เอเจนซี - กระทรวงต่างประเทศจีนเรียกร้องให้มาเลเซีย เปิดเผยข้อมูลทั้งหมด ตลอดจนหลักฐานชี้นำสู่ผลสรุปฯ ว่าเครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลนส์ ตกลงในทะเลเขตมหาสมุทรอินเดียตอนใต้ ขณะผู้เชี่ยวชาญฯ ยังไม่ปักใจเชื่ออ้างเป็นผลสรุปล่าสุด แต่ไม่ใช่ที่สุด
สื่อจีนรายงาน (25 มี.ค.) อ้างคำเรียกร้องของโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน นายหง เล่ย ที่เรียกร้องให้มาเลเซีย เปิดเผยข้อมูลทั้งหมด ตลอดจนหลักฐานชี้นำสู่ผลสรุปฯ ที่นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้ออกมาแถลงว่าเครื่องบินโดยสาร สายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH370 ได้บินไปสิ้นสุดที่กลางมหาสมุทรอินเดีย
รายงานข่าวกล่าวว่า คำเรียกร้องของกระทรวงต่างประเทศจีน มีขึ้นหลังจากที่เมื่อค่ำวานนี้ (24 มี.ค.) นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้ออกมาแถลงยืนยันเที่ยวบิน MH370 ที่สูญหายไปกว่า 2 สัปดาห์ ตกลงในมหาสมุทรอินเดีย และทางสายการบินได้แจ้งข่าวเศร้ากับญาติๆ แล้วว่าไม่มีใครบนเครื่องรอดชีวิต
“ดังนั้นมันจึงน่าเศร้าและเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ผมต้องแจ้งข่าวกับคุณว่า จากข้อมูลใหม่นี้ เที่ยวบิน MH370 สิ้นสุดลงในตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย” นาจิบ แถลงกับผู้สื่อข่าวโดยอ้างข้อมูลใหม่จากดาวเทียม
ภายหลังคำแถลงฯ ของผู้นำมาเลเซีย นายซี่ว์ หังเซิง ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศจีน ได้เชิญนายอิสคันดาร ซารุดิน ทูตมาเลเซียประจำประเทศจีน มาพบที่กระทรวงฯ เมื่อค่ำวันจันทร์ทันที และเรียกร้องผ่านไปยังรัฐบาลมาเลเซียให้ติดตามสอบสวนหาความจริงหลังจากมีคำประกาศยืนยันผลสรุปฯ เช่นนั้น
ทั้งนี้ คำแถลงฯ ของผู้นำมาเลเซีย มีขึ้นหลังจากที่พบหลักฐานใหม่ล่าสุดจากเรือของกองทัพเรือออสเตรเลีย ซึ่งรายงานว่าเห็นเศษชิ้นส่วนขนาดใหญ่ลอยอยู่กลางมหาสมุทรอินเดีย โดยนายกรัฐมนตรี โทนี แอ็บบอตต์ แห่งออสเตรเลีย แถลงวันจันทร์ (24) เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า เครื่องบินตรวจการณ์ของออสเตรเลีย พี 3 โอเรียน จากกองทัพอากาศฯ ระบุว่า พบวัตถุต้องสงสัยสองชิ้นอยู่ทางตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย ห่างจากเมืองเพิร์ธไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 2,500 กิโลเมตร โดยชิ้นแรกเป็นเป็นทรงกลมมีสีเทาหรือสีเขียว และชิ้นที่สองเป็นทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากและมีสีส้ม
ในเวลาเดียวกันนั้น ยังพบรายงานวิเคราะห์ภาพถ่ายทางดาวเทียมของอังกฤษ ที่ระบุว่าพบเที่ยวบิน MH370 ครั้งสุดท้ายกลางมหาสมุทรอินเดีย ทางตะวันตกของเมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย
“มันเป็นตำแหน่งที่ห่างไกล และไกลจากจุดที่เป็นไปได้ที่จะลงจอด” นายราซัค ผู้นำมาเลเซีย กล่าว
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวกล่าวว่า วัตถุดังกล่าวเป็นคนละส่วนกับที่เครื่องบินของคณะสำรวจค้นหาจีนพบเมื่อก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ขณะที่ก่อนหน้านั้น สำนักข่าวซินหวาก็รายงานว่า ผู้โดยสารของเครื่องบิน อิลยูชิน-76 ได้เห็นวัตถุขนาดใหญ่ 2 ชิ้นลอยอยู่ โดยมีวัตถุสีขาวขนาดเล็กกว่าจำนวนมากลอยกระจัดกระจายอยู่รอบๆ ภายในรัศมีหลายกิโลเมตร
บรรดาผู้เชี่ยวชาญจีน ต่างตั้งข้อกังขาหลายประการเกี่ยวกับข้อสรุปฯ ล่าสุดหลังการติดตามค้นหาเครื่องบินโดยสารที่สูญหายไปนานเป็นประวัติศาสตร์ครั้งนี้ โดย อู่ เป่ยซิน ผู้เชี่ยวชาญการบิน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่มาเลเซียสรุปผลการสืบสวนเครื่องบินจากการวิเคราะห์รายงานของ Air Accidents Investigation Branch (AAIB) และภาพถ่ายดาวเทียม Inmarsat
"อย่างไรก็ตาม เท่าที่รู้เวลานี้ ยังไม่มีใครนอกจากสองหน่วยงานนี้ หรือกระทั่งรัฐบาลมาเลเซียเอง ที่มีพยานหลักฐานสำคัญซึ่งสามารถยืนยันอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเครื่องบินสูญหายลำนี้" อู่ เป่ยซิน กล่าวและสงสัยว่ายังมีพยานอื่นใดหรือไม่ที่นำไปสู่ข้อสรุปต่อสาธารณชน หรือกระทั่งทีมสืบสวนของนานาชาติที่ร่วมค้นหาครั้งนี้
อู่กล่าวว่า หน่วยงานทั้งสองนี้ เป็นดาวเทียมของเอกชนฯ ไม่ใช่หน่วยงานการทหาร ซึ่งมีความน่าเชื่อถือได้มากกว่า ขณะที่การเข้าไปในพื้นที่กลางมหาสมุทรเพื่อค้นหาหลักฐานดังกล่าว อาจจะยังมีอุปสรรคเนื่องจากสภาพอากาศอันแปรปรวนรุนแรง และอาจจะต้องใช้เทคโนโลยีการติดตามค้นหาที่ล้ำหน้าจากกองทัพสหรัฐฯ
หวัง ย่าหนัน ผู้ช่วยบรรณาธิการนิตยสารอากาศยานของจีน เห็นด้วยกับนายอู่ โดยคิดว่าข้อสรุปล่าสุดนี้ยังอาจไม่ใช้ข้อสรุปสุดท้าย เพราะจนบัดนี้ยังไม่มีวัตถุพยานชัดเจนที่สามารถยืนยันเครื่องบินฯได้
"รัฐบาลมาเลเซีย ประกาศเพียงว่า เครื่องบินบินไปสิ้นสุดทางใต้ แต่ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม" หวัง ย่าหนันกล่าว
นายซ่ง เสี่ยวจุ้น ผู้เชี่ยวชาญการทหารฯ จากกรุงปักกิ่ง กล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าว ควรที่จะได้ผ่านการวิเคราห์จากคณะผู้เชี่ยวชาญฯ ก่อน เพื่อได้รับยืนยันรับรองความเห็นจากคณะค้นหาของนานาชาติซึ่งร่วมติดตามปฏิบัติหน้าที่ค้นหาเที่ยวบิน MH370 โดยเขายังรู้สึกสงสัยการออกมาด่วนสรุปฯ
ด้านยิ่น จ่าว ผู้เชี่ยวชาญในกิจการกองทัพเรือจีน ยืนยันว่า เรื่องราวทั้งหมดอยู่ที่การค้นหากล่องดำเท่านั้น ซึ่งจะทำให้รู้ข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับปริศนาของเครื่องบินเที่ยวบินนี้ แต่ก็เสริมว่า คงใช้เวลานานในการค้นหาฯ ขณะที่การแถลงของรัฐบาลมาเลเซียนั้น เขากล่าวว่า คงเป็นการแจ้งความคืบหน้าของการค้นหาฯ มากกว่า
เจ้าหน้าที่สอบสวนของฝรั่งเศสซึ่งเพิ่งจะเดินทางกลับมาจากกรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เผยว่าเคยหารือถึงความเป็นไปได้ด้านเทคนิคการค้นหาใต้น้ำกับเจ้าหน้าที่ของมาเลเซียแล้ว พร้อมกับพูดคุยกันถึงประสบการณ์ในการค้นหาใต้น้ำเครื่องบินเที่ยวบินริโอ-ปารีส เที่ยวบินเอเอฟ447 ของสายการบินแอร์ฟรานซ์ ซึ่งประสบอุบัติเหตุตกลงในมหาสมุทรแอตแลนติกเมื่อปี 2551 และทางเจ้าหน้าที่สอบสวนของฝรั่งเศสต้องใช้เวลานาน 23 เดือน กว่าจะพบซากเครื่องบิน
ขณะที่บรรดาครอบครัวของผู้โดยสารตกอยู่ในความโศกเศร้าจากคำแถลงของผู้นำมาเลเซีย นายเจิ้ง สี่ว์ ชาวหนันจิง ญาติของผู้โดยสาร 2 คนที่อยู่บนเครื่องฯ ยังคงสงสัยข้อสรุปฯ ที่ได้รับ และกล่าวกับ เซาท์ไชน่า มอร์นิงโพสต์ว่า มาเลเซียคงรู้ว่าเกิดอะไรกับเครื่องบิน และยืนยันว่าจะยังไม่ยอมจบเรื่องนี้ ตราบเท่าที่ยังไม่พบศพฯ
รายงานข่าวกล่าวว่า นับตั้งแต่เครื่องบินหายสาบสูญ ชาวจีนบางส่วนปักใจในทฤษฎีสมคบคิดและปฏิเสธข้อสรุปที่ว่าเครื่องบินประสบอุบัติเหตุฯ
"พวกเราจะไม่ล้มเลิกการตามหาครอบครัวของเรา และถ้าจำเป็นเราจะไปขอความช่วยเหลือจากนายกรัฐมนตรีจีน เราจะต้องหาญาติของเราให้เจอ" นายเจิ้ง สี่ว์ กล่าว