รอยเตอร์ - ปักกิ่งเรียกร้องให้เปียงยางเปิดการเจรจาเกี่ยวกับโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือรอบใหม่ พร้อมประกาศจะไม่ยอมให้เกิดสงครามบนคาบสมุทรเกาหลี
จีนได้ขีดเส้นเกาหลีเหนือ โดยกล่าวว่าจีนจะไม่ยอมให้มีการเกิดจลาจล หรือสงครามบนคาบสมุทรเกาหลีเป็นอันขาด และหนทางเดียวที่จะก่อให้เกิดสันติภาพได้คือการยกเลิกโครงการนุกเสีย
โดยจีนขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศสำคัญในด้านการสนับสนุนทางการทูตและเศรษฐกิจต่อเกาหลีเหนือ ซึ่งในขณะนี้ถูกคว่ำบาตรโดยองค์การสหประชาชาติ เหตุเพราะไม่ยอมหยุดพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
แต่อย่างไรก็ตาม ความอดทนของปักกิ่งดูเหมือนจะเหลืออยู่น้อยเต็มทีหลังจากที่มีการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ถึง 3 ครั้ง และการแสดงแสนยานุภาพทางทหารอีกนับครั้งไม่ถ้วน รวมถึงการทดสอบการยิงขีปนาวุธ
ซึ่งเหตุการณ์ล่าสุดเกิดขึ้นในวันศุกร์ (7) ที่ผ่านมา ที่ปักกิ่งได้ส่งสัญญาณแสดงความกังวลอย่างหนักต่อเกาหลีเหนือจากรายงานว่า ขีปนาวุธของเปียงยางที่ถูกยิงทดสอบฝ่าเส้นทางบินของสายการบินพลเรือนจีนในวันพฤหัสบดี (6) ซึ่งพบว่าขีปนาวุธของเกาหลีเหนือนั้นเฉียดเครื่องบินโดยสารของสายการบินไชนา เซาเทิร์นแอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ซีแซด 628 จากกรุงโตเกียวของญี่ปุ่นมุ่งสู่เมืองเสิ่นหยาง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน หลังจากขีปนาวุธผ่านพ้นไปแล้วแค่ 7 นาที อ้างจากรอยเตอร์
“คาบสมุทรเกาหลีเป็นเสมือนหน้าบ้านของจีน ปักกิ่งต้องการขีดเส้นเกาหลีเหนือ ปักกิ่งจะไม่ยอมให้เกิดสงคราม หรือความไม่สงบเกิดขึ้นบนคาบสมุทรเกาหลีเป็นอันขาด” รัฐมนตรีต่างประเทศจีน หวัง ยี่ ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวนอกรอบเมื่อวานนี้ (8) ในการประชุมประจำปีของสภาผู้แทนประชาชน
โดยหวังเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอยู่ในความอดทน และเสริมว่าสิ่งเดียวที่จะทำให้เกิดสันติภาพขึ้นที่แท้จริงบนคาบสมุทรเกาหลีเหนือได้ก็ต่อเมื่อเกาหลีเหนือยกเลิกโครงการนิวเคลียร์เท่านั้น
ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จอห์น แคร์รี รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯได้เดินทางไปเยือนจีน และได้ให้สัมภาษณ์หลังจากการหารือกับจีนแล้วว่า จีนและสหรัฐฯได้หารือในเกี่ยวกับกดดันเกาหลีเหนือเพื่อให้ยกเลิกโครงการนิวเคลียร์
และนอกจากนี้หวังยังย้ำว่า จีนเรียกร้องให้มีการเปิดเจรจาอีกครั้งระหว่างเกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และรัสเซีย ที่มีจีนเป็นเจ้าภาพ “การเผชิญหน้ามีแต่จะทำให้เกิดความกดดันเพิ่มขึ้น และสงครามรังแต่จะนำหายนะมาสู่” หวังยังเสริมต่อว่า “การเจรจาบางครั้งจะยังดีกว่าไม่เคยพูดจาอะไรกันเลย และยิ่งเปิดเจรจาแต่เนิ่นๆ ย่อมดีกว่าปล่อยให้นานออกไป”