เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ - ทางการจีนและไต้หวันเตรียมส่งเจ้าหน้าที่ตั้งโต๊ะพูดคุยเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปี มุ่งสร้างบันไดก้าวข้ามกำแพงแห่งความขัดแย้ง และปูทางสู่การฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสองดินแดนให้ดียิ่งขึ้น
รายงานข่าว (28 ม.ค.) กล่าวว่า นายหวัง อี้ว์ฉี หัวหน้าสำนักงานกิจการจีนแผ่นดินใหญ่ (Mainland Affairs Council) ของไต้หวัน จะพบกับนายจัง จื้อจวิน หัวหน้าสำนักงานกิจการไต้หวันแห่งคณะมุขมนตรีจีน (the State Council’s Taiwan Affairs Office) หลังผ่านพ้นวันหยุดช่วงเทศกาลตรุษจีนของปีนี้ เพื่อร่วมปรึกษาหารือในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างสองดินแดน
ทั้งนี้ การประชุมครั้งสำคัญดังกล่าวถือเป็นการเผชิญหน้าครั้งแรกของเจ้าหน้าที่จากทั้งสองฟากฝั่ง นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามกลางเมืองจนนำไปสู่การแยกการปกครองในปี 2492 เมื่อผู้นำก๊กหมินตั๋งแพ้สงครามและถอยร่นมาตั้งรัฐบาลของตนเองที่เกาะไต้หวัน กลายเป็นปฏิปักษ์การเมืองกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
อย่างไรก็ดี หัวหน้าหวังปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดของวัน เวลา และสถานที่ในการประชุมครั้งประวัติศาสตร์
“เราอยู่ในขั้นตอนกำหนดแผนการเดินทางและข้อตกลงต่างๆ ซึ่งจะประกาศให้ทราบอีกครั้งในงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ” หวังกล่าวระหว่างร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับกลุ่มผู้สื่อข่าวภายในงานพบปะสื่อมวลชนเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ซึ่งจัดขึ้นวันนี้โดยสำนักงานกิจการจีนแผ่นดินใหญ่
ทว่า ยูไนเต็ด เดลี่ นิวส์ สื่อท้องถิ่นไต้หวัน รายงานก่อนหน้านี้ว่า เจ้าหน้าที่จีนและไต้หวันน่าจะพบปะกันที่นครหนันจิง (นานกิง) เมืองเอกของมณฑลเจียงซูทางภาคตะวันออกของจีนในวันที่ 16 ก.พ. ขณะที่สำนักข่าวกลางของไต้หวัน ระบุว่า นายหวังจะเดินทางเยือนจีนแผ่นดินใหญ่เป็นเวลา 4 วันในเร็วๆ นี้ ซึ่งอาจหมายถึงช่วงเทศกาลโคมไฟที่ตรงกับวันที่ 14 ก.พ.
ทางด้านนายหม่า อิงจิ่ว ผู้นำไต้หวันซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางเยือนประเทศฮอนดูรัสเป็นเวลา 8 วัน เผยว่า เขาไม่ได้มอบหมายภารกิจเฉพาะการใดๆ ในการประชุมกับจีนแผ่นดินใหญ่ครั้งนี้ อย่างไรก็ดี มันถือเป็น “ย่างก้าวสำคัญของการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองดินแดน”
“สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าทั้งสองด้านจะสามารถดำเนินการพูดคุยประเด็นสำคัญผ่านระดับเจ้าหน้าที่ตัวแทน อันจะช่วยสร้างหนทางสำหรับการเจรจาทางการเมืองระดับสูงขึ้นที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต” จอร์จ ไฉเว่ย ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยวัฒนธรรมจีนในกรุงไทเป แสดงความคิดเห็น