เจิงจื่อได้เข้ารับราชการสองครั้ง ทว่ากลับมีสภาพจิตใจที่แตกต่างกัน “ครั้งแรกนั้น ข้ายังอยู่ดูแลปรนนิบัติบิดามารดา ครั้งนั้น แม้ได้ข้าวตอบแทนเพียงสามฝู่ จิตใจก็เปี่ยมด้วยความสุขล้นเหลือ ในครั้งที่สอง แม้นข้าได้รับลาภผลตอบแทนถึงสามพันจง แต่ก็มิอาจนำลาภเหล่านี้ไปปรนเปรอบิดามารดาที่ล่วงลับ จิตใจข้าจึงโศกเศร้ายิ่งนัก”
ศิษย์ขงจื่อผู้หนึ่งเอ่ยถามขึ้นว่า “เราสามารถกล่าวได้หรือไม่ว่าเจิงจื่อเป็นผู้รอดพ้นจากบ่วงความวุ่นวายสับสน?”
“แต่เขาก็ติดบ่วงความสับสนแล้ว หากเขาไม่สับสน จะมีความโศกเศร้าได้อย่างไร? มิฉะนั้นแล้ว ข้าวสามฝู่หรือเงินสามพันจง ก็มิผิดอะไรกับนกกระจอกหรือยุงฝูงหนึ่งที่บินผ่านหน้าเขาไปเท่านั้น”
แปลเรียบเรียงตัดตอนจากหนังสือจวงจื่อ(庄子)