รอยเตอร์ - ทางการปักกิ่งแสดงความใส่ใจกับปัญหามลพิษในอากาศด้วยการยกระดับการเตือนภัยเป็นสีส้มเป็นครั้งแรก หลังจากเกิดหมอกควันหนาปกคลุมเมืองหลวงมาตั้้งหลายวันแล้ว
หลังจากถูกสื่อมวลชนของรัฐและผู้ใช้อินเตอร์เน็ตวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหามลพิษในอากาศ ที่เพิ่มสูงในช่วงสุดสัปดาห์ก่อน ในที่สุดทางการกรุงปักกิ่งจึงได้ประกาศยกระดับการเตือนภัยมลพิษในอากาศในเมืองหลวง ซึ่งมีทั้งหมด 4 ระดับ จากสีเหลืองเป็นสีส้มเป็นครั้งแรกเมื่อวันศุกร์ ( 21 ก.พ.) โดยการเตือนภัยสีส้ม ซึ่งเป็นระดับรองสูงสุดจากสีแดง ได้แนะนำให้โรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยธมศึกษา ตลอดโรงเรียนอนุบาลงดการสอนพลศึกษากลางแจ้ง แต่มิได้สั่งให้โรงเรียนปิดการสอน หรือห้ามรถยนต์ของหน่วยงานรัฐวิ่งบนถนน ซึ่งจะเกิดขึ้น เมื่อมีการเตือนภัยระดับสีแดง
สำนักอุตุนิยมวิทยาคาดว่า จะเกิดหมอกควันปกคลุมกรุงปักกิ่งในอีก 3 วันข้างหน้า อย่างไรก็ตาม สภาพการณ์ดังกล่าวเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงบ่ายวันศุกร์แล้ว โดยสามารถมองเห็นหมอกควันสีขาวแผ่ไปทั่วเมือง ขณะที่สถานทูตสหรัฐฯ วัดค่าของฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ซึ่งเป็นฝุ่นขนาดเล็ก ที่สามารถหลุดเข้าไปในปอดได้ถึงระดับ 378
สำนักงานป้องกันสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ กำหนดให้ปริมาณฝุ่น ที่สูงกว่าระดับ 300 จัดอยู่ในขั้นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน ปริมาณฝุ่นในกรุงปักกิ่งวัดได้สูงถึง 500
แม้ชาวเมืองบางคนแสดงความยินดี ที่ทางการประกาศยกระดับเตือนภัย แต่อีกหลายคนกลับสงสัยว่า เหตุใดทางการจึงไม่ประกาศเตือนภัยในระดับสูงสุด ซึ่งเหมาะสมกับสภาพการณ์ที่เป็นอยู่มากกว่า
“ ขอโทษเถอะ ต้องรอให้วัดค่าฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ทะลุตารางก่อนหรือ เราถึงจะเห็นการประกาศเตือนภัยสีแดง” ชาวเน็ตคนหนึ่งตั้งคำถามในเว็บไซต์เวยปั๋ว
ทั้งนี้ รัฐบาลจีน ซึ่งให้ความสำคัญกับเสถียรภาพและความสงบสุขในสังคม ได้ออกนโยบายและคำสั่งมากมายเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมในช่วงที่ผ่านมา เพื่อคลายความวิตกของประชาชน ที่อาศัยในกรุงปักกิ่ง โดยทุ่มเทงบประมาณ หรือแม้กระทั่งกำหนดบทลงโทษถึงขั้นประหารชีวิตในกรณี ที่เกิดความเสียหายร้ายแรง อย่างไรก็ตาม มาตรการเด็ดขาดเหล่านี้ขาดการบังคับใช้อย่างสม่ำเสมอในระดับท้องถิ่น ซึ่งทางการยังต้องพึ่งพารายได้จากเงินภาษีจากอุตสาหกรรม ที่ก่อมลพิษอยู่
ความไม่พอใจของประชาชนต่อสภาพอากาศ ที่สกปรกในกรุงปักกิ่งเห็นได้อย่างชัดเจนเมื่อวันศุกร์ ( 21 ก.พ.) เมื่อผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารของจีนผู้หนึ่งออกมาให้ความเห็นว่า หมอกควันในกรุงปักกิ่งอาจมีประโยชน์ในการป้องกันการโจมตีด้วยอาวุธเลเซอร์ของสหรัฐฯ ส่งผลให้สังคมออนไลน์รุมถล่มความคิดของเขากันอย่างหนักหน่วง