อัปยศวงการสีกากีแดนมังกร จนท.รัฐแค้นคู่อริ จ้างคนปลอมเป็นตำรวจ บุกทำร้าย

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - แค่สวมเครื่องแบบก็เป็นตำรวจได้แล้ว เจ้าหน้าที่ของมณฑลหูหนัน แค้นบริษัทผู้รับจ้างงานด้านวัฒนธรรม ส่งกลุ่มชายฉกรรจ์ในคราบผู้พิทักษ์สันติราษฎรบุกทำลายสำนักของบริษัทพังยับเยิน

ยามของบริษัท ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2556 เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ปักกิ่งไทมส์ว่า เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวปรากฏตัวตรงทางเข้าอาคารเมื่อเวลา 20.30 น. นำหน้าตำรวจเก๊จำนวนกว่า 200 คน ซึ่งสวมเครื่องแบบและติดตราเครื่องหมายของโปลิศหราบนหมวก ในมือกำกระบอง เตรียมพร้อมเงื้อง่า หวดฟาด เจ้าหน้าที่มณฑลหูหนันประกาศดังลั่นว่า ตำรวจมาปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย

จากนั้น โปลิศปลอมก็ฮือเข้าไปทุบทำลายเฟอร์นิเจอร์ภายในตึก 2 ชั้น แล้วฉกผลงานศิลปะทุกชิ้นตามคำสั่งของเจ้านาย

จากรายงานของปักกิ่งไทมส์ ตำรวจจริงได้รับแจ้งเหตุก็รุดมา แล้วเข้าต่อสู้กับ “เดอะโปลิศ ” แต่ดูเหมือนว่า ตำรวจจริงก็รู้เรื่องแผนการของเจ้าหน้าที่มณฑลหูหนันนี้ดีพอ ๆ กัน

“ ก็ไหนเอ็งบอกว่า จะไม่ลงมือคืนนี้ ข้าบอกให้พวกเอ็งรอไปก่อน หรือรอจนถึงพรุ่งนี้ เอ็งหลอกข้านี่หว่า ” เป็นเสียงของตำรวจจริงนายหนึ่ง ซึ่งพนักงานบริษัทบันทึกไว้ได้

พนักงานอีกคนเล่าว่า เมื่อตำรวจเดินทางถึง ชายฉกรรจ์นกรู้หลายคนได้แอบหลบหนีไปแล้ว ต่อมาทางบริษัทได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจให้กลับมาอีกครั้ง หลังจากพบว่า ตำรวจกำมะลออีกหลายสิบคนยังแอบซ่อนตัวอยู่ในห้องหนึ่ง

“ พวกผมไม่จำเป็นต้องกลับไปหรอก ผมรู้ว่า พวกนั้นเป็นนักศึกษา ที่ถูกว่าจ้างมาทั้งหมด บอกพวกนั้นให้ถอดเครื่องแบบซะ แล้ววางหมวก วางกระบองกองไว้ ผมจะไปเอาพรุ่งนี้เช้า” คำพูดของผู้พิทักษ์สันติราษฎรตัวจริง ตามที่พนักงานบริษัทอ้าง

“ ฉันเห็นว่าพวกนั้นเป็นนักศึกษาจริง ๆ น่ะแหละ คนหนึ่งม้วนชุดนักศึกษาเก็บไว้ ก่อนจะออกไป” พนักงานอีกคนเล่า

เหตุการณ์ตำรวจปลอมบุกถล่มพลเมืองดีเกิดสืบเนื่องมาจากบริษัทงานด้านวัฒนธรรม ซึ่งมีออฟฟิศใหญ่อยู่ในกรุงปักกิ่งได้ลงนามสัญญาร่วมลงทุนกับรัฐบาลท้องถิ่นเขตเทียนสิน เมืองฉังซา ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลหูหนันในปี 2554 ในโครงการก่อสร้างสวนอุตสาหกรรมวัฒนธรรม (cultural industries park) ขึ้นในเขตดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ในปีถัดมา รัฐบาลท้องถิ่นก็ยกเลิกสัญญากับบริษัท หลังจากมีการเปลี่ยนผู้บริหารในรัฐบาล โดยกล่าวหาว่า บริษัทดำเนินการขัดต่อยุทธศาสตร์การตลาดของสวน แต่ขณะนั้น ทางบริษัทได้ลงทุนไปแล้วถึง 50 ล้านหยวน บริษัทและรัฐบาลท้องถิ่นต่างก็ยื่นฟ้องเป็นคดีความกันในศาลมาจนขณะนี้

หลังเกิดเหตุบุกถล่ม ทางบริษัทได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นต่อคณะกรรมการตรวจสอบวินัยของพรรคคอมมิวนิสต์และสำนักงานตำรวจประจำมณฑลหูหนัน เพื่อให้ดำเนินการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่นักเลงผู้นี้แล้ว