมากในพื้นที่ชนบท” นายหลิว กล่าว
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ ปัญหาเศรษฐกิจมิใช่สาเหตุหลักที่กระตุ้นให้เกิดกระแสเด็กวัยรุ่นเลิกเรียนกลางคัน โดยกระแสฯ ดังกล่าวขยายตัวขึ้นนับตั้งแต่มีการบังคับใช้นโยบายการศึกษาภาคบังคับ 9 ปี ในชนบท
ทั้งนี้ กลุ่มตัวอย่างเกือบครึ่งที่ใช้ในการวิจัย ระบุว่า พวกเขาออกจากโรงเรียนและไปทำงานในเมือง เพราะ “มันทำให้เห็นโลกกว้างและได้ประสบการณ์ใหม่ในชีวิต” ในขณะที่ 30 เปอร์เซ็นต์ระบุว่า พวกเขาเลิกเรียนเพราะ “ใครๆเขาก็ทำกัน” งานวิจัย ชี้
“ผลวิจัยทำให้เห็นว่า เด็กๆ ตัดสินใจเลิกเรียนด้วยตัวเอง มิใช่เพราะถูกภาวะทางเศรษฐกิจกดดัน ไม่ว่าจะเรื่องค่าเทอม หรือ ค่าครองชีพ” นายหลิวสรุปผลซึ่งแย้งกับสิ่งที่คนทั่วไปเคยคิดกัน
นอกจากนี้ นายหลิว ยังระบุว่า กระแสการหันเหมาสู่แนวทางปฏิบัติที่สอดคล้องกับความเป็นจริง ได้กระตุ้นปรากฏการณ์ทางสังคมเช่นนี้
“ตามมุมมองของพวกเขา (ผู้ปกครอง) การเรียนไปจนถึงมหาวิทยาลัยไม่เพียงแต่ผลาญเงิน แต่ยังไม่ให้หลักประกันว่าจะมีงานที่มั่นคงอีกด้วย”
ด้วยเหตุนี้ นายหลิว จึงเสนอให้รัฐบาล ปรับเปลี่ยน “นโยบายกระตุ้นความเติบโตทางเศรษฐกิจ” ในภาคชนบท
“ประเด็นหลักคือ จะทำยังไงให้เด็กไม่ออกจากโรงเรียนไปทำงาน นี่คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยรักษาเสถียรภาพทางสังคมและการพัฒนาทางสังคมอย่างยั่งยืน” นายหลิว กล่าว
ทั้งนี้ การที่เด็กหยุดเรียนกลางคันเป็นจำนวนมาก นำพาซึ่งปัญหาสังคมร้ายแรง อาทิ อัตราอาชญากรรมที่เพิ่มสูงขึ้นในหมู่เด็กที่หยุดเรียน
เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา วัยรุ่นตกงาน 3 คนในเขตชนบทของปักกิ่ง ก็ตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งเพราะทำร้ายเด็กชายอายุ 14 ปางตาย ต่อมามีรายงานออกมาว่า กลุ่มเด็กอันธพาลเตร็ดเตร่อยู่นอกโรงเรียน คอยระรานและจี้ไถเงินจากเด็กนักเรียน