เริ่มแล้ว! คดีเอาผิด ‘มาเฟียใหญ่’ หลิว ฮั่น ที่อาจสาวถึง โจว หย่งคัง อดีต “ซาร์” ความมั่นคงจีน

ASTVผู้จัดการออนไลน์/เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์—จีนเริ่มพิจารณาไต่สวน นาย หลิว ฮั่นมหาเศรษฐีเหมืองแร่ขนาดใหญ่ ในข้อกล่าวหาก่ออาชญากรรมแบบมาเฟีย โดยมีเจ้าหน้าที่อาวุโสพรรคคอมมิวนิสต์จีนมากกว่า 150 คน เดินทางมาร่วมติดตามการพิจารณาคดีที่เมืองเสียนหนิง มณฑลหูเป่ย

การพิจารณาคดีในวันจันทร์(31 มี.ค.) นี้ ถือเป็นการไต่สวนที่เปิดสู่สาธารณะครั้งแรกของคดีที่อาจพัวพันกับการทุจริตของนายโจว หย่งคัง อดีต“ซาร์”ด้านความมั่นคงจีน ซึ่งปัจจุบันปลดเกษียณแล้ว

ขณะที่ศาลประชาชนชั้นกลางเมืองเสียนหนิงเริ่มพิจารณาคดีหลิว ฮั่น แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่พรรคฯเผยว่าในวานนี้(31 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ได้ยื่นฟ้องอดีตรองนายใหญ่ของกรมส่งกำลังบำรุงทหาร นายพลโท กู่ จวิ้นซัน ในข้อกล่าวหาหลายกระทง ได้แก่ ยักยอกเงิน รับสินบน โกงเงินหลวง และละเมิดอำนาจ ทั้งนี้ กู่ เป็นพันธมิตรสนิทของสีว์ ไช่โหว อดีต รองประธานคณะกรรมาธิการทหารกลาง

กลุ่มนักสังเกตการณ์ชี้ว่าการประกาศดำเนินคดีผู้ทรงอิทธิพลและเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ปรากฏไล่เลี่ยกันนี้ สะท้องถึงการขยายปฏิบัติการกวาดล้างคอรัปชั่นไปถึงรังเหล่า “เสือใหญ่” แล้ว

บรรดาผู้นำอาวุโสที่ตบเท้ามาเกาะติดการพิจารณาคดีนาย หลิว ฮั่น ที่เสียนหนิง ได้แก่ นายหลี่ เส้าผิง รองประธานศาลสูงสุดของประเทศ, นายจู เซี่ยวชิง รองหัวหน้าพนักงานอัยการ, กลุ่มเจ้าหน้าที่จากหน่วยความมั่นคง และหน่วยโฆษณาการอีกหลายคนจากทั้งเมืองและมณฑลต่างๆ ทั้งจากปักกิ่ง ซื่อชวน (หรือเสฉวน) หูเป่ย และก่วงตง

เจ้าหน้าที่ได้เคลียร์ถนนบริเวณรอบศาลประชาชนชั้นกลางของเมืองเสียนหนิงหลายชั่วโมงก่อนที่ขบวนอารักขารถของเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งหลายจะมาถึงในเวลา 8 โมงเช้า นอกจากนี้ยังมีการจัดกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบหลายร้อยนายดูแลความปลอดภัยและกันกลุ่มผู้สังเกตการณ์และผู้ร้องทุกข์ทั้งหลาย

ในคำฟ้องระบุว่านายหลิว วัย 48 ปี ถูกตั้งข้อกล่าวหาถึง 15 ข้อ ทั้งฆาตกรรม อาชญากรรมทางการเงิน การเปิดบ่อนการพนัน การค้าอาวุธปืนผิดกฎหมาย โดยอัยการระบุว่านายหลิวและพวกอีก 35 คนกอบโกยผลประโยชน์ไปแล้วถึง 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐจากอาชญากรรมดังกล่าวรวมทั้งฆาตกรรมไปแล้วอย่างน้อย 9 ศพ

อย่างไรก็ตามในคำฟ้องกลับไม่ปรากฏชื่อนายโจว ปินบุตรชายคนโตของนายโจว หย่งคัง ทั้งๆที่ในสำนวนส่งฟ้องของเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่านายโจวมีธุรกิจเกี่ยวของกับนายหลิวอย่างน้อย 2 บริษัท

แหล่งข่าวระบุว่าในปี 2546 นายโจว ปิน ขายบริษัทการท่องเที่ยวในซื่อชวนให้แก่นายหลิวด้วยราคาสูงถึง 20 ล้านหยวนแม้ว่ามูลค่าจริงของธุรกิจอยู่ที่ 6 ล้านหยวนเท่านั้น ทั้งนี้แหล่งข่าวระบุว่าเป็นเพราะนายหลิวต้องการ “รักษาสายสัมพันธ์อันดีกับนายโจวเอาไว้”

นอกจากนี้แหล่งข่าวยังระบุเพิ่มเติมอีกว่านายหลิวอดีตหัวหน้ากลุ่มธุรกิจรายใหญ่ “ซื่อชวน ฮั่นหลง” (Sichuan Hanlong) คนนี้มีความใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของซื่อชวนและอวิ๋นหนัน (ยูนนาน) ด้วยเช่นกัน

ในขณะที่ฝ่ายของนายหลิวเอง โดยนายจาง ชิงซง ทนายความของเขาก็ออกมาตอบโต้ว่าสื่อของรัฐเล่นข่าวใส่สีนายหลิวในแง่ลบจนเกินไป “ทุกวันนี้อัยการเคยชินกับการใช้สื่อของรัฐเอาผิดผู้ต้องสงสัยก่อนที่ศาลจะตัดสินด้วยซ้ำ สถานการณ์แบบนี้กฎหมายช่วยอะไรไม่ได้เลย” เขากล่าว

ทั้งนี้นายหลิวยื่นขอพยานเพื่อแสดงความบริสุทธิ์แต่ศาลปฏิเสธเนื่องจากยังไม่ถึงเวลาอันควร

ส่วนสมาชิกในครอบครัวของเขาซึ่งปฏิเสธจะเปิดเผยชื่อยืนกรานว่านายหลิวเป็นผู้บริสุทธิ์ “คุณเอาผิดเขาเรื่องอะไรก็ได้ จะเป็นเรื่องอาชญากรรมการเงินก็ได้ แต่เขาไม่ใช่พวกอันธพาล” เขากล่าว

คดีของนายหลิว ฮั่น ถือว่าได้รับความสนใจอย่างมากทั้งในและนอกประเทศจีน เนื่องจากเขาเป็นนักธุรกิจรายใหญ่ เป็นมหาเศรษฐีชาวจีนผู้ติดอันดับรวยที่สุดอันดับ 148 ของโลกในปี 2012 ตามการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บ อีกทั้งยังเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าทางการจีนเริ่มเอาจริงกับปัญหาการทุจริตในประเทศ

หายนะของนายหลิวครั้งนี้ ไม่ต่างจากที่กลุ่มนักธุรกิจใหญ่คนอื่นๆที่ถูกจับกุมในเมืองซื่อชวนซึ่งเป็นเขตฐานอำนาจของนายโจว หย่งคัง และ “การตกสวรรค์” ของพวกเขา ก็ส่งผลอย่างลึกซึ่งต่อกลุ่มผู้ประกอบการในพื้นที่

ดังที่นายหลิว หย่งเฮ่า อภิมหาเศรษฐีอีกคนหนึ่งของซื่อชวน เจ้าของนิว โฮบกรุ๊ป (New Hope Group) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทการเกษตรใหญ่สุดของจีน กล่าวในการประชุมสภาผู้แทนประชาชน หรือรัฐสภาจีนว่า การจับกุมตัวเจ้าของธุรกิจหลายคนในซื่อชวน กำลังเป็นประเด็นร้อนระอุในหมู่คนรวยแดนมังกร ที่กำลังนั่งหนาวๆร้อนๆกัน

อนึ่งการพิจารณาคดีนาย หลิว ฮั่น ครั้งนี้ คาดว่าจะกินเวลามากกว่าหนึ่งสัปดาห์

ด้านสำนักข่าวทางการจีน ซินหวา ระบุ การพิจารณาคดีฯนี้ เป็นการพิจารณาคดีแก๊งอาชญากรรมครั้งใหญ่สุดโดยรัฐบาลในช่วงเวลาที่เท่าจดจำได้

ทั้งนี้ จีนกำลังลุยล้างบางคอรัปชั่น หลังจากที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ประกาศขยายปฏิบัติการปราบปรามคอรัปชั่น โดยให้คำมั่นเด็ดเขี้ยวเล็บ ทั้ง “เสือใหญ่” ที่ทรงอิทธิพล และ “แมลงวัน” ตัวเล็กตัวน้อย.