ASTVผู้จัดการออนไลน์ - “ยามที่จีนแผ่นดินใหญ่ถูกผูกโซ่ตรวนแห่งการควบคุม พวกเราชาวฮ่องกงผู้ซื่งครอบครองสิทธิและเสรีภาพอันชอบธรรม ย่อมมีหน้าที่เป็นตัวแทนจุดประกายแสงเทียนแห่งความอาลัย รำลึกถึงผู้ที่ต้องจากไปมิให้เสื่อมคลาย”
ประชาชนหลายหมื่นคนบนเกาะฮ่องกงได้ร่วมกันประกอบพิธีจุดเทียนเมื่อค่ำคืนวันพุธ (4 มิ.ย.) เพื่อระลึกถึงกรณีประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย ณ จัตุรัสเทียนอันเหมิน ของกลุ่มนักศึกษาและประชาชนจีน ที่สุดท้ายต้องจบลงพร้อมกลิ่นคาวเลือดของผู้เสียชีวิตจำนวนมากในวันที่ 4 มิ.ย. 2532 หรือเมื่อ 25 ปีก่อน
บรรดาผู้เข้าร่วมพิธีฯ ซึ่งทางผู้จัดงานระบุว่ามีมากกว่า 180,000 คน ต่างถือแท่งเทียนที่ส่องแสงสว่างไสว พลิกพื้นที่ขนาดหกสนามฟุตบอลของสวนสาธารณะวิคตอเรีย ปาร์ค ให้กลายเป็นมหาสมุทรที่พลิ้วไหวไปด้วยริ้วคลื่นแสงสีนวลตา
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นประเมินจำนวนฝูงชนอยู่ที่ราว 99,500 คน อย่างไรก็ดีมันถือเป็นการชุมนุมประจำปีครั้งใหญ่ที่สุดคราวหนึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา
นักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตยได้วางพวงหรีด ณ อนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นเป็นการชั่วคราว พร้อมอ่านรายชื่อผู้ที่ถูกสังหารระหว่างการปราบปรามของกองทัพเมื่อวันที่ 3-4 มิ.ย. 2532 ณ ใจกลางนครหลวงปักกิ่ง โดยจากการคาดการณ์ระบุว่า ผู้เสียชีวิตอาจเริ่มตั้งแต่หลายร้อยรายไปจนหลายพันราย ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นประชาชนผู้ไร้อาวุธต่อสู้
นอกจากนั้นผู้ร่วมพิธีฯ จำนวนมากได้โพกศีรษะด้วยผ้าขาวซึ่งปรากฏข้อความ “4 มิ.ย., 25 ปี” และป่าวร้องเพลงที่มีเนื้อหากระตุ้นให้พรรคคอมมิวนิสต์คว่ำคำตัดสินกรณีการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ประท้วงเมื่อ 25 ปีก่อน โดยรัฐบาลจีนในเวลานั้นกล่าวว่าการชุมนุมมีเป้าหมายโค่นล้มอำนาจการปกครองของพรรคฯ และพยายามผลักจีนเข้าสู่วังวนแห่งความสับสนอลหม่าน
แม้กาลเวลาจะล่วงเลยมานานนับสิบปี แต่เหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ดังกล่าวได้ทิ้งร่องรอยเสมือน “แผลเป็น” บนเรือนร่างพญามังกรจนถึงทุกวันนี้ ขณะที่รัฐบาลปักกิ่งก็ไม่เคยคิดอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แม้นจะมีกระแสเรียกร้องจากนานาชาติและกลุ่มสิทธิมนุษยชนทั่วโลกก็ตาม
ดังเช่นล่าสุดในวันพุธเดียวกัน นายหง เหล่ย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้กล่าวตอบโต้และยื่นประท้วงทางการทูตต่อรัฐบาลสหรัฐฯ หลังจากทำเนียบขาวเอื้อนเอ่ยแถลงการณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ประท้วงฯ ในอดีตนี้ โดยเรียกร้องให้สหรัฐฯ เคารพอำนาจอธิปไตย และไม่แทรกแซงกิจการภายในประเทศของจีน
อย่างไรก็ดี ฮ่องกงซึ่งยังคงปกป้องรักษาสิทธิเสรีภาพของพลเมืองตามรูปแบบชาติตะวันตก ได้สงวนความแตกต่างมาตลอด 17 ปี หลังหลุดพ้นจากการเป็นอาณานิคมของอังกฤษ
“ยามที่จีนแผ่นดินใหญ่ถูกผูกโซ่ตรวนแห่งการควบคุม พวกเราชาวฮ่องกงผู้ซื่งครอบครองสิทธิและเสรีภาพอันชอบธรรม ย่อมมีหน้าที่เป็นตัวแทนจุดประกายแสงเทียนแห่งความอาลัย รำลึกถึงผู้ที่ต้องจากไปมิให้เสื่อมคลาย” หลี่ จัวเหริน นักกฎหมายอนุรักษ์ประชาธิปไตย ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะผู้จัดงานกล่าว
ชมภาพบรรยากาศชาวฮ่องกงเดินขบวนและจุดเทียนรำลึกเหตุประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยของกลุ่มนักศึกษาและประชาชนจีน ณ จัตุรัสเทียนอันเหมิน (ภาพ เอพี/เอเอฟพี)