เอเยนซี - โรงเรียนหลายแห่งในมณฑลทางภาคตะวันออกของจีนต้องเปลี่ยนสถานที่เคารพธงชาติจากสนามกลางแจ้งมาเป็นห้องเรียน หลังสถานการณ์มลพิษทางอากาศยังคงเข้าขั้นวิกฤตอย่างต่อเนื่อง ด้านสื่อโทรทัศน์จีนงานเข้า เผยแพร่บทความสวนกระแส บอก “หมอกพิษ” ก็มีข้อดี ชาวเน็ตพากันก่นด่า เอาเวลาไปแก้ปัญหา ดีกว่าพูดจาไร้สาระ
รายงานข่าว (10 ธ.ค.) กล่าวว่า โรงเรียนหลายแห่งในมณฑลใกล้ปากแม่น้ำแยงซี ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศ ต้องเผชิญกับ “หมอกพิษ” ที่ขยายวงกว้างและทิ้งช่วงยาวนานมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อน โดยโรงเรียนประถมในมณฑลเจียงซูได้รับคำสั่งงดการเรียนการสอน หลังจากรัฐบาลท้องถิ่นประกาศเตือนภัยสภาพอากาศระดับสูงสุด ขณะที่โรงเรียนประถมผู่จย๋าในเมืองหังโจว ต้องยกเลิกพิธีเคารพธงชาติกลางแจ้งประจำสัปดาห์ของวันจันทร์ (9 ธ.ค.) ที่ผ่านมา
โฆษกของโรงเรียนผู่จย๋าระบุว่า การยกเลิกดังกล่าวเป็นไปเพื่อปกป้องนักเรียนจากหมอกพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยทางโรงเรียนยืนยันว่าพิธีการต่างๆ แม้กระทำในอาคาร แต่ก็ไม่ได้แตกต่างจากขั้นตอนปกติอย่างใด นักเรียนยังคงร้องเพลงชาติคลอไปกับเสียงดนตรี รวมถึงการกล่าวสุนทรพจน์ของตัวแทนนักเรียนดังเดิม
โรงเรียนนานาชาติจื้อหยวนในเมืองหนันจิงก็จัดพิธีเคารพธงชาติภายในห้องเรียนเช่นเดียวกัน โดยเจ้าหน้าที่เผยว่า เป็นเรื่องปกติที่จะดำเนินกิจกรรมภายในอาคารเรียน หากสภาพอากาศภายนอกค่อนข้างเลวร้ายหรือเป็นอันตราย
ทั้งนี้ หลายพื้นที่ของจีนเริ่มเผชิญกับคลื่นอากาศหนาวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นปัจจัยเสริมที่ทำให้มลพิษทางอากาศย่ำแย่ลงกว่าเดิม โดยเฉพาะพื้นที่มณฑลริมชายฝั่งของประเทศ ที่มีค่าดัชนีคุณภาพอากาศอันเป็นมาตรฐานที่ใช้ประเมินระดับมลพิษพุ่งสูงเกินระดับ 100 หน่วย จนทางการต้องประกาศเตือนให้ประชาชนป้องกันตนเองจากฝุ่นพิษขนาดเล็ก หรือ PM2.5 ด้วยความระมัดระวัง
สื่อออนไลน์จีน รายงานวานนี้ว่า สถานีโทรทัศน์กลางแห่งชาติจีน (CCTV) ได้เผยแพร่บทความ “5 ข้อดีน่าประหลาดใจใต้ม่านหมอกพิษของจีน” ผ่านเว็บไซต์ เมื่อวันจันทร์ (9 ธ.ค.) ที่ผ่านมา ซึ่งกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมของตรรกะความคิด โดยบทความร้อนแรงชิ้นดังกล่าวระบุข้อดี 5 ประการของหมอกพิษที่คุกคามประชาชนจีนอยู่ในขณะนี้ว่า
หมอกพิษช่วยทำให้ชาวจีนรวมเป็นหนึ่งเดียว โดยเฉพาะ “เสียงตำหนิติเตียน” เกี่ยวกับสภาพอากาศที่นำพาพลเมืองจีนมายืนอยู่ในจุดเดียวกัน เพราะหมอกพิษนั้นปรากฏอยู่ในทุกพื้นที่ ตั้งแต่หัวเมืองใหญ่ไล่จนถึงหมู่บ้านเล็กๆ ในชนบท
หมอกพิษสร้างความเท่าเทียมในสังคม ไม่ว่ามหาเศรษฐีพันล้านหรือประชาชนคนธรรมดาเดินถนนต้องเผชิญกับอากาศเลวร้ายเหมือนกันทั้งหมด แม้ว่าคนร่ำรวยอาจหลบซ่อนตัวอยู่ใต้หลังคารถคันหรู ราคาแพงได้ แต่คงไม่ใช่ทุกครั้ง ทุกเวลาเสมอไป เพราะท้ายที่สุดก็ต้องกลับมาสู้กับหมอกพิษอีกเช่นเดิม
หมอกพิษกระตุ้นความตื่นรู้บางอย่างของชาวจีน โดยมันช่วยย้ำเตือนให้ประชาชนรับรู้ว่า แม้ประเทศจะได้รับการขนานนามให้เป็น “โรงงานโลก” ฟันเฟืองสำคัญที่คอยขับเคลื่อนเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาล แต่ก็ต้องจ่าย “ราคาค่างวด” ที่แพงไม่แพ้กันคืนให้กับสิ่งแวดล้อมด้วย
หมอกพิษสร้างอารมณ์ตลกขบขัน แม้ยามที่ต้องดิ้นรนต่อสู้กับหมอกหนาทึบ ดังคำเสียดสีที่ชาวจีนมักล้อเลียนว่า “เรามิอาจปล่อยมือแยกจากกันได้เมื่อเดินบนถนน ... เพราะหมอกพิษอาจบดบังจนไม่มีวันได้เจอกันอีก”
หมอกพิษทำให้ชาวจีนใฝ่หาความรู้ โดยเฉพาะการพยากรณ์อากาศ ภูมิศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี หรือแม้แต่ประวัติศาสตร์ เพื่อวางแผนรับมือปัญหามลพิษทางอากาศรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกวัน
อย่างไรก็ดี เว็บไซต์ได้ลบบทความดังกล่าวออกไป หลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เชิงลบมากขึ้นเรื่อยๆ โดยผู้ใช้เวยปั๋ว (เว็บไมโครบล็อคคล้ายทวิตเตอร์) จำนวนมากต่างติเตียนแนวคิดดังกล่าวอย่างกว้างขวาง และเรียกร้องให้รัฐบาลใส่ใจไปที่การแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังมากกว่าการพูดไร้สาระเช่นนี้
“แค่มีใครสักคนหนึ่งเจ็บป่วยเพราะหมอกพิษ มันก็เป็นเรื่องโง่เง่าเกินที่จะพูดแบบนี้ออกมาแล้ว” ชาวเน็ตรายหนึ่งกล่าว
