เอเจนซี--กรมศุลกากรจีนแถลงตัวเลขการค้าในวันนี้(10 เม.ย.) การนำเข้าลดฮวบที่ 11.3 เปอร์เซนต์/ปีต่อปี เท่ากับ 162,400 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่การส่งออก ก็ขยับลงมาที่ 6.6 เปอร์เซนต์ เท่ากับ 170,100 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้เกิดยอดเกินดุลการค้า 7,700 ล้านเหรียญสหรัฐ
การส่งออกที่ขยับลงมาอีกในเดือนที่แล้ว แต่การนำเข้าตกลงอย่างหนักหลังจากที่กระเตื้องขึ้นในเดือนก.พ. นั้น ได้ลากจีนกลับสู่ภาวะเกินดุลการค้า สภาพเช่นนี้ตอกย้ำถึงความไม่แน่นอนในแนวโน้มการค้า
ตัวเลขดังกล่าวทำให้การคาดการณ์ของตลาด ไขว้เขว โดยตัวเลขคาดการณ์ได้ระบุอัตราเติบโตการส่งออก ที่ 4.2 เปอร์เซนต์ และ 2.8 เปอร์เซนต์สำหรับการนำเข้า โดยเป็นการคาดการณ์ระดับกลางที่ประเมินจากการสำรวจกลุ่มนักเศรษฐศาสตร์ 16 คน รวบรวมโดย ดาว โจนส นิวไวร์ส (Dow Jones Newswires)
สถาณการร์การค้าในเดือนมี.ค. ที่ซึมเซาเช่นนี้ ยิ่งกระตุ้นกระแสวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจมังกร ทั้งนี้ก่อนหน้าก็ปรากฏสัญญาณความอ่อนเปลี้ยจากดัชนีเศรษฐกิจหลายตัว อันรวมถึงการใช้จ่ายของผู้บริโภคและผลผลิตอุตสาหกรรม
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทางการจีนประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดย่อม อันได้แก่ การต่ออายุมาตรการยกเว้นภาษีสำหรับกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก และมาตรการอุดหนุนแก่เขตเมืองที่ยากจน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง แถลงรายงานการดำเนินงานของรัฐบาลในที่ประชุมสภาผู้แทนประชาชน หรือรัฐสภาเมื่อเดือนที่แล้ว ระบุเป้าหมายอัตราเติบโตการค้าสองทางในปีนี้ ที่ 7.5 เปอร์เซนต์ โดยอัตราขยายตัวที่แท้จริงของปีที่แล้ว เท่ากับ 7.6 เปอร์เซนต์ พลาดเป้าของทางการซึ่งตั้งไว้ที่ 8 เปอร์เซนต์
ในเดือน ก.พ. จีนประสบภาวะขาดดุลการค้าอย่างไม่คาดคิด เท่ากับ 22,980 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเจ้าหน้าที่ชี้ว่ายอดขาดดุลฯที่เกิดได้ยากในจีนนี้ เป็นเพราะปัจจัยเทศกาลตรุษจีน.